ชีวิตรันทด ภรรยาพิการ สามีขายของไม่ได้ พิษโควิด ไร้เงินไม่มีที่อยู่ อาศัยกินข้าววัด
วันที่ 30 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมเด็จ วันพุธ อายุ 57 ปี และน.ส.อุบล ศรีพูล อายุ 58 ปี 2สามีภรรยา โดยสามีป่วยเป็นโรคเก๊าท์ ส่วนภรรยาป่วยเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้เป็นอัมพาตอวัยวะซีกขวาไม่มีแรง มีอาชีพขายไอศกรีม แต่ขายไม่ค่อยได้ เนื่องจากโรคโควิด19 ระบาด ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง ต้องอาศัยกินข้าวก้นบาตรและอาศัยอยู่บ้านตรงข้ามวัดโป่งขามฝาดพัฒนา หมู่7 ต.บ้านกลาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งผู้ใจบุญให้อยู่อาศัยฟรี อีกทั้งไม่ได้รับเงินเยียวยาใด ๆ จากรัฐบาล
บ้านตรงข้ามวัดผู้ใจบุญให้อยู่ฟรี
น.ส.อุบล กล่าวว่า ตนกับสามี อาศัยอยู่ที่บ้านวังยาว หมู่6 ต.ปากช่อง แต่สามีทำงานหนักไม่ได้เนื่องจากเป็นโรคเก๊าท์ มีลูกด้วยกัน 3 คน ก็ไปอยู่ต่างจังหวัดทั้งหมด อีกทั้งก็มีความขัดสนไม่แพ้กัน แฟนจึงได้มาสมัครเป็นคนงานรับจ้างขับรถอยู่โรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งใน อ.หล่มสัก ส่วนตนก็ทำอาหารขายข้าวแกง น้ำอัดลมโดยได้พักอาศัยอยู่ในบ้านพักคนงานภายในโรงงานน้ำแข็งดังกล่าว
น.ส.อุบล กล่าวต่อว่า ต่อมาตนมีอาการเส้นเลือดในสมองแตกไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ต้องเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหล่มสัก ทำให้แฟนต้องลาออกมาดูแลเป็นระยะเวลาเกือบ 2 ปี โดยเช่าห้องแถวอยู่ในตัว อ.หล่มสัก ใกล้กับโรงพยาบาลเพราะต้องเดินทางไปพบแพทย์เป็นประจำ อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ร่างกายซีกซ้ายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ จึงไม่สามารถทำงานอะไรได้เลย
ภรรยาป่วยเส้นเลือดในสมองแตกอัมพาตซีกขวาไม่มีแรง
ระหว่างนั้นแฟนได้ไปเช่ารถสามล้อเครื่องขับขายไอศกรีม พอมีรายได้เป็นค่าเช่าห้องและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน กระทั่งเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ได้เกิดโรคโควิด ไอศกรีมขายแทบไม่ได้เลย ทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้อง จึงต้องออกจากห้องเช่าดังกล่าว แต่ก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน จึงได้มาขออาศัยอยู่ที่ศาลาวัดโป่งขามฝาดพัฒนา หมู่ 7 ต.บ้านกลาง
เนื่องจากแฟนเคยมาขายไอศกรีมที่นี่ได้พูดคุยกับเจ้าอาวาส ซึ่งท่านก็เห็นใจจึงให้พักอาศัย พร้อมทั้งแบ่งปันอาหารบิณฑบาตให้ตนและสามีได้กิน แต่ต่อมาคณะกรรมการหมู่บ้านเห็นว่า อยู่ในช่วงโควิดและเคอร์ฟิวจึงไม่อยากให้อยู่ในวัด ขณะนั้นตนไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่ที่ไหน กระทั่งมีผู้ใจบุญให้อาศัยอยู่ในบ้านที่กำลังจะรื้อทิ้งจึงมีที่ซุกหัวนอน
ที่อาศัยผู้ใจบุญให้อยู่ฟรี
ส่วนชีวิตประจำวันแฟนจะออกไปขายไอศกรีม โดยก่อนจะไปได้เตรียมอาหารไว้ให้กิน เนื่องจากตนแทบจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย จะถ่ายหนักเบาก็ต้องใส่กระโถน ใส่ถุงพลาสติกไว้ แล้วค่อยเอาไปทิ้งในห้องน้ำ ตนสงสารสามีมากเพราะต้องทั้งทำงาน ทั้งต้องดูแลตนเอง จึงทำให้บางครั้งไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้ว แต่แฟนก็บอกให้สู้จนถึงที่สุด
สำหรับการช่วยเหลือต่าง ๆ นั้น ตนไม่ได้รับเลยไม่ว่าจะเป็นเบี้ยคนพิการหรือเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท จากรัฐบาล ส่วนบ้านหลังนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเขาจะให้อยู่นานขนาดไหน ส่วนที่ไม่กลับไปอยู่ที่บ้านหมู่ 6 ต.ปากช่อง เนื่องจากว่าบ้านอยู่กลางเขาไกลจากตัว อ.หล่มสักมาก จึงไม่สะดวก เพราะตนต้องไปหาหมอเป็นประจำ จึงอยากจะวิงวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงาน หรือผู้ใจบุญได้มีข้าวมีอาหารประทังชีวิตไปจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
ขอขอบคุณข้อมูล -Khaosod
โพสต์โดย : Ao