เซ่นล้มมวย! ‘กกท.’ ออกหนังสือระงับสถานภาพนักมวย ‘ฟ้าวันใหม่’ 6 เดือน

หลังจากที่ “ต่อ” ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ นักชกวัย 19 ปี พลิกแพ้น็อกให้กับ หลานย่าโม ว.วัฒนะ ในยกที่ 4 ศึกมวยไทย “มวยมันส์วันศุกร์” ที่เวทีมวยโรงยิมเอนกประสงค์ สนามกีฬากลาง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ต่อมา “เสี่ยโบ๊ท” นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ศึกเพชรยินดีในฐานะโปรโมเตอร์จัดศึกดังกล่าวจับได้ว่า ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ ตกลงที่จะ “ล้มมวย” โดยฟ้าวันใหม่ รับสารภาพว่า ตกลงล้มมวยตามข้อเสนอของนายอุดม จารย์ลี เจ้าของฟาร์มควาย จ.นครนายก อดีตหัวหน้าคณะนักมวยเกียรติพานทอง ในวงเงินที่ตกลงกัน 500,000 บาท รับเงินมาแล้ว 30,000 บาท ต่อมาเมื่อฟ้าวันใหม่ ยอมรับกับ “เสี่ยโบ๊ท” จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก จ.อุทัยธานี ต่อด้วยการเข้าให้ปากคำเปิดเผยขั้นตอนการว่าจ้างล้มมวยต่อ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่้ผ่านมา พร้อมกับระบุชัดว่า นายอุดม จารย์ลี เจ้าของฟาร์มควาย จ.นครนายก อดีตหัวหน้าคณะนักมวยเกียรติพานทอง เป็นผู้ว่าจ้างให้ล้มมวย ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา นายพลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นายพลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. เปิดเผยว่า ในการไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ นั้น ไปในฐานะนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 โดยได้แจ้งความเอาผิด ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ นักชกในสังกัดค่ายมวย สจ.เปี๊ยกอุทัย ได้กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ด้วยการ “ล้มมวย” พร้อมทั้งได้มอบหลักฐานส่วนหนึ่งที่มีอยู่ให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานสอบสวนที่จะขยายผลในคดีดังกล่าวเพื่อรวบรวมหลักฐานในการส่งฟ้องต่อศาลอาญา

นายพลัฏฐ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ 14 ตุลาคม สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. ได้ทำหนังสือระงับสถานภาพรับรองการเป็นนักมวยของ ฟ้าวันใหม่ ช.ไทยเศรษฐ์ เป็นเวลาเบื้องต้น 6 เดือน โดยหนังสือดังกล่าวจะถูกส่งไปที่ค่ายมวยต้นสังกัดของ ฟ้าวันใหม่ นั่นคือค่ายมวย สจ.เปี๊ยกอุทัย จากนั้นจะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการกีฬามวย (บอร์ดมวย) ที่มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานรับทราบต่อไป

ขอบคุณที่มา     ข่าวมติชน