คติความเชื่อจากคนโบราณสอนว่า รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี

คติความเชื่อจากคนโบราณสอนว่า รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี

เชื่อไหมว่า วลีเด็ดนี้มีที่มาจากคนโบราณเพราะจะสอนลูกหลานว่า การที่เลี้ยงวัวไว้ใช้ทำนาอย่าตามใจวัวให้วัวเดินเล็มหญ้าเองอย่างอิสระ และการเลี้ยงลูกจนกระทั่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ได้นั้นต้องตีสั่งสอนเอาพฤติกรรมเสีย ๆออก แท้จริงไม่เฉพาะเป็นวลีเท่านั้น แต่คือสุภาษิตที่มีประโยชน์และมีที่มาที่ไปอย่างไร Horoscope thaiza จะเล่าเรื่องราวลองอ่าน...

     สันชาตญาณของวัวจะไม่ชอบให้ผูกติดกับเสา วัวอยากออกเดินหาอาหารเองอย่างอิสระแต่สมัยก่อนมีขโมยมาก โดยเฉพาะขโมยวัว เพราะวัวสมัยก่อนมีค่ามีราคาและคุณประโยชน์มากมาย ตั้งแต่การเทียมเกวียนเดินทางไปค้างอ้างแรมในที่ไกล ๆ ทำนา และขี่เดินเล่น สินสอดทองหมั้นบางรายเรียกเป็นจำนวนตัววัว เครื่องบรรณาการเจ้านายชั้นสูงยังใช้วัว จำนวนวัวยังแสดงบารมีแก่เจ้าของได้ว่ามีฐานะแค่ไหนจากจำนวนวัวในคอก ดังนั้นเมื่อรักวัวเมื่อนำวัวไปหากินหญ้าต้องผูกไว้กับหลักกันขโมยมาแอบจูงเอาวัวไป

     เรื่องรักลูกคนโบราณจะสอนลูกหลานว่า เมื่อใดที่สันดานลูกรักไม่ต้องตามจารีตประเพณี และบรรทัดฐานทางสังคมจะต้องสั่งสอนโดยการตี การตีลูกสมัยก่อนไม่ใช่วิธีการโบยแบบบ่าวไพร่ ลูกชาวบ้านส่วนใหญ่จะใช้ก้านมะยม โดยนำก้านที่ติดกับกิ่งมะยมมารูดเอาใบออกจนกระทั่งเหลือก้านเปล่า ๆ คนโบราณเชื่อว่าก้านมะยมมีความเหนียวและยืดหยุ่นดี ไม่ใหญ่มากจนสร้างความทรมานเจ็บปวดเวลาโดนตีแก่บุตรหลาน เหมาะที่จะตีสั่งสอนแค่ให้หลาบจำไม่ก่อพฤติกรรมไม่ดีอีก

     สมัยนี้การตีลูกไม่ได้รับความตระหนักจากพ่อแม่บางคนที่เลี้ยงลูกแบบตามใจลูกและพ่อแม่เอง จนกระทั่งลูกน้อยเสียคนเป็นต้นว่า ก่อพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน ฆ่า ทำร้ายคู่อริ ลักเล็กขโมยน้อย และติดยาเสพติดอย่างที่เป็นข่าว แล้วทำไมคนปัจจุบันรักลูกเมื่อลูกทำผิดกลับไม่ยอมตีสั่งสอนลูก

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:horoscope.thaiza.com