Social :



งัดยาแรง! ผู้ว่าฯภูเก็ต สั่งปิดโรงแรมทั้งจังหวัดสกัด โควิด มีผล 4 เม.ย.

03 เม.ย. 63 11:04
งัดยาแรง! ผู้ว่าฯภูเก็ต สั่งปิดโรงแรมทั้งจังหวัดสกัด โควิด มีผล 4 เม.ย.

งัดยาแรง! ผู้ว่าฯภูเก็ต สั่งปิดโรงแรมทั้งจังหวัดสกัด โควิด มีผล 4 เม.ย.

งัดยาแรง! ผู้ว่าฯภูเก็ต สั่งปิดโรงแรมทั้งจังหวัดสกัด โควิด มีผล 4 เม.ย.


ผู้ว่าภูเก็ตเซ็นคำสั่งจังหวัดปิดโรงแรมทุกประเภท สกัดโควิด มีผลวันที่ 4 เม.ย. ที่ไหนไม่มีนักท่องเที่ยวปิดทันที ที่ยังมีคนพักให้แจ้งจำนวน-ชื่อ กักตัวหากป่วย


เมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เซ็นคำสั่งจังหวัดสั่งปิดโรงแรมทุกประเภท โดยใจความระบุว่า “คำสั่งจังหวัดภูเก็ตที่ 1797/2563 เรื่องปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพทยระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19



โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 ในปัจจุบันแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศทั่วโลก โดยกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่อง ชื่อและอาการสำคัญของโรคติดต่ออันตรายฉบับที่ 3 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 กำหนดให้โรคเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558

นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจึงมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าวและสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ตพบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว



อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 35 (1)
MulticollaC
แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 และข้อ7(1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่หนึ่ง) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตตามมติที่ประชุมครั้งที่ 12/2563 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 จึงออกคำสั่งไว้ดังนี้

ปิดโรงแรมที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฏหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติโรงแรม. พ.ศ. 2547 ทุกประเภทและสถานประกอบการในลักษณะเดียวกัน ยกเว้น โรงแรมซึ่งทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนามหรือสถานที่พักเพื่อสังเกตอาการหรือใช้ประโยชน์อื่นใดในทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

สำหรับโรงแรมที่มีผู้พักอยู่ก่อนซึ่งคำสั่งนี้มีผลใช้บังคับให้พักต่อไป จนกว่าผู้เข้าพักจะแจ้งออกจากห้องทั้งหมดแล้วให้ปิดทันทีโดยไม่มีการรับผู้เข้าเพิ่มอีก

ทั้งนี้ให้โรงแรมที่ยังมีนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าพักอยู่ต้องแจ้งจำนวน และรายชื่อผู้เข้าพักให้ที่ทำการปกครองอำเภอทราบ เพื่อตรวจคัดกรองผู้เข้าพักทุกคน หากผู้เข้าพักคนใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด

หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ. 2558 ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 (ฉบับที่หนึ่ง)

ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 2 เมษายน 2563 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต”


ขอขอบคุณข้อมูล -Khaosod

โพสต์โดย : Ao