น้องชายยิงเจาะกะโหลกพี่ชายดับคาป่าที่กาญจนบุรี
ขณะแบกปืนลูกซองยาวเข้าป่าล่าสัตว์ เห็นเงาพี่ชายเดินตะคุ่มๆ นึกว่าเป็นสัตว์ป่า โป้งเดียวกระสุนเจาะกะโหลกพี่ชายกลายเป็นผีเฝ้าป่าวิ่งเข้าไปดูถึงผงะจากที่เข้าใจเป็นสัตว์ป่า กลายเป็นศพพี่ชายนอนจมกองเลือด แจ้งตำรวจประสานแพทย์ร่วม 2 มูลนิธินั่งรถเดินต่อด้วยเท้านานกว่า 3 ชม.เกือบ 10 กม.เข้าที่เกิดเหตุกลางป่าลึก คุมตัวน้องชายเค้นสอบนานเกือบค่อนสว่างจนยอมรับเป็นมือสังหาร
เห็นเงาตะคุ่มๆ ในความมืด นึกว่าเป็นสัตว์ป่า ประทับปืนเหนี่ยวไก โป้งเดียว พี่ชายล้มคว่ำทั้งยืน วิ่งเข้าไปดูที่ไหนได้สัตว์ป่ากลายเป็นพี่ชายนอนหงายจมกองเลือดข้างลำห้วยที่แห้งกราก วิ่งโร่กลับบ้านแจ้งตำรวจ
เวลา 23.00 น.ของวันที่ 8 ส.ค.63 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ ไทยสุวรรณ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจตำบลวังกระแจะ อ.ไทรโยคฯ ว่าได้รับแจ้งจากนายประสิทธิ์ สุขเสม อายุประมาณ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 1ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ว่านายบุญช่วย ปิ่นกุมภรี์ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 หมู่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณกลางป่าลึกเส้นทางเข้าเหมืองเต่าดำ บ้านชายทุ่งหมู่ 9 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยคฯ
หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.ไทรโยคฯและผู้บังคับบัญชาทราบเรื่อง จากนั้นจึงประสานแพทย์เวร รพ.ไทรโยค ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และมูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เดินทางเข้่าไปยังจุดเกิดเหตุกลาวป่าลึกที่ในพื้นที่ขององค์การอุุสาหกรรมป่าไม้ ที่ 2 มุ่งหน้าเหมืองเต่าดำ บ้านถ่านห้วยลึก แยกจากถนนใหญ่เข้าไปอีกประมาณ 5 กม.ซึ่งต้องใช้วิธีการเดินเท้า เนื่องจากรถยนต์เข้าไม่ถึง ทางแยกเลี้ยวขวาเป็นดงต้นยางเข้าไปยังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นเขตติดต่อกับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่น้ำน้อย เข้าไปอีกประมาณ 2-3 กม.การเดินทางเข้าไปเป็นไปด้วยความยากลำบากประกอบช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบร่างของนายบุญช่วย ผู้เสียขีวิตนอนหวายจมกองเลือดอยู่ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 เข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด จนกะโหลกแตกมันสมองปนเลือดไหลนองพื้น เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12-13 ชม.
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้พบเพียงอุปกรณ์การเดินป่าส่วนหนึ่งและอาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์12 ตกอยู่ 1 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวนหนึ่งอยู่ในกระเป๋าเป้จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำศพส่งสถาบันนิติเวช รพ.ศูนย์นครปฐมเพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากดำเนินการนำศพของนายบุญช่วย ผู้ตายออกจากป่าเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ตาย เพื่อทำการสอบปากคำนายประสิทธิ์ สุขเสม อายุประมาณ 55 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับผู้ตาย และเป็นผู้พบศพเป็นคนแรก เพื่อสอบสวนปากคำถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
โดยนายประสิทธิ์ น้องชายผู้ตาย ให้การยอมรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางเข้าป่าเพื่อล่าสัตว์กับพี่ชาย โดยแบกปืนลูกซองไปคนละกระบอก เมื่อไปถึงลำห้วยต่างก็แยกย้ายกันเดินออกล่าสัตว์ป่า ระหว่างที่คนกำลังเดินอยู่ในเงามืดเพื่อยิงสัตว์ป่าอยู่นั้น ตนเหลือบเห็นเงาตะคุ่มๆ นึกว่าเป็นหมูป่า จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงไป 1 นัด จากนั้นจึงวิ่งเข้าไปดูพบว่าไม่ใช่สัตว์ป่า แต่เป็นต้วนายบุญช่วย พี่ชาย นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจจึงรีบเดินทางกลับไปบ้านและเล่าให้ภรรยารวมทั้งลูกๆ ของผู้ตายทราบเรื่อง ก่อนจะแจ้งตำรวจสายตรวจให้ทราบ
เจ้าหน้าที่ตำรวจหลังทราบเรื่อง จึงมอบหน้าที่ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานทำการพาราฟีนเทสเพื่อหาคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้ง2 ข้าง ก่อนจะตรวจยึดของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 ที่ใช้ก่อเหตุและควบคุมตัวนายประสิทธิ์ สุขเสม มือล่าสัตว์ป่่ารายนี้นำส่งพนักวานสอบสวน สภ.ไทรโยคฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณเครดิตข้อมูล -สยามรัฐออนไลน์
โพสต์โดย : Ao