คดีฆาตกรรม เมื่อปี 1922 ช่วงฤดูหนาวของประเทศเยอรมัน Andreas Gruber ได้พบรอยเท้าลึกลับที่เดินเข้ามาในฟาร์มของเขา หลายวันต่อมาเขาและครอบครัวจถูกคนร้ายฆ่าตายด้วยขวานภายในฟาร์ม ก่อนที่จะมีคนมาพบศพในสองวันต่อมาประเด็นที่ทำให้คนสงสัยมากที่สุด คือ พฤติกรรมสุดแปลกของคนร้าย ที่ให้อาหารสัตว์เลี้ยงภายในฟาร์ม แต่กลับไม่ขโมยเงินของเหยื่อไป ทุกวันนี้คดีนี้ยังเป็นปริศนาต่อไป ว่า แท้จริงแล้วคนร้ายเป็นใครกันแน่ แต่เรื่องที่เล่าขานต่อๆกันมาก็คือก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ รอยเท้าปริศนาที่ปรากฏบนหิมะ จากรอบๆ บริเวณบ้าน รอยเท้านี้นำเขาไปสู่ชายป่า เหมือนคนเดินเข้าไปแต่ไม่มีรอยเดินกลับออกมา ซึ่งสอดคล้องกับที่เขาเคยได้ยินเสียงฝีเท้าลึกลับของใครก็ไม่รู้ในยามค่ำคืนเดินวนไปมารอบๆ บ้าน ที่สำคัญเขาพบว่ากุญแจบ้านนั้นหายไปจากที่ของมัน เมื่อ Andreas เล่าจบเพื่อบ้านแนะนำให้เขาไปแจ้งตำรวจ ซึ่งเขาก็ไปแจ้งจริงๆ (แน่นอนว่าตำรวจแค่รับเรื่องไว้เท่านั้น เพราะเรื่องที่ Andreas เล่าไม่ได้ส่อให้เห็นถึงอันตรายแต่อย่างใดในความคิดของตำรวจขณะนั้น)
คาดว่าชาวเน็ตไทยหลายคนคงได้ทราบเรื่องราวของ คดีฆาตกรรม เอลิซา แลม กันมาบ้างแล้ว คดีดังข้ามเวลานี้คดีนี้เกิดขึ้น เมื่อเดือนก.พ. 2013 ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ เอลิซา แลม ได้หายตัวไปอย่างลึกลับภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ก่อนที่หลายวันต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบศพของ เอลิซา นอนเสียชีวิตอยู่ในถังน้ำบนหลังคาโรงแรม โดยเจ้าหน้าที่สรุปสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ เกิดจากการฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม คดีนี้ได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยให้กับชาวเน็ตทั่วโลกเป็นอย่างมาก หลังชาวเน็ตทั่วโลกได้ชมคลิปพฤติกรรมสุดแปลกของทาง เอลิซา ก่อนเธอจะเสียชีวิต ที่แสดงให้เห็นช่วงเวลาที่เธอซ่อนตัวในลิฟต์คล้ายกำลังหลบหนีอะไรบางอย่าง ซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่าเหตุใด เอลิซา แลม ถึงแสดงพฤติกรรมสุดแปลกเช่นนั้นก่อนเสียชีวิต
เมื่อปี 1966 ที่เมือง Rio De Janeiro ได้เกิดคดีสุดลึกลับ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพชายสองคนนอนเสียชีวิตอยู่บนเนินเขา ผู้เสียชีวิตทั้งสองรายสวมหน้ากากป้องกันสารพิษและชุดแจ็คเก็ตกันน้ำ ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย พบเพียงกระดาษโน้ตที่เขียนข้อความไว้ว่า “18.30 18:30 swallow capsules, after effect, protect metals, wait for 
เมื่อปี 2007 มีคนพบซากเท้าคน 2 ข้าง บริเวณชายฝั่งทะเล Salish Sea ที่เป็นเขตทะเลช่วงอยู่ระหว่างมลรัฐวอชิงตัน ของสหรัฐอเมริกา และ เขตแวนคูเวอร์ของประเทศแคนาดา จากการค้นพบนี้ยังเป็นปริศนาเนื่องจากไม่มีใครรู้ว่าเท้านี้เป็นของใคร บางทีอาจเป็นของคนที่ประสบอุบัติเหตุหรือถูกฆาตกรรม! แต่สิ้งที่เหลือเชื่อก็คือทะเลในบริเวณนี้มักจะพบเท้าคนทุกปีตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา และยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมจึงไม่พบชิ้นส่วนอื่นๆของมนุษย์ในเขตนี้เลยยกเว้นแต่เท้า
ปี 1948 ที่ออสเตรเลีย ชายคนหนึ่งถูกพบเป็นศพที่ชายหาด เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถทราบได้ว่าชายคนนี้เป็นใคร พบแต่เพียงกระดาษที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าที่เขียนข้อความไว้ว่า “tamam shud” ซึ่งมีความหมายว่า “สิ้นสุด” ของ คดีฆาตกรรม นี้
John Wayne Gacy เป็นฆาตกรต่อเนื่องสุดน่ากลัวที่ก่อ คดีฆาตกรรม เขาอาศัยการใส่ชุดตัวตลกหลอกเหยื่อ ที่ยังเด็กอยู่ไปฆาตกรรม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าฆาตกรตัวตลกรายนี้ได้ก่อเหตุฆ่าเหยื่อจำนวน 33 รายที่เป็นเด็ก โดยศพเหยื่อจำนวน 26 ราย ถูกฝังอยู่ใต้พื้นบ้านของเขา ตามภาพที่คุณเห็น!
คดีฆาตกรรมหน้ากากหลอน เป็นอีกหนึ่ง คดีฆาตกรรม ปริศนาที่ถูกบันทึกในเอกสารลับ จากข้อมูลอ้างว่า ภาพที่คุณเห็นอยู่นี้ เป็นภาพของหน้ากากที่เด็กคนหนึ่งทำการเฉือนใบหน้าพ่อของตัวเอง เพื่อนำหน้าของพ่อมาทำเป็นหน้ากาก แล้วใส่หน้ากากนี้ไปโชว์ให้ปู่และย่าดู เมื่อปู่และย่าเห็นหน้ากากก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะพบความจริงที่น่าเศร้าว่าหน้ากากที่หลานใส่ เป็นใบหน้าของลูกชายตัวเอง
