ดุเดือดม็อบไทยไม่ทนวุ่น!!หลัง”อดุลย์”ประกาศห้ามชู3นิ้ว

ม็อบ ไทยไม่ทน วุ่น!! หลัง “อดุลย์” ประกาศห้ามชู 3นิ้ว ทำมวลชนอาชีวะไม่พอใจ เดินออกไป จากนั้นเจ้าตัวขอโทษ เหตุการณ์กลับมาปกติชุมนุมต่อ

การชุมนุมของกลุ่ม ‘ ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประชาธิปไตย’ เมื่อเวลา 18.00น. นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา35 ได้ขึ้นปราศรัย บนเวที หลังเคารพธงชาติ และมีบางส่วนชูสัญลักษณ์ 3นิ้ว โดยระบุช่วงหนึ่งว่า ขอให้มวลชนผู้ชุมนุมที่เข้ามาร่วมชุมนุม หยุดใช้สัญลักษณ์ชู 3นิ้ว และเปลี่ยนมาใช้สัญลักษณ์ กำปั้น แทนการต่อสู้ ทำให้ มวลชนจำนวนหนึ่ง ที่นำโดย นายธนเดช ศรีสงคราม แกนนำกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่พอใจ และประกาศถอนตัวจากการชุมนุม และทยอยเดินออกจากพื้นที่การชุมนุม และเข้าเก็บเต็นท์ เกิดความชุลมุนขึ้น

ทำให้ผู้จัดกิจกรรมชุมนุม ไทยไม่ทน ต้องเข้าเจรจา หนึ่งในนั้น คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. โดยนายจตุพร ได้ขึ้นเวที ประกาศขอโทษกลุ่มอาชีวะ พร้อมประกาศว่า ทุกคนชู 3 นิ้วได้ เพราะเป้าหมายเดียวคือขับไล่พล.อ.ประยุทธ์

จากนั้น นายอดุลย์ พร้อมกับแกนนำกลุ่มอาชีวะ และนายจตุพร รวมถึง แกนนำกลุ่มสามัคคีประชาชน ขึ้นเวทีพร้อมกันอีกครั้ง โดย นายอดุลย์ ประกาศบนเวที ขอโทษกลุ่มอาชีวะ และมองว่า กลุ่มอาชีวะจะเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้ ซึ่งการชู 3 นิ้ว หมายถึง เสรีภาพ อิสระภาพ และภราดรภาพ โดยขอให้กลุ่มอาชีวะร่วมกันสู้ต่อ

ขณะที่นายธนเดช แกนนำกลุ่มอาชีวะ ประกาศว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากการสื่อสารกันที่ผิดพลาด และขณะนี้ทำความเข้าใจตรงกันแล้วว่า จะร่วมกันสู้ต่อเพื่อขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และยืนยันว่า อาชีะวะจะไม่สู่เคียงข้างประชาชน โดยไม่หันหลังให้ประชาชน ทำให้บรรยากาศกลับมาเข้าสู่สภาวะปกติ โดยมีแกนนำกลุ่มสามัคคีประชาชน บางส่วนร่วมชู3นิ้ว ส่วนกลุ่มมวลชนที่ไม่พอใจก่อนหน้านี้ ก็ทยอยกลับเข้ามานั่งฟังการชุมนุมต่อ

 

 

ปิยะ 5--4-64

ตำรวจนครบาล แจ้งเอาผิดกลุ่มไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ฐานฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และ พรบ.โรคติดต่อ ย้ำไม่สามรถขออนุญาตจัดชุมนุมได้

พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วยพันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามการจัดกิจกรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ที่บริเวณสวนสันติพร อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม

โดยพลตำรวจตรี ปิยะ เปิดเผยว่า วันนี้ทีมกฎหมายของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประชุมหารือถึงการจัดชุมนุมของกลุ่มดังกล่าว วานนี้ (4เม.ย.64) พบว่า พฤติการณ์และการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมาย และมีการแจ้งความร้อมทุกข์ที่ สน.ชนะสงครามแล้ว โดยได้แจ้ง 2 ข้อหาหลัก

คือ ความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 ประกอบกับประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบ ในการแก้ไขสถานการณ์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงฉบับที่ 5 และความผิดตาม พรบ.โรคติดต่อ 2558 พร้อมยืนยันว่า ในช่วงที่มีการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ไม่สามารถขออนุญาตจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองได้

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจถอดเทปการปราศรัยของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และผู้ปราศรัยบนเวทีวานนี้ เพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น พลตำรวจตรี ปิยะ กล่าวว่า ยังไม่พบคำปราศรัยใดที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย

“จตุพร” ขออนุญาติใช้สถานที่จัดชุมนุมแล้ว พร้อมรับข้อกล่าวหา ยืนยันการเคลื่อนไหวไม่ได้กระทำผิดในเงื่อนไขประกันของศาล

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้จัดชุมนุมคนเสื้อแดง ภายใต้กลุ่ม “ไทยไม่ทน” สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย กล่าวว่า พื้นที่สวนสันติพรฯ เป็นพื้นที่ที่ทางคณะรัฐมนตรีได้อนุญาติให้มีการบรรจุอัฐิ เหล่าวีรชนที่เสียสละตัวเองโดยตั้งเป็นอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ในทางพฤตินัยแล้วพื้นที่นี้ ถือว่ามอบให้ญาติวรีชน ต่อมาทางคณะผู้จัดการชุมนุมได้ทำการขออนุญาตไปทางญาติแล้ว และไม่มีข้อขัดข้อง

ดังนั้น การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการ มาชี้แจงประกาศเตือนต่างๆ ส่วนตัวเข้าใจดีว่าทุกฝ่ายต้องมีหน้าที่ที่ต้องทำ ทั้งนี้ ในส่วนที่สังคมตั้งคำถามว่าเหตุใดการชุมนุมครั้งนี้ จึงไม่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนตั้งกำลังอยู่ใกล้บริเวณอีกทั้งยังมีรถห้องน้ำคอยบริการ สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ ทางคณะผู้จัดการชุมนุมได้มีการทำหนังสือถึงสำนักงานสิ่งแวดล้อม และพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ว่าการชุมนุมจะไม่มีการเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาด เจ้าหน้าที่จึงสามารถจำกัดบริเวณได้

ส่วนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งข้อหานั้น ทางทีมงานได้มีการพูดคุยกันแล้วว่า จะต้องโดนแจ้งข้อหารายวัน และยอมรับว่าสิ่งนี้จะต้องเกิดขึ้น หากมีการออกมาแสดงความคิดเห็นและร่วมต่อสู้เพื่อแสดงถึงประชาธิปไตย

ซึ่งจากการชุมนุมเมื่อวานนี้ที่เป็นวันแรกของการออกมาเคลื่อนไหว ถือเป็นวันที่จะได้อธิบายถึงเหตุผลของการต่อสู้ และประเมินสถานการณ์ ว่า ยังไม่ถึงขั้นต้องมีการเคลื่อนย้ายหรือเผชิญหน้า ทุกอย่างอยู่ในลำดับขั้นตอน ทั้งนี้ หลังจากเทศกาลสงกรานต์ รูปแบบของการชุมนุม กลุ่มที่จะมาเข้าร่วม ทิศทางของการเคลื่อนไหวจะชัดเจนมากขึ้น และเป็นของจริง

ขณะเดียวกัน นายจตุพร ยืนยันด้วยว่า การออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้ ยังไม่ได้กระทำผิดในเงื่อนไขประกันของศาล และยังหวังให้ข่าวลือ ที่บอกว่า แกนนำราษฎรที่ถูกคุมขัง จะได้รับการปล่อยตัวในวันพรุ่งนี้ (6 เม.ย.) เป็นเรื่องจริง เพราะนี่คือการต่อสู้ทางความคิด ไม่ใช่การกระทำของอาชญากร

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews