โยนถามคนปูดข่าวเอง! นายกฯซัดเลอะเทอะ!ปูดข่าวกองทัพจ่อรัฐประหาร

นายกฯ ซัดเลอะเทอะ! ปูดข่าวลือการทำปฏิวัติรัฐประหารช่วงกองทัพบกมีการเคลื่อนย้ายกำลังพล - ไม่ขวางทำประชามติแก้รธน. ปัดสั่งจนท.เตรียมกำลังรับมือม็อบ โยนถามคนปูดข่าวเอง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือการทำปฏิวัติรัฐประหารในช่วงที่กองทัพบกมีการเคลื่อนย้ายกำลังพล และอาวุธยุทโธปกรณ์ในหลายพื้นที่ จนทำให้เกิดความแตกตื่น โดย พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับอุทานเสียงดังว่า “เห้ย ไปกลับบ้าน” และเดินออกจากโพเรียมทันที

จากนั้นนายกฯ เดินผ่านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมถามว่า “ใครจะรัฐประหาร” ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวว่า กองทัพบก ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้หันมาตอบว่า “เลอะเทอะ ถามแบบนี้” ก่อนเดินขึ้นไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล

สำหรับบรรยากาศการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ มีสีหน้าที่นิ่งเฉย และมีน้ำเสียงที่ดูนิ่งๆ และมีการถอนหายใจในหลายครั้งด้วยกัน และยังไม่ตอบคำถามที่สื่อมวลชนแจ้งไปก่อนการแถลงข่าวถึงกรณีที่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ออกมาให้ความเห็น ว่า นายกรัฐมนตรี ควรลาออก เพื่อเปิดทางให้ มีนายกรัฐมนตรีคนนอก และ รัฐบาลสมานฉันท์ เข้ามาแก้ไขสถานการณ์ประเทศในปัจจุบัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการพิจารณาเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติตาม ที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอ ว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ ฉบับใหม่ โดย กกต. ได้ชี้แจงว่า ตามกฎหมายฉบับใหม่ หากต้องมีการทำประชามติ จะต้องทำถึง 2 ครั้ง โดยปกติต้องใช้งบประมาณครั้งละ 3,000 ล้านบาท แต่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 จะต้องใช้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท เพราะต้องใช้จุดการลงคะแนนมากขึ้น ต้นทุนทุกอย่างก็ต้องมากขึ้นเช่นเดียวกัน พร้อมระบุ อย่าหาว่าไม่

สนับสนุนให้ทำประชามติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ดำเนินการจัดทำ พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ

ส่วนการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้น ต้องใช้งบประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท พร้อมยืนยันว่า จะจัดการเลือกตั้งท้องอันใดอันหนึ่งก่อนภายในปีนี้ เพราะจะทำพร้อมกันไม่ได้ เนื่องจากต้องเว้นระยะห่างกัน 60 วัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากพื้นที่ชายแดนและสถานการณ์โควิด-19 ว่า ถึงแม้จะมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เราก็สามารถติดตามได้ทั้งหมดในขณะนี้ ตรวจสอบยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนก ถือเป็นการทดสอบระบบป้องกันที่ยังทำได้ดี

ส่วนการป้องกันการแพร่ระบาดตามแนวชายแดนได้กำชับเจ้าหน้าที่โดยตลอด ที่ผ่านมามีการเพิ่มกำลังตำรวจ ทหาร ปฎิบัติหน้าที่โดยไม่ได้พัก มีการลดอัตราการลาพักตามวงรอบของเจ้าหน้าที่เพื่อให้อยู่ปฎิบัติงานตามแนวชายแดน จึงขอให้ทุกคนให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รวมถึงการดูแลการจราจรในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมาด้วย

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า ในเรื่องวันหยุดยาว ได้มีการหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะหาวันเพื่อกำหนดให้มีช่วงการหยุดยาวให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้จ่าย หมุนเวียนในการท่องเที่ยว และขอให้ประชาชนช่วยกันท่องเที่ยวภายในประเทศเพื่อให้เกิดห่วงโซ่ต่างๆขับเคลื่อนไปได้ ถึงแม้จะไม่ดีเหมือนเดิมแต่ถือเป็นการต่อลมหายใจซึ่งกันและกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอ “ภูเก็ตโมเดล” กำลังทำอยู่ ยังนำนักท่องเที่ยวจากนอกประเทศเข้ามาไม่ได้เอาในประเทศไปก่อน คนในพื้นที่ยังไม่ได้ตอบรับ ยืนยันไม่ได้เป็นการพับโครงการภูเก็ตโมเดล การนำคนเข้ามาต้องว่ากันอีกต้องมีความพร้อมก่อน เพราะทำขึ้นมาแล้วคนในประเทศไม่เห็นด้วย

นายกฯ ยัน รับไม่ได้คดี”บอส” มอบ “วิษณุ” รวบรวมข้อมูล

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีองค์กรต่างๆ เรียกร้องให้เปิดข้อมูลผลสอบคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส รวมถึงคลิปเสียงสนทนาระหว่างอัยการกับบิ๊กตำรวจ ซึ่งมีรายงานว่ามีการส่งข้อมูลให้นายกรัฐมนตรี แล้ว โดยยืนยันแล้วว่า รับไม่ได้เรื่องคดีบอส และได้ให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบในชั้นต้น ซึ่งข้อมูลต่างๆขณะนี้ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งได้พูดคุยกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) แล้วให้นำข้อมูลทั้งหมดไปสังคายนาและสังเคราะห์ออกมา และต่อไป หลังจากนี้ก็จะมีการเรียกบุคคลตามรายชื่อมาและจะมีการเปิดเผยรายชื่อออกมา

นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ไม่ต้องกลัว เพราะไม่สามารถปิดได้ ซึ่งใครเกี่ยวข้องตรงไหนก็ต้องออกมาหมด และป.ป.ท.ก็ต้องรวบรวมบูรณาการก่อน อาจพูดไปก่อนคงดูไม่ค่อยดี เพราะเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี หากไปก้าวล่วงเกี่ยวกับเรื่องยุติธรรมมากๆมันไม่ดี จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิด ส่วนนายกรัฐมนตรี ก็อำนวยความสะดวกให้ดำเนินการได้

ส่วนที่กระแสสังคมเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อบิ๊กตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ป.ป.ท.จะเรียกคณะนี้มาสอบ ทั้งตำรวจ หรือใครที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทุกคนก็ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายกฯ ปัดสั่งจนท.เตรียมกำลังรับมือม็อบ โยนถามคนปูดข่าวเอง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เอกสารการเตรียมกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรับมือกลุ่มผู้ชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. ว่า เรื่องการชุมนุมใครพูดอะไรมาก็ไปหากับคนนั้นแล้วกัน ใครที่เปิดเผยเอกสารต่างๆ ส่วนตนเองก็ไม่ได้ไปกำชับบัญชาอะไรเป็นพิเศษ แต่ดูแลให้ปลอดภัยเท่านั้นเอง ซึ่งการชุมนุมหากเป็นการชุมนุมที่ไม่รุนแรงก็ว่ากันไปตามสิทธิ

นายกฯยังไม่สรุปแจกเงิน3พัน-จ่อเพิ่มวันหยุดกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจ ขณะนี้ถือว่าดีขึ้นตามลำดับหลังจากที่รัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการ ขณะที่ การแพร่ระบาดของโควิด-19 อยู่ในระยะที่ปลอดภัย จึงขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ส่วนตามแนวชายแดนได้กำชับให้

เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองตลอดเวลา โดยไม่อนุญาตให้มีการลาพักจึงขอให้ประชาชนเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันโควิด ทั้งนี้ ไทยยังได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 กับหลายประเทศ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนวัคซีนแห่งชาติ

ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาเพิ่มวันหยุดให้มากขึ้นในระยะต่อไป เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เพราะช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากทำให้มีการใช้จ่ายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนไปได้ในหลายด้าน แม้จะไม่ดีเท่าเดิมแต่ก็ช่วยต่อลมหายใจให้กันละกัน

นอกจากนี้ ครม.ยังได้เห็นชอบอนุมัติงบประมาณในการจ้างงานนักศึกษาที่จบใหม่ ทั้งระดับปวช.-ปวส.และมหาวิทยาลัย กว่า 260,000 ตำแหน่ง พร้อมเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงานเสนอเลื่อนเวลาการจ่ายเงินให้กับแรงงานในระบบประกันสังคมที่ตกค้างกว่า 50,000 คน ไปจ่ายในเดือนตุลาคม

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันถึงกระแสข่าวการแจกเงินประชาชน 3,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ว่า ยังไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้ แต่ได้พิจารณาเรื่องการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยพ่อค้าแม่ค้าซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews