Social :



ยกฟ้อง! อดีตเจ้าอาวาส วัดสามพระยา ไม่ผิดทุจริตเงินทอนวัด

24 ก.ย. 63 08:09
ยกฟ้อง! อดีตเจ้าอาวาส วัดสามพระยา ไม่ผิดทุจริตเงินทอนวัด

ยกฟ้อง! อดีตเจ้าอาวาส วัดสามพระยา ไม่ผิดทุจริตเงินทอนวัด

ศาลอุทธรณ์พิพากษา ยกฟ้องคดีเงินทอนวัดสามพระยา จำนวน 5 ล้านบาท เมื่อปี 2557 โดยยกฟ้องอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และอดีตพระอรรถกิจโสภณ ไม่มีความผิดฐานฟอกเงิน


วันนี้ (24 ก.ย.63) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีฟอกเงินทุจริตจัดสรรงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ "เงินทอนวัด" ของวัดสามพระยา โดยวันนี้ฝ่ายจำเลยที่1 และ 2 ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ได้แก่ อดีตพระพรหมดิลก  อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคมและเจ้าคณะกรุงเทพฯ หรือ นายเอื้อน กลิ่นสาลี กับ อดีตพระอรรถกิจโสภณ เลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพฯ หรือ นายสมทรง อรรถกฤษณ์

ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันฟอกเงิน  จากการทุจริต เงินทอนวัด  ปี 2557 ให้กับวัดสามพระยาจำนวน 5 ล้านบาท ในงบส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ทั้งที่ไม่มีโรงเรียน แต่นำงบที่ได้มาไปใช้ก่อสร้างอาคารร่มธรรมแทน 

ศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ตัดสินให้จำคุก อดีตพระพรหมดิลก จำเลย 1 ฐานร่วมกันฟอกเงิน 2 กระทงๆ ละ 3 ปี  รวมจำคุก 6 ปี และอดีตพระอรรถกิจโสภณ จำเลยที่ 2 จำคุก
MulticollaC
2 กระทงๆ ละ 1 ปี 6 เดือน รวมจำคุก 3 ปี โดยพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 2 คน  

นายอรรณพ บุญสว่าง ทนายความของจำเลย เปิดเผยว่า จำเลยทั้งสองคนพอใจกับคำพิพากษา โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่า การขออนุมัติงบศึกษาพระปริยัติธรรม ไม่ใช่เฉพาะวัดที่มีโรงเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม แต่วัดสามพระยา มีโรงเรียนสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ย่อมมีสิทธิ์ในการใช้งบได้ และจำเลยที่ 1 เข้าใจว่า งบจำนวน 5 ล้านบาท เป็นงบบูรณะปฏิสังขรณ์ จึงได้มอบอำนาจให้มีการถอนเงินจ่ายค่าก่อสร้างอาคารร่มธรรม จึงไม่ถือว่าเป็นการเปลี่ยนทรัพย์สินที่เป็นการกระทำความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่หลังจากนี้คงต้องรอดูฝ่ายโจทย์ จะฎีกาต่อหรือไม่ซึ่งมีกรอบภายใน 30 วัน    

นายอรรณพ ยังระบุถึงเรื่องสมณเพศด้วยว่า ทั้งสองคนไม่ได้เปล่งวาจาสึก และที่ผ่านมายังรักษาดำรงพฤติการณ์เสมือนเป็นพระอยู่ แต่ในทางกฎหมายอาจจะยังมีข้อโต้แย้ง ขณะที่ความตั้งใจของทั้งสองคนก่อนหน้านี้เห็นว่าหากศาลยกฟ้องจะเรียกร้องสิทธิในการแสดงออกด้วยการห่มเหลือง

ขณะที่มีข้อมูลว่าภายหลังพิพากษาแล้ว อดีตพระอรรถกิจโสภณ จำเลยที่ 2 ถึงกับยกมือไหว้และร่ำไห้ด้วยความดีใจ รวมถึงพระสงฆ์และกลุ่มฆราวาสที่เดินทางมาให้กำลังใจก็ร่วมแสดงความยินดีด้วย



ขอขอคุณข้อมูล -TNN ช่อง16

โพสต์โดย : Ao