Social :



สุดทึ่ง 'น้ำตกไนแองการา' แข็งตัว หลังเผชิญพายุฤดูหนาว พัดกระหน่ำสหรัฐฯ

23 ก.พ. 64 18:02
สุดทึ่ง 'น้ำตกไนแองการา' แข็งตัว หลังเผชิญพายุฤดูหนาว พัดกระหน่ำสหรัฐฯ

สุดทึ่ง 'น้ำตกไนแองการา' แข็งตัว หลังเผชิญพายุฤดูหนาว พัดกระหน่ำสหรัฐฯ

น้ำตกไนแองการา กลายสภาพเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูหนาวที่งดงามท่ามกลางพายุฤดูหนาวอันโหดร้ายที่พัดปกคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้อุณหภูมิได้ลดลงต่ำถึง -19 องศาเซลเซียส ทำให้เหล่านักท่องเที่ยวได้เห็นเหล่าก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เกาะอยู่ที่ด้านบนของน้ำตก รวมทั้งเห็นก้อนน้ำแข็งใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือน้ำ พร้อมกับหมอกที่ก่อตัวเป็นสีรุ้งสวยงาม




น้ำตกไนแองการา ตั้งอยู่ที่เมืองบัฟฟาโล ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา น้ำตกแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “น้ำตกที่สวยและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” น้ำตกแห่งนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 12,500 ปีที่แล้ว ซึ่งก่อตัวขึ้นในยุคน้ำแข็งครั้งสุดท้าย และเป็นน้ำตกที่อยู่ระหว่างพรมแดนของสองประเทศระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดานั่นเอง ซึ่งใกล้กับน้ำตกจะมีสะพานลอยทอดข้ามเชื่อมระหว่าง 2 พรมแดนประเทศอยู่ด้วย



ถึงแม้ว่าในภาพถ่ายบางภาพจะแสดงให้เห็นว่าน้ำตกเหล่านั้นได้กลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว น้ำปริมาณมหาศาลเหล่านั้นไม่เคยหยุดไหลเลยแม้แต่น้อย จากข้อมูลของ Niagara Falls USA น้ำแข็งจะก่อตัวในแม่น้ำทุกฤดูหนาว ทั้งนี้ขอบเขตของการเกิดน้ำตกแข็งตัวนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัดเป็นเวลานาน ที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี เช่นเหตุการณ์กระแสลมวนในเขตขั้วโลกในปี 2557 และ 2558 ซึ่งส่งผลให้เกิดภาพ ‘น้ำตกเยือกแข็ง’


Lif

น้ำตกไนแองการา ได้รับผลกระทบจากหิมะและสภาพอากาศหนาวจัด ซึ่งสร้างความหายนะให้กับสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าในช่วงนี้จะมีหิมะตกอีกประมาณ 2 นิ้ว นอกจากอุณหภูมิที่ต่ำจัดจะทำให้น้ำแข็งก่อตัวทั่วน้ำตกแล้วนั้นต้นไม้และพุ่มไม้โดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง



อย่างไรก็ตามด้วยพายุฤดูหนาวที่พัดกระหน่ำในสหรัฐอเมริกานั้น จัดว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อ 18 ปีก่อน ซึ่งทำให้พื้นที่กว่า 73.2 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ จาก 48 รัฐที่อยู่ติดกัน และคร่าชีวิตประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 23 ราย ในหลายรัฐและยังทำให้ประชาชนอีกนับล้านเผชิญกับความยากลำบาก


ทำให้สหรัฐอเมริกา  ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมมากมาย ตั้งแต่อุบัติเหตุรถชน ไฟไหม้ และพิษจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ รวมไปถึงโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติล้มเหลว และแหล่งจ่ายไฟทุกประเภทล้มเหลว ในสภาพอากาศหนาวจัดจนตัดขาดการเข้าถึงในหลายพื้นที่ท่ามกลางสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ อันเป็นผลมาจาก ‘กระแสลมวนในเขตขั้วโลก’ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มวลความกดอากาศต่ำและมวลอากาศเย็นขนาดใหญ่ บริเวณขั้วโลกเหนือและใต้ โดยมีทิศทางการหมุนของกำลังลมซึ่งไหลรวมกันในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา


ที่มา : dailymail

โพสต์โดย : ต้นน้ำ