Social :



หนักเอาการ!!! คลื่นความร้อน ส่งผลกระทบ ไทย อาจแล้งน้ำจนปลูกอะไรไม่ได้!!!

13 พ.ค. 59 07:25
หนักเอาการ!!! คลื่นความร้อน ส่งผลกระทบ ไทย อาจแล้งน้ำจนปลูกอะไรไม่ได้!!!

หนักเอาการ!!! คลื่นความร้อน ส่งผลกระทบ ไทย อาจแล้งน้ำจนปลูกอะไรไม่ได้!!!

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ไทย ลาว และกัมพูชา วัดอุณหภูมิได้สูงสุด 44.6 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลของแต่ละประเทศ จากข้อมูลของเวเทอร์ อันเดอร์กราวด์ ผู้ใช้บริการด้านภูมิอากาศทางพาณิชย์ ขณะที่สิงคโปร์เองก็ต้องเผชิญอุณหภูมิสูงผิดปกติเช่นกัน ส่วนในมาเลเซีย พบเห็นบึงขนาดใหญ่แห้งขอดและผลผลิตพืชผักเหี่ยวแห้ง
       
       ในกัมพูชา เหล่าเด็กนักเรียนต้องประสบปัญหา เนื่องจากโรงเรียนต่างๆของพวกเขาถูกปรับลดการจ่ายน้ำ "จะหาน้ำสำหรับเข้าส้วมยังแทบไม่มีเลย" เด็กน้อยวัย 13 ปีคนหนึ่งจากจังหวัดตบุงคมุมเผย "เพราะบ่อน้ำแห้งขอด และเพื่อนของหนูบางคนไม่ได้มาโรงเรียน เพราะว่ามันร้อนเกินไป"
       
       ส่วนคุณครูของหนูน้อยรายนี้ แสดงความกังวลว่า "ผมพบเห็นการขาดเรียนเพิ่มขึ้นราว 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ เราต้องการติดตั้งพัดลม แต่โรงเรียนของเราไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง"
       
       เมื่อไม่สามารถใช้ห้องน้ำของโรงเรียนได้ อิหม่ามโมรูคา หัวหน้าฝ่ายสื่สารมวลชนของยูนิเซฟกัมพูชา เผยว่า "เด็กๆต้องไปปลดทุกข์ตามพุ่มไม้ หรือไม่ก็กลับบ้าน โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง และจากนั้นบางทีก็ไม่กลับมาเรียนอีกเลย"
       
       ที่จังหวัดกำปงชนัง แหล่งน้ำสำหรับนักเรียนเหลืออยู่แค่เล็กน้อยและปนเปื้อนเชื้อโรค "แม้มีการกรองน้ำก่อนดื่ม แต่พวกเขาก็อาจมีอาการท้องร่วงหรือล้มป่วย" ประธานคณะกรรมาการสนับสนุนการศึกษาท้องถิ่นกล่าว "หรือแม้แต่ใช้อาบน้ำ ผิวหนังของพวกเขาก็จะระคายเคืองด้วยจุดสีแดงและหยาบ"
       
       รัฐบาลกัมพูชาตอบสนองต่อสภาพอากาศที่เลวร้าย ด้วยการลดชั่วโมงเรียนระหว่างช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน แต่เหล่าคุณครูคร่ำครวญว่าไม่มีงบประมาณพิเศษสำหรับจัดซื้อน้ำดื่ม
       
       ใขณะที่แม่น้ำโขง แม่น้ำสายที่ยาวที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลดลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ รัฐบาลเวียดนามระบุว่าระดับน้ำของแม่น้ำโขงในประเทศแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1926 ขณะที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่าความแห้งแล้งยังทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายใหญ่หลวง
       
       ส่วน

MulticollaC
ไทย ชาติผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก ซีเอ็นเอ็นรายงานเช่นกัน คาดหมายว่าจะมีผลผลิตที่ย่ำแย่ สืบเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดและข้อเท็จจริงที่ว่าเมื่อปีที่แล้ว มีฝนตกลงมาน้อยกว่าคาดหมายไว้
       
       ซีเอ็นเอ็นอ้างข้อมูลของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ระบุว่าถ้าเวียดนามและไทยไม่สามารถผลิตข้าวได้เพียงพอ เหล่าผู้นำเข้าท้องถิ่นอย่างฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย จะประสบปัญหาขาดแคลนและราคาจะพุ่งสูงขึ้น โดยปีที่แล้ว ฟิลิปปินส์นำเข้าข้าว 1.9 ล้านตัน คิดเป็นจากเวียดนาม 53 เปอร์เซ็นต์ และ ไทย 5 เปอร์เซนต์ และรัฐบาลอินโดนีเซียบอกเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาคาดหมายว่าจะนำเข้าข้าวจากเวียดนาม 1 ล้านตันและจากไทยมากกว่า 1 ล้านตัน
       
       พลเมืองของสิงคโปร์ ก็รู้สึกถึงผลกระทบ หลังจากมาเลเซีย ดินแดนที่พวกเขานำเข้าผักราว 43 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการนำเข้าผักทั้งหมด เวลานี้ต้องประสบปัญหาในการหาน้ำมาหล่อเลี้ยงแปลงผักที่เหี่ยวแห้ง ด้านสเตรท ไทม์ส สื่อมวลชนแดนเสือเหลืองคาดหมายว่ายอดส่งออกผักของประเทศจะลดลง ส่งผลให้ราคาขายในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่อุณหภูมิบนเกาะแห่งนี้มีค่าเฉลี่ยรายวันที่ 30.6 องศาเซลเซียสในเดือนเมษายน สูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
       
       ย้อนกลับไปที่มาเลเซีย พวกเขาต้องปันส่วนจากการใช้น้ำจากแหล่งสำรอง หลังเขื่อนหลักๆและแหล่งน้ำสำรองหลายแห่งระดับน้ำลดลงแตะระดับที่เป็นอันตราย ขณะที่โรงเรียนมากกว่า 250 แห่งต้องหยุดการเรียนการสอนเมื่อเดือนที่แล้ว
       
       รายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่าพบเห็นการตายของสัตว์ในทุกหนทุกแห่ง ร่างของช้าง 2 ตัวถูกพบในเวียดนาม ขณะที่ในกัมพูชา ช้างเพศเมียเชือกหนึ่งที่ใช้สำหรับแบกนักท่องเที่ยวสัญจรรอบนครวัด ถึงขั้นล้มตายจากอาการเพลียแดด
       
       เหล่านักวิทยาศาสตร์บอกว่าภาวะแห้งแล้งในปีนี้ ถือเป็นหนร้ายแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ภัยแล้งปัจจุบันในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร้ายแรงอย่างยิ่ง" แม็กซิมิเลียโน เอร์เรรา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศจากคอสตาริกากล่าว "มันสามารถเปรียบเทียบได้กับปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงเมื่อปี 1998 และ 1983 แต่ในไทย ภัยแล้งปัจจุบันถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1983"

โพสต์โดย : อาจารย์ตาใส

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด