Social :



จัดเต็ม! พท.จี้ป่าไม้-สปก.เข้มกม.จัดการ”ปารีณา”

10 ธ.ค. 62 07:12
จัดเต็ม! พท.จี้ป่าไม้-สปก.เข้มกม.จัดการ”ปารีณา”

จัดเต็ม! พท.จี้ป่าไม้-สปก.เข้มกม.จัดการ”ปารีณา”





เพื่อไทย ถามพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความสุขกับกาสรร่วมงานพลังประชารัฐหรือไม่ ย้ำเศรษฐกิจใหม่ ยังร่วมเป็นฝ่ายค้าน - จี้ป่าไม้ สปก.เข้มกม.จัดการ "ปารีณา"


นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการซื้องูเห่าหรือแจกกล้วยเพื่อหามือไปช่วยรัฐบาล ว่า พรรคพลังประชารัฐออกมาพูดเรื่องนี้ และพูดทำนองว่าคนที่ออกมาเปิดเผยเป็นการเล่นการเมืองน้ำเน่า ซึ่งตนมองว่าหลักฐานปรากฎชัดขนาดนี้ ไม่มีความจำเป็นต้องพูดอะไร ถ้าถามฝ่ายค้านว่ามีความพยายามซื้องูเห่าหรือแจกกล้วยจริงหรือไม่ ฝ่ายค้านยืนยันมีแน่นอน หากถามประชาชนประชาชนก็ยืนยันว่ามีแน่นอน แต่ตนอยากให้พรรคพลังประชาชารัฐหันไปถามพรรคร่วมรัฐบาลว่าพรรคร่วมรัฐบาลเชื่อเรื่องการซื้องูเห่าหรือไม่ก็จะได้รับคำตอบไม่ต่างกับถามฝ่ายค้านและประชาชน

ทั้งนี้ คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดของการทำสิ่งนี้คือพรรคพลังประชารัฐ  คนที่เสียประโยชน์คือประชาชน เศรษฐกิจยังมีความวิกฤต ยิ่งมีความหวาดระแวงไม่ไว้ใจกันเช่นนี้ ก็ยิ่งวิกฤต ถ้ามันจะมีการเมืองน้ำเน่า ขอให้ไปโทษคนทำ ซึ่งเป็นคนที่อยู่รอบตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพรรคพลังประชารัฐ  แทนที่จะโทษคนเปิดเผย ให้ถามพรรคร่วมรัฐบาลว่ายังมีความสุขกับการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่





พร้อมกันนี้ นายอนุสรณ์  กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านและการมีส่วนร่วมของประชาชน (วิปนอกสภา) ที่มีประเด็นเรื่องพรรคเศรษฐกิจใหม่อาจย้ายไปร่วมกับฝ่ายรัฐบาล. ว่า ผู้แทนจากพรรคเศรษฐกิจใหม่คือนายบุญเลิศ เหลียงกอบกิจ และนายประพันธ์ เอี่ยมศิริ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค ยืนยัน ว่ายังนับเป็น1ใน7ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน และยืนยันในเจตจำนงของการทำงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านต่อไป

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมเขต 7 จ.ขอนแก่น ว่า ระหว่างการลงพื้นที่หาเสียงของพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นรถหาเสียงของพรรคพลังประชารัฐ ไม่เห็นป้ายหาเสียงนโยบายต่างๆของพรรคพลังประชารัฐ  ที่ประกาศว่าพลังประชารัฐชนะแน่ๆ ตนขอถามว่าจะเอาอะไรมาชนะ หาเสียงก็ไม่หาเดินก็ไม่เดิน ป้ายนโยบายของพรรคก็ไม่มี รถแห่หาเสียงก็ไม่เห็น จึงเสนอว่าประกาศให้ชัดว่าใครมาลงในนามพรรคพลังประชารัฐ อย่าหาเสียงโดยวิธีการยิงโฆษณาบิดเบือน ให้คนเข้าใจว่าชูผู้สมัครและพร้อมทำงานในพื้นที่ ประกาศให้ชัดว่าเมื่อชนะจะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้
MulticollaC
ตนไปอยู่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตนไม่สบายใจ มีข่าวว่าทีมงานของพรรคพลังประชารัฐบุกเข้ามาในที่พักของเพื่อไทย และได้มีการแจ้งความแต่ก็ได้แค่ไกล่เกลี่ย ทั้งนี้จึง เรียกร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ดำเนินการเลือกตั้งอย่างสุจริตเที่ยงธรรมตรงไปตรงมา อย่ามาบอกว่าไม่ใช้อำนาจรัฐเพราะคนในท้องที่รู้ดี

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีการถือครองที่ดินส.ป.ก.และกรมป่าไม้ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า เริ่มรู้สึกว่าอาจจะหวังกับหน่วยงานส.ป.ก.ไม่ได้ รวมถึงกรมป่าไม้ ด้วย จึงตั้งคำถามว่าถ้าน.ส.ปารีณา ไม่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ไม่มีภาพกอดกับพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะรอดอย่างวันนี้หรือไม่ ตนจึงขออย่าทำตัวเหมือนเตี้ยอุ้มค่อม ซึ่งคนอุ้มก็ป่วยคนถูกช่วยก็ไม่สบาย ดังนั้นจึงเรียกร้องว่าทั้งกรมป่าไม้ ทั้งส.ป.ก.ประชาชนยังรออยู่ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รัฐบาลมาแล้วไปแต่ข้าราชการยังอยู่กับประชาชนต้องดำรงไว้ซึ่งเกียรติยศศักดิ์ศรีดำเนินงานอย่างตรงไปตรงมา




ขณะที่ นายทวี ไกรคุปต์ บิดาของน.ส.ปารีณา บอกว่าที่ผืนดังกล่าวซื้อมาจากทหาร จึงตั้งข้อสังเกตว่าเคยมีนโยบายทหารทวงคืนผืนป่า แล้วมีคำถามว่ามีทหารไว้ทำไม และขณะนี้มีคำถามเพิ่มว่ามีทหารไว้รุกป่าหรือไม่  ที่ทหารทวงผืนป่าคือทวงมาให้นักการเมืองหรือทวงมาให้ผู้ถืออำนาจรัฐหรือไม่ ดังนั้น จึงขอเรียกร้อง เพราะไม่คาดหวังรัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐที่พยายามจะช่วย แต่หวังส.ป.ก.หวังกรมป่าไม้  และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกรุณาอย่าออกมาชี้นำข้าราชการจนเสียขบวน ขอให้เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา

ขณะที่ นายชุมสาย ศรียาภัย รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวถึงกรณีการถือครองที่ดินส.ป.ก.และกรมป่าไม้ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า กรณีนี้ มีความน่าสงสัย ในหลายประการ โดยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของข้อเท็จจริง ต้องเน้นย้ำให้เข้าใจว่า น.ส.ปารีณา ที่ได้ครอบครองที่ดินดังกล่าว ตั้งแต่ยังเป็นป่าสงวน ยังไม่ได้เป็น ส.ป.ก. ดังนั้นเรื่องนี้ ข้อกฎหมายระบุว่า หากกระทำความผิดตั้งแต่วันใด ให้เริ่มนับตั้งแต่วันนั้น แม้ภายหลังจะมีการประกาศเป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ก็ไม่ได้ทำให้การครอบครองในอดีตพ้นผิด ป่าสงวนที่มีสภาพเสื่อมโทรม ทางราชการจะจัดสรรให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. และออกพระราชกฤษฎีกาให้ประชาชน เข้าไปทำประโยชน์ได้ แต่กรณีนี้คือการครอบครองมาก่อน ฉะนั้นจะมาอ้างไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ไม่มีกฎหมายใด ที่ระบุว่า ในสภาพที่เป็น ส.ป.ก. แล้ว ได้คืนให้กับสำนักงานเลขาธิการ ส.ป.ก. จะทำให้ความผิดเดิมพ้นผิดไปด้วย  อีกข้อเท็จจริง มีการพยามจากทางฝ่ายรัฐบาล บอกว่าการให้คืนที่ดินภายใน 7 วัน จะไม่มีความผิด ส่วนตัวเข้าใจว่า ตรงนี้ไม่มีกฎหมายใดๆให้อำนาจ อาจจะเป็นเพียงความเห็นเท่านั้น ตนก็มองว่าไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ฉะนั้นเรื่องดังกล่าว ก็คงอยู่ในอำนาจของกรมป่าไม้ และกรมป่าไม้เป็นผู้เสียหาย หากละเลย ก็อาจจะมีความผิดกรณีละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ได้



ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด