ไมโครซอฟต์คือบริษัทที่พัฒนาระบบปฏิบัติการ Windows ไมโครซอฟต์มีรายได้มาจากการขาย Microsoft Office และขายระบบปฏิบัติการ Windows ไมโครซอฟต์เคยเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่ในทศวรรษ 1990 และต้นทศวรรษ 2000 ปี 2007 หลังสตีฟ จ็อบส์เปิดตัวไอโฟน โลกได้เข้าสู่ยุคสมาร์ทโฟนแบบเต็มตัว ระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คได้เข้าสู่ยุคตกต่ำ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ท
ไมโครซอฟต์มีซีอีโอทั้งหมดเพียงแค่ 3 คน คือ บิล เกตส์ สตีฟ บัลเมอร์ และสัตยา นาเดลลา บิล เกตส์ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟต์และเป็นซีอีโอคนแรก ภายใต้การบริหารงานของเกตส์ ไมโครซอฟต์เป็นเจ้าตลาดระบบปฏิบัติการวินโดว์ เกตส์ได้ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่บนโลกใบนี้ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการวินโดว์ ในยุคของเกตส์ไมโครซอฟต์ประสบความสำเร็จอย่างสูงและบิล เกตส์ก็กลายเป็นคนที่รวยที่สุดในโลก
บิล เกตส์บริหารไมโครซอฟต์ 25 ปี ก็ตัดสินใจเกษียณตัวเองจากการทำงานและลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ ปัจจุบันบิลล์ เกตส์ทำงานด้านการกุศลเป็นหลัก คนที่มารับตำแหน่งซีอีโอแทนบิล เกตส์ คือ สตีฟ บัลเมอร์
ในปี 2007 สตีฟ จ็อบส์เปิดตัวไอโฟนรุ่นแรก ในปีต่อมา Google ก็เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สตีฟ บัลเมอร์ในฐานะซีอีโอประกาศนโยบายจะทำให้ไมโครซอฟต์กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ไมโครซอฟต์จะต้องเป็นผู้นำในวงการเทคโนโลยี
สตีฟ บอลเมอร์จึงส่งทีมงานให้พัฒนาระบบปฏิบัติการบนมือถือที่มีชื่อว่า Windows Phone ไมโครซอฟต์เริ่มพัฒนา Windows Phone ตอนปลายปี 2008 จริงๆแล้ว Windows Phone ออกแบบมาดีมาก แอปที่อยู่บนหน้าจอของวินโดว์ โฟนเป็นสีเหลี่ยมจัตุรัสเรียงกันเต็มหน้าจอโทรศัพท์ ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับใช้งานบนสมาร์ทโฟน
ไมโครซอฟต์เข้ามาในตลาดสมาร์ทโฟนช้าไป บริษัทมือถือส่วนใหญ่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิล มีแค่ HTC กับ Nokia ที่ใช้วินโดว์โฟน มีแค่ Nokia ยี่ห้อเดียวเท่านั้นที่เลือกใช้วินโดว์โฟนโดยไม่ไปใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยน์ หลังจากไอโฟนเปิดตัวได้ 4 ปี วินโดว์โฟนมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 2 % เท่านั้น
ต่อมาในปี 2014 ไมโครซอฟต์เข้าซื้อกิจการของโนเกียด้วยเงิน 7200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ วินโดว์โฟนมีอายุจนถึงปี 2017 ปี 2017 ไมโครซอฟต์ตัดสินใจยุติการพัฒนาวินโดว์โฟน
สตีฟ บอลเมอร์นอกจากจะสั่งลูกน้องให้พัฒนาวินโดว์โฟนแล้ว เขายังสั่งให้ลูกน้องพัฒนา Microsoft Azure ระบบคลาวน์ของไมโครซอฟต์เพื่อมาแข่งกับบริการคลาวน์ของ Amazon ที่มีชื่อว่า Amazon Web Services ลูกน้องคนสำคัญชองสตีฟ บอลล์เมอร์มีชื่อว่าสัตยา นาเดลลา สตีฟ บอลเมอร์ได้แต่งตั้งให้สัตยา นาเดลลาเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาระบบคลาวด์ของไมโครซอฟต์
Cloud Computing คืออะไร เว็บไซต์ทุกเว็บไซต์ต้องทำงาน ประมวลผลและเก็บข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ เจ้าของเว็บไซต์ก็จะเช่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อทำหน้าที่เก็บข้อมูลของเว็บไซต์ คลาวด์คือระบบการเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ที่มีขนาดใหญ่ ผู้เช่าสามารถเช่าพื้นที่เก็บข้อมูลได้ตามที่ตัวเองต้องการ การเช่าพื้นที่ผ่านคลาวด์มีราคาถูกกว่าเพราะคลาวด์ลงทุนใช้เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ แล้วให้ทุกคนมาแบ่งพื้นที่กันใช้ Amazon เป็นบริษัทแรกที่ทำธุรกิจ Cloud Computing อย่างจริงจัง คนที่มาดูแลธุรกิจคลาวด์ของไมโครซอฟต์คือสัตยา นาเดลลา
สัตยา นาเดลลาเกิดและเติบโตในประเทศอินเดีย เขาจบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าที่ประเทศอินเดีย หลังจากนั้นเขามาเรียนต่อปริญญาโทสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นาเดลลาทำงานที่แรกที่บริษัทซันไมโครซิสเต็ม หลังจากนั้นเขาย้ายบริษัทมาทำงานที่ไมโครซอฟต์
นาเดลลาเริ่มงานแรกด้วยการทำงานพัฒนา Windows NT ต่อมาเขารับงานดูแลโครงการ Bing โปรแกรมค้นหาข้อมูลของไมโครซอฟต์ บิงคือโปรแกรมที่ไมโครซอฟต์ทำมาแข่งกับโปรแกรมการค้นหาข้อมูลของกูเกิล ต่อมาเขารับหน้าที่ดูแลธุรกิจคลาวด์ของไมโครซอฟต์
ในปี 2014 สตีฟ บัลเมอร์ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ เขาแต่งตั้งสัตยา นาเดลลาให้มาเป็นซีอีโอคนถัดไป สิ่งแรกที่นาเดลลาทำคือยกเลิกการพัฒนาวินโดว์โฟน ไมโครซอฟต์จะไม่เข้าไปเล่นในตลาดวินโดว์โฟนอีกแล้ว นาเดลลาสั่งให้ทีมงานพัฒนา Microsoft Surface แท็บเล็ทที่ทำงานเหมือนโน๊ตบุ๊คออกมาแข่งกับไอแพด ปรากฏว่า Microsoft Surface ประสบความสำเร็จ มียอดขายถล่มทลาย
สัตยา นาเดลลายังสั่งให้ทีมงานพัฒนา Windows 10 จุดประสงค์หลักของ Windows 10 คือ การปรับปรุงระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟต์ใหม่หมดและทำให้ Windows มีระบบอัพเดตที่คอยเช็คอยู่เรื่อยๆว่าลูกค้าใช้ Microsoft Office ของแท้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ระบบจะปิดการทำงานของ Microsoft Office เพื่อบีบให้ลูกค้าไปซื้อ Office ของแท้มาใช้ สิ่งที่นาเดลลากับบอลเมอร์คิดเหมือนกันคือการพัฒนา Microsoft Azure ปัจจุบันไมโครซอฟต์เป็นเบอร์ 2 ในธุรกิจคลาวด์ ผู้นำในธุรกิจคลาวด์เบอร์หนึ่งคือ Amazon
สัดส่วนรายได้ของ Microsoft ในปัจจุบัน
28 % มาจาก Microsoft Office
22 % มาจาก Microsoft Azure
11 % มาจากเครื่องเล่มเกมที่มีชื่อว่า XBOX
9% มาจากการขายระบบปฏิบัติการ Windows
5% มาจาก Microsoft Surface
25% เป็นรายได้อื่นๆ
ภายใต้การบริหารของสัตยา นาเดลลา ไมโครซอฟต์สามารถพลิกฟื้นมาเป็นผู้นำในวงการเทคโนโลยีของโลกอีกครั้ง อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จของนาเดลลา เคล็ดลับความสำเร็จ นาเดลลาบอกว่าต้องทำให้ระบบปฏิบัติการ Windows ทำให้ชีวิตของคนบนโลกนี้ดีขึ้น นาเดลลามองว่า Windows คือสิ่งที่ทำให้โลกนี้ดีขึ้น
เวลาที่นาเดลลาไปโรงพยาลบาล เขาเห็นเครื่องมือแพทย์ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows ถ้าเอา Windows ออกเครื่องมือแพทย์ก็จะทำงานไม่ได้ แต่ถ้าลง Windows หมอก็สามารถใช้เครื่องมือแพทย์ผ่าตัดและรักษาคนไข้ได้ เพราะฉะนั้น นโยบายที่นาเดลลาทำคือทำให้ Windows เป็น
