กสทช.สั่งสอบ ‘ มือถือเจ้าดัง เปิดซิมให้โจร ’
หลังธนาคารที่ผู้เสียหายถูกโจรถอนเงินจนเกลี้ยงยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้เต็มจำนวน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวภายหลังหารือร่วมกับบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และ นายพันธุ์สุธี มืลือกิจ ผู้เสียหายในกรณีถูกปลอมสำเนาบัตรประชาชนเพื่อนำไปเปิดซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือใหม่ และถูกโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของ ธ.กสิกรไทย ว่า กสทช.ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบการกระทำดังกล่าวที่ละเลยในหน้าที่ตรวจสอบเอกสารว่าจะสามารถเอาผิดได้อย่างไรบ้าง เพราะเงื่อนไขการลงทะเบียนหรือขอซิมการ์ดใหม่นั้นจะต้องใช้หลักฐานตัวจริงประกอบด้วย แต่กรณีดังกล่าวไม่ใช่ นอกจากนี้ยังจะเร่งนำแนวความคิดเรื่องการสแกนลายนิ้วมือในการลงทะเบียนซิมการ์ด เพื่อเป็นทางเลือกกับประชาชนที่ต้องการความปลอดภัยที่มากกว่าการลงทะเบียนปกติ คาดว่าจะสามารถนำมาใช้ได้ภายในปีนี้
จ ากหลักฐานสำคัญ เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด จากศูนย์โทรศัพท์ True ที่ห้างสรรพสินค้า เมกะ บางนา ที่คนร้ายใช้สำเนาบัตรประชาชนปลอมของนายพันธุ์สุธีมาขอเปลี่ยนซิมการ์ดใหม่ แต่ใช้เบอร์เดิม (ของนายพันธุ์สุธี) ซึ่งพนักงานของ True ยอมรับว่าผิดพลาดจริง โดยไม่ได้มีการตรวจสอบว่าสำเนาบัตรประชาชนของนายพันธุ์สุธี ตรงกับหน้าของคนร้ายหรือไม่
ด้าน นายจักรกฤษณ์ อุไรวรรณ รอง ผอ.สายงานรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนพนักงาน แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดของพนักงาน ซึ่งตามกฎระเบียบของบริษัทในการขอรับซิมการ์ดใหม่ ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงเท่านั้น และให้มายื่นที่หน้าเคาน์เตอร์เพื่อยืนยันตัวตนของลูกค้า แต่เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นพนักงานอาจจะใช้ดุลยพินิจในการเปิดซิมการ์ดใหม่ให้ลูกค้า และเข้าใจว่าที่พนักงานทำลงไป เพราะต้องการให้บริการลูกค้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ บริษัทจะเพิ่มมาตรการป้องกันความปลอดภัยในการขอรับซิมการ์ดใหม่ให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีความลำบากเพิ่มขึ้น แต่เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเอง เนื่องจากขณะนี้ทางกลุ่มมิจฉาชีพกำลังใช้ช่องว่างที่เกิดขึ้นในการขโมยเงินของลูกค้า และเพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริษัทจะมอบสมาร์ตโฟนรุ่นไอโฟน 6 พลัส และให้ใช้บริการโทร.ฟรีได้ตลอดระยะเวลา 1 ปี ให้กับผู้เสียหาย โดยขอยืนยันว่าจากนี้บริษัทจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารทุกครั้งอย่างเข้มงวด และจะมีการอบรมพนักงานให้มากกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้นายพันธุ์สุธี มีลือกิจ ผู้เสียหายและครอบครัวเข้าร้องทุกข์และร้องเรียน รวมถึงประท้วงจนหลายหน่วยงานออกมาช่วยเหลือ โดย ธ.กสิกรไทย มอบเงินที่ถูกโจรกรรมไปคืนให้ทั้งหมด
นายพันธุ์สุธี มีลือกิจ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 525/62 หมู่ 8 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของร้านประดับยนต์ และครอบครัว ได้นั่งประท้วงบนถนนพระราม 1 หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อเรียกร้องให้ ธ.กสิกรไทย ชดใช้เงินที่สูญเสียไปจากกรณีถูกมิจฉาชีพใช้วิธีการติดต่อขอเปลี่ยนซิมโทรศัพท์มือถือที่ร้านทรูช้อป จากนั้นก็เปลี่ยนรหัสแอปพลิเคชัน K-Mobile Banking ก่อนโอนเงินทั้งหมดในบัญชี ธ.กสิกรไทย สาขาพระนครศรีอยุธยา จำนวน 986,700 บาท เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2559 ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2559 ที่ ธ.กสิกรไทย สาขาบิ๊กซี จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ธนาคารจากสำนักงานใหญ่เดินทางมาเจรจายินยอมรับผิดชอบชดใช้เงินจำนวน 986,700 บาท ให้กับ นายพันธุ์สุธี มีลือกิจ โดยมอบเป็นเช็คเงินสด ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ อายุ 49 ปี ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ร่วมเป็นสักขีพยาน
topicza.com