Social :



เชิญเลย! “ประวิตร”ไม่ห้ามวิ่งไล่ลุง-เดินเชียร์ลุงโต้ทาบ”สุดารัตน์”ซบพปชร.

08 ม.ค. 63 07:01
เชิญเลย! “ประวิตร”ไม่ห้ามวิ่งไล่ลุง-เดินเชียร์ลุงโต้ทาบ”สุดารัตน์”ซบพปชร.

เชิญเลย! “ประวิตร”ไม่ห้ามวิ่งไล่ลุง-เดินเชียร์ลุงโต้ทาบ”สุดารัตน์”ซบพปชร.






พล.อ.ประวิตร ฝากบอกถึงคนจัด วิ่งไล่ลุง เดินเชียร์ลุง ไม่ร่วมข้างไหน เพราะวิ่งไม่ไหว เดินไม่ไหว แต่จะนอน โต้ทาบ "สุดารัตน์" ซบพปชร. - รอตร.คดี "บิ๊กโจ๊ก" จับตาปมUSA


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบหมาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นผู้ตอบคำถามสื่อมวลชนหลังประชุมคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า มีภารกิจในช่วงเวลา 14.15 น. ซึ่งต้องใช้เวลาในการเตรียมตัว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ระบุถึง สถานการณ์ข้อพิพาทอิหร่าน -สหรัฐฯ ได้มีการสั่งการให้ เหล่าทัพและกระทรวงการต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ว่า จะมีผลกระทบอย่างไรกับประเทศไทยบ้าง ซึ่งประเทศไทยได้เตรียมการไว้ในทุกเรื่อง โดยให้เฝ้าระวังสถานทูตต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และอำนวยความสะดวก รวมถึงรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานทูตสหรัฐ และสถานทูตอิหร่าน

สำหรับเรื่องของความเชื่อมั่นของประเทศไทยหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ทางกระทรวงพลังงานจะดำเนินการในเรื่องของน้ำมันเชื้อเพลิงและมีการเตรียมการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในเรื่องของการใช้พลังงานต่างๆเพราะ ยืนยันว่ามีการเตรียมการไว้ในทุกเรื่องแล้ว

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ยังปฏิเสธการตอบคำถามถึงกรณีที่ดินของ พ.อ.ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดาของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ตนจึงไม่ทราบในรายละเอียดพื้นที่ไฟล์แนบ

พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง” และ”วิ่งเชียร์ลุง” โดยยืนยันว่า ตนวิ่งไม่ไหว และบอกไปหลายครั้งแล้ว เดินก็ไม่ไหว ไม่วิ่ง ไม่เดิน แต่จะนอน พร้อมระบุว่า จะไม่เดินทางไปร่วมเดินเชียร์นายกฯ และฝ่ายใดทั้งนั้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี ก็บอกไปแล้วเมื่อวานว่าให้หยุดทั้งสองฝ่าย ดังนั้น ทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามที่นายกรัฐมนตรีบอก รวมไปถึงนักข่าวก็ต้องช่วยด้วย ซึ่งตนมองว่า ไม่เกิดสถานการณ์อะไรทั้งนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อนุญาตได้บอกทั้งสองฝ่ายแล้วว่าห้ามโฆษณาชวนเชื่อ แต่ให้วิ่งได้อย่างเดียว หากไม่วิ่งเฉยๆ ก็ถือว่าผิดข้อตกลง

พร้อมกับเน้นย้ำว่า วิ่งได้แต่อย่าทำให้ปั่นป่วนหรือผิดกฎหมาย พร้อมเชื่อว่า จะไม่เป็นฉนวนสร้างความแตกแยก เพราะทุกอย่างยุติแล้ว และทุกวันนี้นำพาประเทศเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ดังนั้น ความแตกแยกไม่มี ส่วนที่มีบางจังหวัดสั่งห้ามการจัดกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”นั้น เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่

ด้านการตัดสินคดียุบพรรคอนาคตใหม่ ของนายธนาธร
Lif
จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ในวันที่ 21 มกราคม ว่าจะมีความวุ่นวายหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะมีความวุ่นวายอย่างไร และยืนยันว่า ไม่มีเรื่องความไม่พอใจ ทุกอย่างต้องว่าไปตามกฎหมาย กฎหมายว่าผิดก็ผิดกฎหมายว่าถูกก็คือถูก

ขณเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวกรณีเหตุ คนร้ายลอบยิงรถยนต์ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษนายกรัฐมนตรี ว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ติดตาม ซึ่งก็ยังไม่ทราบสาเหตุ เพราะเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามต่อไป

พร้อมปฏิเสธว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ แต่อย่างใด ส่วนจะเกี่ยวข้องกับงานที่มีความเสี่ยงหรือไม่นั้นก็ไม่ทราบ ขอให้ไปถามตัว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เอง

ส่วนเรื่องสถานการณ์ภัยแล้งของประเทศ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้เตรียมการแก้ปัญหาภัยแล้ง ทั้งการขุดเจาะบ่อบาดาล หาน้ำใต้ดินและบนดินเอาไว้ โดยเฉพาะการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมได้อนุมัติงบประมาณกลางกว่า 3,000 ล้านบาท ในการขุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 500 บ่อ โดยจะเริ่มดำเนินการในวันพรุ่งนี้ได้ทันที พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานทหาร กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. บูรณาการทำงานร่วมกัน





พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกระแสข่าวคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ลาออก และจะมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า ให้ไปถามคุณหญิงสุดารัตน์ ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมาร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่พูดกันเอง และคุณหญิงสุดารัตน์ จะมาได้อย่างไร พร้อมเชื่อว่า คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่มา และยืนยันว่า ไม่ได้มีการทาบทามมาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังระบุชัดเจนว่า ใครจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ขอให้ประเทศชาติสงบ เดินต่อไปข้างหน้าให้ได้ ให้มีความก้าวหน้าในประเทศชาติของเราให้ดี ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ถ้ามีความสามัคคีกันก็พอแล้ว ใครอยู่ที่ไหนก็ได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ภาคใต้ ถูกจับ 7 นายเนื่องจากยักยอกของกลาง และเรียกรับผลประโยชน์คดียาเสพติด ในพื้นที่อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนและระเบียบ โดยจะต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อนทั้ง 7 นาย และจะต้องคณะกรรมการสอบสวนเพื่อสอบสวนว่าผิดหรือถูก หากผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก ซึ่งเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการตำรวจ ไปแล้ว หากพบการกระทำความผิดต้องถูกลงโทษอย่างหนัก

พร้อมขออย่าห่วง เพราะทำตามระเบียบ ทำตามกฎหมายที่มีอยู่ พร้อมเน้นย้ำ ว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องยึดกฏหมายเป็นหลัก




ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews.co.th

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด