ยืนยันตรวจสอบอย่างรวดเร็ว! พท.สั่งส.ส.โหวตสวนแจงใน10ก.ย.

เพื่อไทยให้ ส.ส. โหวตสวนมติพรรค แจง 10 ก.ย. นี้ ก่อนพิจารณาบทลงโทษ ยืนยันตรวจสอบอย่างรวดเร็ว

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสาคาม พรรคเพื่อไทย คณะกรรมการกลั่นกรองการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการจริยธรรมพรรคเพื่อไทย และคณะกรรมการกลั่นกรองการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อหาแนวทางพิจารณาโทษ ต่อ ส.ส. ที่ฝ่าฝืนมติพรรคในลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 5 คน โดยนายประเสริฐ กล่าวว่าในการลงมติเมื่อวันที่ 4 กันยายน มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ร่วมประชุม 3 คน และโหวตสวนมติพรรค 4 คน ซึ่งคณะกรรมการทั้ง 2 ชุด ลงความเห็นให้ทุกคนชี้แจงต่อพรรคภายในวันศุกร์ที่ 10 กันยายน หลังฟังคำชี้แจงจะหาข้อสรุปในสัปดาห์หน้า เพื่อเสนอกรรมการบริหารพรรคโดยเร็ว โดยระหว่างกระบวนการไต่สวนให้งดเข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคจนกว่าการไต่สวนจะแล้วเสร็จ สำหรับ ส.ส.บางคนที่ส่งเอกสารมาแล้วก็จะต้องมาชี้แจงเองอีกครั้งทั้งนี้มีเพียงนายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ส.ส.นครนายกที่แจ้งล่วงหน้าว่าป่วยด้วยโรคโควิด-19

ด้านนายสุทิน กล่าวว่าที่ประชุมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทั้งผู้ถูกกล่าวหา พรรคและสมาชิกทั่วประเทศ เบื้องต้นมีบางคนส่งคำชี้แจงเป็นเอกสารมาแล้ว แต่คณะกรรมการฯเห็นว่าต้องสอบถามโดยวาจาอีกครั้ง โดยมีโทษตั้งแต่ตักเตือน ตัดสิทธิ์การลงสมัคร และขับออก โดยคาดว่าจบภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ในการตรวจสอบจะดูพฤติกรรมย้อนหลังของ ส.ส.แต่ละคนด้วย

นายสุทิน กล่าวถึงกรณีรัฐบาลจะดำเนินคดีทางกฎหมายกับ ส.ส.ฝ่ายค้าน เช่น นายแพทย์ ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรงในการกล่าวหาว่ามีการตัดแต่งตัวเลขของผู้ป่วยโควิด-19 และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ กรณีกุข่าวนายกแจกเงิน 5 ล้าน ว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ต่างฝ่ายต่างตรวจสอบกัน หากพรรคเพื่อไทยพบข้อใดเข้าข่ายกฎหมายจะเดินหน้าฟ้องรัฐบาลต่อ ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะฟ้องกลับโดยเฉพาะกรณีนายแพทย์ ชลน่าน นั้น พรรคเพื่อไทยพร้อมรับมือเช่นกัน

ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นั้น นานสุทิน ว่า มีกระแสข่าวทั้ง2ทางว่า จะผ่านวาระ 3 หรือ จะมีการโหวตคว่ำ แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีอะไรที่แน่นอน กำลังดูอยู่ว่าฝ่ายรัฐบาลจะใช้วิธีคิดหลักอะไร แต่จะไม่ฟังเสียงใดเสียงหนึ่ง ต้องรอดูต่อไป แต่ส่วนตัวคิดว่าด้วยหลักเหตุและผล และหลักความต้องการของประชาชนจริงๆควรผ่านวาระ3 แต่ถ้าไม่อยู่บน 2 หลักนี้ก็เสี่ยงที่จะไม่ผ่านวาระ 3

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews