Social :



ย้ำโปร่งใส! นายกฯแจงหนี้สธ.เพิ่มเพราะกู้มาใช้แก้โควิด

04 ก.ค. 63 07:07
ย้ำโปร่งใส! นายกฯแจงหนี้สธ.เพิ่มเพราะกู้มาใช้แก้โควิด

ย้ำโปร่งใส! นายกฯแจงหนี้สธ.เพิ่มเพราะกู้มาใช้แก้โควิด

นายกฯ ลุกขึ้นโต้ ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายดูถูกเหยียดยาม เสียดสีสติปัญญา ฝากให้ประชาชนช่วยแยกแยะ ปัดเอื้อประโยชน์ลงทุนร่วมเอกชน ย้ำโปร่งใส แจงหนี้สาธารณะสุขเพิ่มเพราะกู้มาใช้แก้โควิด



พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่มีส.ส.พรรคฝ่ายค้านอภิปรายดูถูก เสียดสีสติปัญญา และเหยียดหยาม ซึ่งก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไร และก็ไม่คิดว่าจะเอามาเป็นตัวอย่าง ที่จะมาโมโหมาโกรธ และไม่ขอถือสาในคำพูด เพราะว่าตนเองอาวุโสกว่า รวมทั้งขอขอบคุณคำพูดแนะนำที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ โดยขอฝากให้ประชาชนช่วยแยกแยะด้วย


นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงในเรื่องการลงทุนด้านคมนาคมว่า เป็นแผนงานและแนวคิด พร้อมต้องไปศึกษาให้ละเอียดอีกครั้ง พร้อมระบุว่า ตนเองคงไม่ฉลาดน้อยขนาดนั้น ขออย่าดูถูกเหยียดหยามให้มาก




โดยในส่วนของการลงทุนของภาครัฐ เน้นการการลงทุนแบบ PPP คือ รัฐร่วมเอกชน โดยมีการประมูล การเซ็นสัญญาอย่าวโปร่งใสตามกฎหมาย และยืนยันว่า ไม่เคยอนุมัติให้ใครเป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นการเสนอแผนงานโครงการขึ้นมา โดยผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการทุกระดับ และไม่เคยไปเรียกผลประโยชน์จากใคร ซึ่งยืนยันได้ตรงนี้ โดยยืนหยัดด้วยคำพูดตรงนี้ แม้จะใช้คำพูดที่รุนแรงแต่ พร้อมที่จะรับฟังความเห็น และไม่ขอไปเถียงกับใคร เพราะคงสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ซึ่งถึงแม้จะไม่เก่งเท่า แต่ก็จริงใจและพูดในสิ่งที่มันทำได้ รวมทั้งพร้อมที่จะปรับแก้แต่ขอให้ช่วยพูดจาให้ดี

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่าย นั้น มีหลายส่วนทั้งงบกลาง งบส่วนราชการ
MulticollaC
และงบบูรณาการ ขอให้คำนึง ถึงภาระของรัฐบาลที่จะต้องดูแลคนทั้งประเทศ ซึ่งการจัดสัดส่วนจะต้องถูกต้องและเหมาะสม และขออย่านำงบประมาณฟื้นฟูสถานการณ์โควิด-19 มาตีกับงบประมาณ 64 ขณะที่เรื่องของการจัดซื้อเรือดำน้ำ ได้ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นไปแล้ว ซึ่งการจัดซื้ออะไรก็แล้วแต่จะต้องมี ความโปร่งใส



นายกรัฐมนตรี ชี้แจง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. พรรคเพื่อไทย ในประเด็นหนี้สาธารณะของรัฐบาล ว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากเกิดจากการที่จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ covid-19 และฟื้นฟูประเทศ ซึ่ง ต้องถามว่า ตัวเลขคร่าวๆ 5.5 ล้านบาท ที่ต้องถามใครได้ ประชาชนใช่หรือไม่ เมื่ออยากได้ก็ต้องให้ ขณะที่เรื่องรายได้ของประเทศจะต้องประเมินจากสถานการณ์โควิด ที่หากสถานการณ์ดีขึ้นก็น่าจะเก็บรายได้ ได้มากขึ้น ซึ่งหากไม่ได้ก็ต้องมีวิธีการบริหารจัดการงบประมาณและแผนงานโครงการตามวงเงินที่มีอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องหลักการในการบริหาร แต่ส.ส.เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะฉะนั้นการบริหารเป็นฝ่ายของรัฐบาลที่ต้องหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้ได้

ส่วนที่บอกว่าทุกกระทรวงชี้แจงแก้ตัว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองต้องรับชอบผิดในภาพรวม ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หากมีการพูดอะไรไม่ถูกต้องก็ต้องตำหนิ เพราะทุกอย่างอนุมัติด้วย ครม.ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว และขอให้เข้าใจว่าไม่เคยไปก้าวล่วงหรือสั่งการ มีแต่ให้แนวทางในการปฏิบัติ และให้นโยบาย พร้อมมีการตรวจสอบการทุจริต โดยหวังว่าจากนี้ เป็นต้นไป จะไม่มีใครถูกดำเนินคดี

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวกล่าวในช่วงท้ายของการชี้แจงหนี้ครัวเรือน โดยถามว่า ก่อนรัฐบาลมีเข้ามา หนี้จากใคร ซึ่งก็มาจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ทำมา และทุกรัฐบาล ก็มีการกู้เงินมา ซึ่งมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับการเจริญเติบโตของประชากร  พร้อมกล่าว “ขอบคุณท่านจิรายุ ห่วงทรัพย์ ซึ่งท่านก็ห่วงจริงๆ ของท่าน ห่วงทรัพย์ ขอบคุณ และขออนุญาตเอ่ยนาม”


ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด