Social :



เธอเปลี่ยนไป! เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก

10 ธ.ค. 62 19:12
เธอเปลี่ยนไป! เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก

เธอเปลี่ยนไป! เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก






ก่อนที่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019-20 จะเปิดฉากขึ้นนั้น ถ้ามีใครบอกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นแชมป์ลีกมาถึง 2 ซีซั่นติดต่อกัน จะไม่ได้เป็นจ่าฝูง และตามหลังใครก็ตามที่เป็นจ่าฝูงห่างถึง 14 คะแนน หลังจากผ่านไปเพียง 16 นัด คนๆ นั้นก็คงโดนหัวเราะเยาะใส่หรือไม่ก็โดนเยาะเย้ยอย่างหนัก
   อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในตอนนี้เป็นสิ่งที่คนของ แมนฯ ซิตี้ ขำไม่ออก หลังจากพวกเขาเพิ่งเก็บได้เพียง 32 คะแนน จากการลงเล่น 16 นัด สวนทางกับ ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงที่โกยไปแล้ว 46 คะแนน แถมตอนนี้ทีมของกุนซือ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ก็แพ้ในลีกไปแล้ว 4 นัด ซึ่งถือว่าเท่ากับการแพ้ในลีกตลอดทั้งซีซั่นก่อนของพวกเขา

เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก


   แน่นอนว่าถ้าพูดถึงปัจจัยต่างๆ แล้วนั้น มันก็มีหลายอย่างที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ฟอร์มแย่ลงจากฤดูกาลก่อนเยอะ อย่างเช่นการไม่ซื้อเซนเตอร๋แบ็กฝีเท้าดีมาร่วมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เป็นต้น ซึ่งวันนี้มันมีตัวเลขที่น่าสนใจ 3 ด้าน ที่บ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าในซีซั่นนี้ทีมของ กวาร์ดิโอล่า มีปัญหาอย่างมาก

 - การปล่อยโอกาสให้คู่แข่งได้ยิง

   แว็งซ็องต์ ก็องปานี เคยเป็นกัปตันทีมชั้นยอดและกำแพงเหล็กให้กับเกมรับของ แมนฯ ซิตี้ ถึงแม้ซีซั่นก่อนเขาจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเก่า แต่เขาก็ยังช่วยทีมได้ดีในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ การที่ ก็องปานี บอกลาทีมไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่แย่พอตัวสำหรับ แมนฯ ซิตี้ อยู่แล้ว

เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก
  ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งที่ตัวเลือกในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กน้อยลง แต่ แมนฯ ซิตี้ กลับไม่ทุ่มเงินคว้าใครเข้ามาชดเชยในตำแหน่งนั้น ที่จริงพวกเขาเคยมีข่าวว่าจะแย่ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหมือนกัน ก่อนที่สุดท้ายจะถอนตัวไป โดยบางรายงานบอกว่าคนของ "เรือใบสีฟ้า" มองว่าค่าตัวของ แม็กไกวร์ สูงเกินไป

  จริงอยู่ จอห์น สโตนส์ กับ อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ เป็นกองหลังที่มีฝีเท้าดีในระดับหนึ่ง แต่นอกจากทั้งคู่แล้วมันก็ไม่มีใครที่พอจะไว้เนื้อเชื่อใจได้ ดังนั้นพอทั้งคู่มีปัญหาอาการบาดเจ็บมันก็เลยทำให้เกมรับของ แมนฯ ซิตี้ ย่ำแย่ลงอย่างมาก





  ในฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ เสียประตูในลีกไปแล้ว 19 ลูก ทั้งที่เพิ่งเล่นในลีกไปเพียง 16 นัด และถ้าเจาะลึกไปแล้วก็จะเห็นว่ามันไม่แปลกเท่าไหร่ที่พวกเขาจะเสียประตูมากขนาดนั้น เพราะในฤดูกาลนี้ แมนฯ ซิตี้ มีค่าเฉลี่ยการปล่อยให้คู่แข่งในลีกมีโอกาสยิงประตูในจังหวะที่มีแววเป็นประตูสูงมากถึง 1.04 ครั้งต่อเกม ทั้งที่ใน 3 ซีซั่นก่อนหน้านี้นั้น แมนฯ ซิตี้ ยุคของ กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสทองในการทำประตูเฉลี่ยถึง 1 ครั้งต่อเกมเลย

  ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยการปล่อยให้คู่แข่งในลีกมีโอกาสยิงประตูในจังหวะที่มีแววเป็นประตูสูง เป็นสถิติที่วัดจากลูกยิงที่ดูแล้วน่าจะเป็นสกอร์ ไม่ได้หมายความว่าลูกยิงนั้นต้องเป็นประตูจริงๆ แต่แค่การปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงสวยๆ แบบนั้นเฉลี่ยแล้วมากถึง 1.04 ครั้งต่อเกมก็ถือว่าแย่พอแล้ว เพราะมันทำให้ทีมมีโอกาสเสียประตูสูงตามไปด้วยนั่นเอง

  ค่าเฉลี่ยการปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสยิงประตูในจังหวะที่มีโอกาสเป็นประตูสูงของ แมนฯ ซิตี้ นับตั้งแต่ที่ กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม




เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก
 - ป้องกันจังหวะสวนกลับเร็วได้แย่

MulticollaC
เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก
  ด้วยความที่ แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เล่นเกมรุกได้ดุดัน และมีแนวรุกเก่งๆ หลายคน อย่างเช่น เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง และ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นต้น ทำให้มันไม่แปลกเลยที่คู่แข่งหลายทีมจะเลือกใช้แผนเน้นตั้งรับเอาไว้ก่อน แล้วหาโอกาสทำประตูจากจังหวะสวนกลับเร็ว

 ที่จริง กวาร์ดิโอล่า ก็รู้ถึงข้อนี้ดี และทีมของเขาก็ทำผลงานในด้านนี้ได้ดีพอตัว โดยเฉพาะฤดูกาลก่อนที่ปล่อยให้คู่แข่งในลีกมีโอกาสยิงประตูจากจังหวะสวนกลับเร็วแค่ 0.2 ครั้งต่อเกม และไม่เสียประตูในจังหวะเหล่านั้นเลย

 อย่างไรก็ตาม ซีซั่นนี้มันกลับตรงกันข้าม เพราะว่า แมนฯ ซิตี้ ปล่อยให้คู่แข่งมีโอกาสทำประตูในจังหวะสวนกลับเร็ว 0.5 ครั้งต่อเกม แถมยังเสียประตูจากจังหวะเหล่านี้ 0.12 ลูกต่อเกมด้วย

 ค่าเฉลี่ยการป้องกันเกมสวนกลับเร็วในลีกของ แมนฯ ซิตี้ นับตั้งแต่ที่ กวาร์ดิโอล่า เข้ามาคุมทีม



เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก
 - ซิลบา เริ่มหมดแรง

  มันมีการประกาศไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่า ดาบิด ซิลบา จะแยกทางกับ แมนฯ ซิตี้ หลังจบฤดูกาลนี้ เพราะเขาจะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าพอดี และเพื่อเป็นการตอบแทนผลงานและความภักดีของดาวเตะชาวสแปนิชที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 2010 ทำให้ในซีซั่นนี้แข้งวัย 33 ปี ได้เป็นกัปตันทีม และยังเป็นกำลังหลักของทีม เพราะเขาได้ลงเล่นในลีกไป 15 นัด

เจาะสถิติตัวเลขแมนฯ ซิตี้ ผลงานดรอปลงจนอาจเสียแชมป์พรีเมียร์ลีก
 อย่างไรก็ตาม มันต้องยอมรับว่า ซิลบา ไม่ได้มีเรี่ยวแรงมากเหมือนเก่า ก็เหมือนกับฟันเฟืองที่ถ้าผ่านไปนานๆ ก็ต้องมีอาการเสื่อมสภาพบ้างเป็นธรรมดา โดยในฤดูกาลนี้ ซิลบา เอาบอลกลับมาครองได้เพียง 3.98 ครั้งต่อเกม น้อยที่สุดทั้งตั้งแต่ที่เขาร่วมงานกับ กวาร์ดิโอล่า ในฤดูกาล 2016-17 เป็นต้นมา และน้อยที่สุดในช่วงที่เขาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วย

 ค่าเฉลี่ยการเอาบอลกลับมาครองได้ในลีกของ ซิลบา

2010-11  5.93 ครั้งต่อเกม

2011-12  4.73 ครั้งต่อเกม

2012-13  5.32 ครั้งต่อเกม

2013-14  5.01 ครั้งต่อเกม

2014-15  6.36 ครั้งต่อเกม

2015-16  6.10 ครั้งต่อเกม

2016-17  5.99 ครั้งต่อเกม

2017-18  4.99 ครั้งต่อเกม

2018-19  5.01 ครั้งต่อเกม

2019-20  3.98 ครั้งต่อเกม



ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:siamsport

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด