วางกรอบพิจารณา! กมธ.งบปี66เลือก “อาคม” นั่งปธ.มีคกก.อีก24คน คาดชงสภ 17-18สค.

“อาคม” นั่งประธาน กมธ.งบ 66 วางกรอบพิจารณาทุกวันจันทร์-ศุกร์ ถึง 3 ส.ค.65 เริ่ม พิจารณาภาพรวมด้านเศรษฐกิจเป็นหน่วยงานแรก ก่อนส่งกลับสภาพิจารณาวาระ2-3 วันที่ 17-18 ส.ค.

 

การประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 นัดแรก เพื่อพิจารณาเลือกตำแหน่งต่างๆ ในกรรมาธิการ มีมติให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมาธิการ มีรองประธานกรรมาธิการอีก 24 คน

 

อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายวราเทพ รัตนากร นายอนุชา นาคาศัย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายสุทิน คลังแสง นายเอกราช ช่างเหลา นายบุญสิงห์ วรินคร์รักษ์ และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง โดยมีเลขานุการ 9 คน และโฆษกกรรมาธิการอีก 10 คน

 

จากนั้น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร โฆษกกรรมาธิการ กล่าวว่า กรรมาธิการจะนัดประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ โดยเริ่มประชุมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 3 ส.ค. 65 จากนั้น วันที่ 5 ส.ค. กรรมาธิการฯ จะตรวจรายงานก่อนเสนอกลับเข้าที่ประชุมสภาเพื่อพิจารณาในวาระที่ 2-3

 

โดยได้กำหนดการพิจารณาวาระ 2-3 ไว้วันที่ 17-18 ส.ค. 65 โดยวันพรุ่งนี้จะเริ่มพิจารณางบประมาณเกี่ยวกับภาพรวมด้านเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงการคลัง สภาพัฒน์ กลุ่มภารกิจด้านเศรษฐกิจ จากนั้นเป็นกลุ่มภารกิจด้านสังคม เช่น กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และด้านความมั่นคง เช่น กระทรวงกลาโหม และปิดท้ายที่หน่วยงานอิสระ เช่น รัฐสภา ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานในพระองค์

 

ส่วนตำแหน่งอนุกรรมาธิการฯ วันนี้ ยังไม่ได้มีการหารือว่าจะมีการตั้งกี่คณะ คาดว่า จะมีการหารือเรื่องการตั้งคณะอนุกรรมาธิการหลังจากนี้อีกประมาณ 2 สัปดาห์ และกระบวนการชี้แจงของหน่วยงานต่างๆ นั้น จะต้องเข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ โดยจะไม่มีการชี้แจงออนไลน์ผ่านระบบzoom เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลงแล้ว

 

สำหรับงบประมาณของกระทรวงกลาโหมว่า จากการฟังการอภิปรายงบประมาณของกระทรวงกลาโหมถูกท้วงติงมาก โดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธของทุกเหล่าทัพ จึงเชื่อว่าในชั้นกรรมาธิการฯ ต้องมีการตรวจสอบเป็นอย่างเข้มข้นอย่างแน่นอน

 

โดยเฉพาะเครื่องบินรบรุ่นใหม่ F35 A อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ส.ส.และกรรมาธิการฯ เพิ่งได้รับเอกสาร ยังไม่มีรายละเอียด แต่ยืนยัน ส่วนใดที่เป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ก็ต้องทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนไม่ปล่อยผ่านอย่างแน่นอน

ซึ่งก็เห็นแล้วว่า เรือดำน้ำไม่มีประโยชน์และไม่เหมาะกับภาวะขณะนี้ แต่ปี 2566 ไม่ได้ตั้งงบสำหรับซื้อเรือดำน้ำแต่เป็นงบผูกพันมาซึ่งเป็นการซื้อเรือดำน้ำโดยไม่มีเครื่องยนต์

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews