แม่น้องชมพู่ แฉพิรุธไลน์ขู่เรียกเงิน ห่วงสะดิ้งไม่ปลอดภัย ไม่รู้ลุงพลพูดถึงใคร

จากกรณีการที่น้องชมพู่ เสียชีวิตปริศนา บนเขาภูเหล็กไฟ ห่างจากบ้านพัก 2 กิโลเมตร ในพื้นที่บ้านกกกอก หมู่ 2 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งผ่านมาร่วม 2 เดือนแล้ว ยังไม่มีการออกหมายจับคนร้าย ขณะที่คนในครอบครัวของน้องชมพู่ ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัย ซึ่งเป็นคนในครอบครัวกันเอง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น  อ่าน:  แม่น้องชมพู่ เลือกแล้วจบแบบไหน แฉแชทไลน์อ้างบิ๊ก ตร. ต้องการแลกเปลี่ยนจบคดี

เมื่อวานนี้ วันที่ 11 ก.ค. ที่ สภ.กกตูม นางสาวิตรี วงศ์ศรีชาหรือแม่น้องชมพู่ ได้เดินทางเข้าลงบันทึกประจำวันกับร.ต.อ.เฉลิมชัย นวลบัตร รองสว.(สอบสวน) สภ.กกตูม จากกรณีมีบุคคลส่งข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ระบุเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ติดต่อเข้ามา ทำนองขมขู่

นางสาวิตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลาประมาณ 11 โมงเข้ามีข้อความจากไลน์รูปหน้า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. บอกว่าคนในครอบครัวตนจะมีคนโดนจับ 4-5 คน ซึ่งในข้อความนั่นได้อ้างตัวว่าเป็น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร. ตอนตนเห็นข้อความตนก็รู้สึกตกใจมาก แต่ก็เชื่อเพียงแค่ส่วนหนึ่ง กลัวว่าจะเป็นกระบวนการจับแพะ

แต่พอเริ่มคุยเขาก็อยากได้เงิน เขาบอกให้ตนจ้างทนาย บอกให้ตนยอมเสียสละเงินเพียงน้อยนิด แต่ทางตร.ที่ทำคดีนี้ไม่เคยคุยเรื่องเงินกับตนเลย ตนก็เริ่มสงสัยเมื่อคุยมาถึงบรรทัดสุดท้าย เขาเขียนว่าผู้กำกับสั่งให้ทำ ตนก็คิดว่าต้องเป็นผู้กำกับระดับไหนถึงจะมาสั่งพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผบ.ตร.ได้ ตนมีความรู้สึกว่ามิจฉาชีพคนนี้เหมือนซ้ำเติม ทั้งที่ตนก็สูญเสียแล้ว มันไม่น่าเกิดขึ้นกับตนอีก จากนั้นตนก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.กกตูม ยิ่งในช่วงหลังๆตนถูกคุกคามมีคนไลน์มาต่อว่าตนมากมาย

นางสาวิตรี เปิดเผยต่อว่า ส่วนเรื่องของน้องสะดิ้งในตอนนี้ตนเป็นห่วงน้องมาก เพราะคนสุดท้ายที่อยู่กับน้องชมพู่คือน้องสะดิ้ง ถ้าคนร้ายรู้ว่าน้องสะดิ้งรู้หรือเห็นอะไร น้องสะดิ้งก็ไม่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเวลาตนออกไปทำนา ออกไปทำเกษตรกรรมตนก็ต้องเอาน้องสะดิ้งไปด้วย ถ้าวันไหนตนไม่ว่าไม่อยู่ ก็ต้องฝากไว้กับญาติ ส่วนตัวน้องสะดิ๊งตามประสาเด็กก็ยังไม่คิดอะไรมาก ซึ่งน้องยังไม่มีอาการหวาดระแวงอะไร เพราะตนก็อยู่กับน้องตลอดเวลา

ส่วนในประเด็นที่ลุงพลได้พูดเมื่อเห็นศพน้องชมพู่ว่าคงอดอาหารนั้น ซึ่งคนในสังคมก็ได้ดูข่าวก็น่าจะออกความคิดเห็นแทนตนได้ ตนไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้มาก ส่วนในสิ่งที่ลุงพลให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกัน นั้นก็เป็นสิทธิ์ของเขา ส่วนประเด็นที่ลุงพล สงสัยชายติดยา ตนก็ไม่รู้ว่าคนที่เขาพูดถึงใคร และในช่วงเวลาที่ตามหาน้องตนก็ไม่ค่อยได้คุยกับลุงพลเท่าไหร่เลย ตนขอไม่พูดถึงเรื่องลุงพลอีก แต่ตนมั่นใจว่าคนในครอบครัวตนบริสุทธิ์ ขอแด่คนในหมู่บ้านเข้าใจก็พอ

“ ส่วนประเด็นที่มีการเปิดภาพว่าร่างกายน้องมีรูลึกประมาณ 5 ซ.ม.นั่น ถ้ามันเป็นการกดทับหลังจากที่น้องเสียชีวิตแล้ว น้องชมพู่น้ำหนักแค่ 9 กิโลครึ่ง มันจะกดทับได้ถึง 5 ซ.ม.เลยหรือ ส่วนอาหารมื้อสุดท้ายของน้องก่อนหายตัวไป น้องชมพู่น่าจะได้กินตอนเช้าประมาณ 7 โมงเช้า น้องได้กินไข่เจียว โดยไม่ได้กินข้าวไปนิดเดียว หลังจากนั้นน้องชมพู่ก็ไปซื้อน้ำส้มกินกันกับน้องสะดิ้ง แต่ก็คงกินไปไม่เยอะ ส่วนผลพิสูจน์ทางการแพทย์ออกมาว่าน้องเสียชีวิตเอง ตนก็ขอถามนักข่าวในพื้นที่ ที่อยู่ที่นี้มา 2 เดือนว่าเชื่อมั้ย ส่วนความคืบหน้าทางตร.ไม่ได้บอกตนเลย ตนก็ดูจากข่าวนี้แหละ ซึ่งตอนนี้ก็คืบหน้าไป 80% แล้ว“ นางสาวิตรีแม่น้องชมพู่กล่าวปิดท้าย

ขอขอบคุณข้อมูล -Khaosod