พ่อแม่เด็กวัย 15 ปี โดนสองแถวชนดับ ร้องยธ.คดีไม่คืบ ติดใจ-พบข้อพิรุธผลชันสูตร
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับเรื่องร้องทุกข์จากนายเทพ (สงวนนามสกุล) และภรรยา ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของด.ช.ทรัพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ15 ปี ผู้ตาย พร้อมด้วยกลุ่มทนายจิตอาสา เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อ รมว.ยุติธรรม เพื่อให้ตรวจสอบและเข้ามาควบคุมคดีเหตุเกิดที่สถานีตำรวจเมืองนครพนม เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 นั้น ผู้ตายคือลูกชายวัย 15 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ มาตรงบริเวณแยกในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ก่อนถูกรถยนต์สองแถวรับจ้างเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ล้ม และล้อรถสองแถวทับที่ศีรษะของเด็กวัย 15 จนเสียชีวิต ส่วนคนร้ายหลบหนีไป
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินคดีกับคนขับรถสองแถวแต่อย่างใด และครอบครัวยังติดใจและพบข้อพิรุธการผ่าชันสูตรพลิกศพของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผลตรวจทั้ง 3 ครั้ง ไม่ตรงกัน โดยตำรวจได้แจ้งผลตรวจล่าสุดจากแพทย์พบไม่ได้เกิดจากวัตถุที่มีน้ำหนักมากกดทับที่ศรีษะอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายแต่อย่างใด
แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินคดีกับคนขับรถสองแถวแต่อย่างใด และครอบครัวยังติดใจและพบข้อพิรุธการผ่าชันสูตรพลิกศพของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผลตรวจทั้ง 3 ครั้ง
ไม่ตรงกัน โดยตำรวจได้แจ้งผลตรวแต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินคดีกับคนขับรถสองแถวแต่อย่างใด และครอบครัวยังติดใจและพบข้อพิรุธการผ่าชันสูตรพลิกศพของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผลตรวจทั้ง 3 ครั้ง ไม่ตรงกัน โดยตำรวจได้แจ้งผลตรวจล่าสุดจากแพทย์พบไม่ได้เกิดจากวัตถุที่มีน้ำหนักมากกดทับที่ศรีษะอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายแต่อย่างใดจล่าสุดจากแพทย์พบไม่ได้เกิดจากวัตถุที่มีน้ำหนักมากกดทับที่ศรีษะอันเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายแต่อย่างใด
เพราะเรามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือเรื่องนี้อยู่ เพื่อทำการตรวจสอบคราบเลือดที่อาจติดอยู่กับรถยนต์ที่ก่อเหตุ ส่วนกรณีเรื่องเยียวยาในคดีอาญาที่ญาติควรจะได้รับหรือหากกลัวว่าจะมีการข่มขู่นั้นก็จะให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเข้าไปดูแลในส่วนนี้ทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต ได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนหนึ่งกรณีนำที่ดินของตนเองไปค้ำประกันเงินกู้กระทั่งถูกยึดทรัพย์สิน หรือบางรายถูกหมายบังคับคดีขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ จนไปถึงผู้เสียหายบางรายถูกดำเนินคดีฐานบุกรุก ซึ่งขณะนี้มีประชาชนที่ตกเป็นผู้เสียหายจาก จ.ขอนแก่น รวมกว่า 70 ราย โดยหลังจากนี้เลขาฯรมว.ยุติธรรม ยืนยันจะตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาข้อสรุปและให้ยุติธรรมจังหวัดเข้าช่วยเหลือผู้เสียหายต่อไป เพราะอาจจะมีประเด็นการฉ้อโกงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ขอบคุณที่ม ข่าวมติชน
โพสต์โดย : ปลายน้ำ
