Social :



ชี้แจงแล้ว! อัยการแถลงเหตุสั่งไม่ฟ้อง”บอส”ยึดสำนวน

04 ส.ค. 63 18:08
ชี้แจงแล้ว! อัยการแถลงเหตุสั่งไม่ฟ้อง”บอส”ยึดสำนวน

ชี้แจงแล้ว! อัยการแถลงเหตุสั่งไม่ฟ้อง”บอส”ยึดสำนวน

อัยการ แถลงเหตุสั่งไม่ฟ้อง “บอส” ยึดสำนวน - ชงพงส.ฟันขับรถเร็วเสพโคเคน


คณะทำงานสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะทำงานตรวจสอบการพิจารณาสั่งคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา ในคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต เมื่อปี 2555 โดยนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เปิดเผยผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันว่า นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องแล้ว เนื่องจาก มีความเห็นและคำสั่งคดีไปตามพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนซึ่งปรากฎอยู่ในสำนวน ไม่ได้สั่งคดีตามอำเภอใจ แต่คณะทำงานมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมว่า แม้คดีนี้ จะมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง นายวรยุทธ ในข้อหา ขับรถโดยประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่คดียังไม่ถึงที่สุด เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ซึ่งน่าจะทำให้ศาลลงโทษผู้ต้องหาได้ ก็สามารถสอบสวนต่อไปได้ ซึ่งเมื่อคณะทำงานพิเคราะห์สำนวนคดีโดยละเอียด พบว่า ผลการตรวจเลือดของนายวรยุทธ ตั้งแต่เกิดเหตุ พบมีสารแปลกปลอมในเลือดซึ่งเป็นสารประกอบย่อยของโคเคน 2 ชนิด แต่พนักงานสอบสวน ยังไม่มีการแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ





ส่วนในข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แม้พนักงานอัยการ จะมีคำสั่งไม่ฟ้อง และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว แต่ปรากฎพยานปากสำคัญ
Lif
คือ  ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ให้ข้อเท็จจริงผ่านสื่อมวลชน ระบุว่า ขณะเกิดเหตุ ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านวิชาการให้กับกองพิสูจน์หลักฐานกลาง 



โดยร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงขณะเกิดเหตุ และลงความเห็นทางวิชาการ ยืนยันความเร็วรถของนายวรยุทธ ขณะเกิดเหตุกว่า 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ข้อเท็จจริงนี้ไม่ปรากฎในสำนวนคดี จึงถือว่า เป็นพยานหลักฐานใหม่ คณะทำงานฯ จึงมีความเห็นเสนออัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาแจ้งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับนายวรยุทธ ในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติด และข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพิ่มเติม


ด้าน นายชาญชัย ชลานนท์นิวัฒน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คดีนี้ เป็นบทเรียนของอัยการและตำรวจ ว่ามีควรมีการตรวจสอบพยานหลักฐานร่วมกันทันทีหลังเกิดเหตุ พร้อมเห็นว่ากระบวนการร้องขอความเป็นธรรม แม้เจตจำนง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา แต่ในคดีนี้กลับทำให้เสียเวลาในการทำคดี ซึ่งในอนาคตอาจต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการใหม่ และยอมรับว่าความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมักมีความเห็นที่แตกต่างกันตามความเชี่ยวชาญแต่ละด้านจึงเห็นว่าควรหามาตรฐานหรือมีการถ่วงดุลกันเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด



ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews

โพสต์โดย : monnyboy

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด