จัดบ้านศาสตร์แห่งการเลือกที่จะ “ทิ้ง”

จัดบ้านศาสตร์แห่งการเลือกที่จะ “ทิ้ง”

ใครเคยมีปัญหาด้านการทิ้งกันบ้าง ชนิดที่ว่าบ้านหรือโต๊ะทำงานนั้นเต็มไปด้วยข้าวของมากมาย ดูคล้ายโรงเก็บของเก่า จะใช้หรือไม่ใช้สะสมไว้ก่อน และสุดท้ายก็กลายเป็นขยะ เหตุผลหลักๆคงมาจากความเสียดาย อะไรๆก็ดูยังใช้ได้ไปหมด ลองมาดูกันสิว่า การทิ้งนั้น มันสำคัยอย่างไร

1. การจัดบ้านคือศาสตร์ของการเลือกที่จะทิ้ง ปัญหาสำคัญของคนที่บ้านรกรุงรัง นั่นคือการมีปริมาณของที่มากเกินความจำเป็น และแน่นอนว่ามากเกินกว่าพื้นที่เก็บ เทคนิคในการจัดบ้านที่สำคัญที่สุดในแบบญี่ปุ่น (คมมาริ)  จึงสอนให้เราเลือกที่ทิ้งสิ่งของต่างๆ เป็นอันดับแรก โดยศาสตร์นี้เชื่อมั่นว่า เมื่อเรียนรู้ที่จะทิ้งสิ่งของที่มีความหมายทางจิตใจ เราย่อมเรียนรู้ที่จะทิ้งอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต หรือทำให้ชีวิตยุ่งยากออกไป 

2.

ทิ้งในสิ่งที่ไม่สามารถเร้าความสุขให้เราได้อีกแล้ว หรือได้ทำหน้าที่ของมันจบแล้ว หนังสือบางเล่มเราซื้อมาและไม่เคยได้อ่าน นั่นก็เป็นเพราะหนังสือเล่มนั้น มีหน้าที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่าหนังสือประเภทใด ไม่เหมาะกับเรา และความสุขจากการได้ซื้อหนังสือดีดีสักเล่มก็เป็นความสุขที่ผ่านไปแล้ว ในกรณีแบบนี้เราควรทิ้งหนังสือเล่มนี้ หรือบริจาคให้กับผู้ที่จำเป็นต้องใช้ต่อไป  วิธีการที่ดีที่สุดที่จะบอกได้ว่าสิ่งของใด ยังเร้าความสุขอยู่ไหม คือการหยิบสิ่งของนั้นมาและถามความรู้สึกของตนเอง 

3. อย่าทิ้งสิ่งที่เราไม่ต้องการ ให้เป็นภาระของคนอื่น มันไม่แปลกเลยหากคุณจะส่งมอบสิ่งที่ไม่มีความจำเป็นต่อคุณ ให้คนที่เขาต้องการ แต่บ่อยครั้งที่เรายัดเยียดสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ให้คนอื่น เพียงเพราะว่าเราเสียดายที่จะทิ้งมัน การทำเช่นนี้ เหมือนเป็นการย้ายปัญหาของเราไปไว้ที่คนอื่นแค่นั้นเอง เพราะเขาก็ไม่ได้ใช้มันอยู่ดี ดังนั้น ก่อนที่จะส่งมอบของที่ไม่ได้เร้าความสุขแล้วให้คนอื่น คุณต้องมั่นใจว่าเขาต้องการมันจริงๆ มากกว่าที่จะรับไปเพราะเกรงใจคุณ 

เมื่อฝึกการทิ้งผ่านการจัดบ้าน เราจะเรียนรู้วิธีจัดการกับชีวิต รู้ว่าควรทิ้งอะไร และควรเก็บอะไร รู้จักที่จะยอมรับตนเอง และคิดเผื่อแผ่ผู้อื่น การจัดบ้านจึงเป็นศาสตร์แห่งการทิ้งเพื่อจัดการชีวิตนั่นเอง

เรียบเรียงโดย Topicza.com