ขอชุมนุมอยู่ในกรอบ “อนุทิน”ขอม็อบยึดกม.-ป้องกันโควิดย้ำจุดยืนภท.แก้รธน.ตั้งสสร.

"อนุทิน" ขอชุมนุมอยู่ในกรอบหมาย สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ย้ำจุดยืนแก้ รธน. ภูมิใจไทย คือ ตั้งส.ส.ร. พร้อมหนุนรายมาตราหากเป็นประโยชน์กับบ้านเมือง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีจะมีการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในวันที่ 19 กันยายนนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิดเป็นพิเศษหรือไม่ ว่า ให้ใส่หน้ากากอนามัยอย่าไอจามใส่กัน ให้ส่งเสียงพูดคุยกันได้ แต่ต้องอยู่ในหน้ากากอนามัย ละอองฝอยจะได้ไม่ออกมา และไม่มีการติดเชื้อได้ และถ้าทุกคนใส่หน้ากากอนามัยก็จะไม่มีการระบาดของโรค

ส่วนประเมินสถานการณ์การชุมนุมดังกล่าวจะรุนแรงหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้อยู่ในกติกา ในกฎหมาย ชุมนุมด้วยความสงบ และการเรียกร้องต่างๆขอให้มั่นใจว่า รัฐบาล ครม. และ ส.ส. รับฟังทุกความเห็น ทุกข้อเรียกร้องอย่างแน่นอน และจะนำมาพิจารณาหารือกัน หากทุกคนทำเพื่อประโยชน์บ้านเมืองคงไม่มีปัญหา และมั่นใจว่าทุกคนจะทำเพื่อประโยชน์บ้านเมืองและตนก็จะทำเพื่อประโยชน์บ้านเมือง

ซึ่งการชุมนุมครั้งนี้จะถึงขั้นล้มรัฐบาลได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า บ้านเมืองมีมีกฎหมายและรัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำอะไรผิด บริหารราชการแผ่นดินทุกวัน สถานการณ์แพร่ระบาดโควิดเราก็ทำอย่างเต็มที่ ส่วนสถานการเศรษฐกิจก็เป็นผลมาจากโควิดแต่เราก็ยังดูแลประชาชนเต็มความสามารถ

โดยนายอนุทิน กล่าวถึงการแก้ไขและธรรมนูญ60 ว่า เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้วทุกพรรคการเมืองเห็นชอบในการรับฟังเสียงของประชาชนให้แก้ไขในบางมาตราซึ่งพรรคภูมิใจไทยก็พร้อม

ส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านเสนอแก้ไขธรรมนูญเป็นรายมาตราทางพรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เราประกาศจุดยืนไปแล้วให้มี ส.ส.ร. ส่วนที่มีการเสนอเป็นรายมาตราควบคู่ไปนั้นก็ต้องว่ากันไปจุดไหนที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองและประชาชนจะเป็นรูปแบบใดเราก็พร้อมให้การสนับสนุนแต่จุดยืนของพรรคภูมิใจไทยคือการให้มีส.ส.ร.

 ทั้งนี้ ประเด็นในการปิดสวิตช์ ส.ว. พรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า รายละเอียดต้องไปคุยกันเพราะเมื่อมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและตั้ง ส.ส.ร. แล้วอำนาจการแก้ไขอยู่ที่ส.ส.ร. และเรามีหน้าที่เห็นชอบหรือไม่เห็นชอบเพราะทุกอย่างมีขั้นตอนและกระบวนการอยู่ซึ่งเมื่อทุกคนทำตามนั้นก็จะอธิบายสังคมได้ อย่าไปทำนอกกรอบของกฎหมาย

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews