Social :



หวั่นไม่โปร่งใส“ธนาธร”ชำแหละงบกลาโหม-ยืนยันลาออกกมธ.ไม่เกี่ยวคดี

02 ธ.ค. 62 07:12
หวั่นไม่โปร่งใส“ธนาธร”ชำแหละงบกลาโหม-ยืนยันลาออกกมธ.ไม่เกี่ยวคดี

หวั่นไม่โปร่งใส“ธนาธร”ชำแหละงบกลาโหม-ยืนยันลาออกกมธ.ไม่เกี่ยวคดี






"ธนาธร" จัดบรรยายพิเศษ ชำแหละงบกลาโหม ชี้ตั้งระบบตรวจสอบบัญชีเอง หวั่นไม่โปร่งใส พร้อมยืนยันลาออก กมธ. ไม่เกี่ยวคดี

การจัดบรรยายพิเศษของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ วันนี้นำข้อมูลงบประมาณของกระทรวงกลาโหมมาเปิดเผย พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหมทำข้อตกลงพิเศษกับกระทรวงการคลัง เรื่องการใช้เงินนอกงบประมาณว่า จะมีการตั้งระบบตรวจสอบและระบบบัญชีเอง ซึ่งทำให้ตรวจสอบยากและอาจเกิดความไม่โปรงใส รวมถึงแตกต่างจากกระทรวงอื่นๆ ที่หากจะใช้เงินนอกงบประมาณจะต้องหารือร่วมกับกระทรวงการคลังก่อน

ขณะเดียวกัน นายธนาธร ยกตัวอย่างกรณีที่กระทรวงกลาโหมเคยนำเงินนอกงบประมาณไปให้บริษัทอาร์อีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด มหาชน กู้ 1200 ล้านบาท โดยไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งบริษัทดังกล่าว มีกองทัพบก ถือหุ้น 50% และมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ประมาณ 10 คน ถือหุ้นอีก 50% ขณะที่ข้อมูลของกรมธุรกิจการค้า พบว่าบริษัทดังกล่าวมีทุนจดทะเบียนเพียง 10
Lif
ล้านบาท และขาดทุนตอเนื่องหลายปีรวมเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาทอยู่แล้ว





นายธนาธร ยังเล่าถึงการสอบถามข้อมูลเรื่องงบปฏิบัติการด้านข่าวสาร หรือ ไอโอ ในระหว่างที่ตนเองยังเป็นกรรมาธิการวิสามัญฯ ว่า พยายามสอบถามกระทรวงกลาโหม เรื่อง การปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร เนื่องจากไม่ปรากฏงบประมาณที่ใช้แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีปฏิบัติการนี้อยู่ เช่น มีเฟซบุ๊กเพจกองพันทหารราบที่ 3 ทหารราบที่ 152 ซึ่งระบุที่ตั้งว่าอยู่ในค่ายทหาร แต่ปัจจุบันเพจนี้ถูกปิดไปแล้ว เพราะถูกรีพอร์ตเนื่องจากข้อมูลที่เพจสร้างขึ้นเกือบทั้งหมดเป็นข้อมูลเท็จที่มีเป้าหมายสร้างความเกลียดชัดในสังคม

ทั้งนี้นายธนาธร ยังกล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งกรรมาธการฯในสภา เพื่อมาต่อสู่รวมกับประชาชน จนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็นการปลุกมวลชนลงสู่ถนน ว่า ถ้าต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องเปิดพื้นที่ทางการเมืองใหม่ๆ เมื่อพวกเขาไม่ต้องการเห็นผมในสภา ก็ขอเลือกออกมาทำการเมืองแบบใหม่ด้วยวิธีของตัวเอง พร้อมยืนยันว่า การลาออกในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความของตนเองและพรรคอนาคตใหม่ เพราะเห็นแล้วว่าระบบรัฐสภาเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ และย้ำว่าพรรคอนาคตใหม่ยังคงตั้งใจทำงานภายใต้ระบบรัฐสภา ซึ่งพรรคได้นำเสนอนโยบายที่ต้องการผลักดันเข้าสู่สภาแล้ว โดยเฉพาะผลกระทบที่มาจากมาตรา44 และคำสั่งคสช. ที่เป็นการทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของนยปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ จะเป็นผู้นำที่จะผลักดันนโนบายให้กลายเป็นกฎหมายต่อไป

โดยหลังจากนี้จะมีการรวมตัวมวลชนเฉพาะเรื่องใช่หรือไม่ นายธนาธร ย้ำว่า ส่วนตัวไม่สามารถจะพูดอย่างนั้นได้ ทั้งหมดอยู่ที่ความรู้สึกของประชาชน ไม่ได้อยู่ที่ตนเองว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าตนเองจะทำอะไรถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยก็จะไม่เกิดขึ้นอยู่แล้ว


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด