ควายธนู ถือเป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม ควายธนูมีความผูกพันกับวัฒนธรรมการปลูกข้าวของชาวไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากวัวควายมักเป็นสัตว์ที่ถูกเลี้ยงไว้ใช้งานในทางกสิกรรม
วิชาอาคมเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูปแบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปแบบที่เป็นคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งแบบที่เป็นวัวธนูและควายธนู ซึ่งเครื่องรางเหล่านี้สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานขึ้นมาจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นด้วยขี้ผึ้ง หรือหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูจากโลงศพเจ็ดป่าช้า , เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น นอกจากนี้ บางสำนักอาจใช้โครงเป็นไม้ไผ่พอกด้วยครั่งที่ได้จากต้นพุทรา
เมื่อปั้นควายธนูแล้ว ต้องนำมาปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดีด้วยหญ้าและน้ำเสมอ
สำหรับคาถาที่ใช้เสกเมื่อทำควายธนูว่าไว้ว่า “โอมปู่เจ้าสมิงไพร ปู่เจ้ากำแหงให้กูมาทำควาย เชิญพระอีศวรมาเป็นตาซ้าย เชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา เชิญพระนารายณ์มาเป็นเขา เชิญพระอินทร์เจ้าเข้ามาเป็นหาง เชิญพระพุทธคีเนตร์ พระพุทธคีนายมาเป็นสีข้างทั้งสอง เชิญพระจัตตุโลกบาลทั้งสี่มาเป็นสี่เท้า เชิญฝูงผีทั้งหลายเข้ามาเป็นไส้พุง นะมะสะตีติ ”
ความเชื่อเรื่องควายธนูนี้มีอยู่ทั่วทุกภาคในประเทศไทย ในบางท้องถิ่นเชื่อกันว่าผู้เลี้ยงจำเป็นต้องดูแลความธนูอย่างดี ต้องหมั่นให้อาหารและปล่อยให้ออกไปท่องเที่ยวบ้างบางครั้ง การเลี้ยงดูควายธนูจะประมาทหรือหลงลืมไม่ได้ มิเช่นนั้นควายธนูจะหวนมาทำร้ายเจ้าของเสียเอง แต่บางแห่งก็ถือเป็นเสมือนเครื่องรางธรรมดาที่ใช้สำหรับพกพาไว้คู่กาย