Social :



ม.2 ชูป้ายไล่ผอ. ดูถูกนักเรียนจน ส่องเฟซบุ๊กใครมีแฟนด่า ห้ามกินมาม่า ปิดสหกรณ์

27 ก.ย. 65 16:09
ม.2 ชูป้ายไล่ผอ. ดูถูกนักเรียนจน ส่องเฟซบุ๊กใครมีแฟนด่า ห้ามกินมาม่า ปิดสหกรณ์

ม.2 ชูป้ายไล่ผอ. ดูถูกนักเรียนจน ส่องเฟซบุ๊กใครมีแฟนด่า ห้ามกินมาม่า ปิดสหกรณ์

27 ก.ย. 2565 – ที่บริเวณริมถนนทางเข้าโรงเรียน วัดจันทร์ตะวันตกมิตรภาพที่ 73 ต.วัดจันทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก กลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้ปกครอง และแม่ครัวโรงเรียน รวมตัวกันถือป้ายไวท์บอร์ดยืนประท้วง ส่งเสียงขับไล่ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นระยะ

ตัวแทนนักเรียน กล่าวว่า ผอ.ว่าตอนมาแรก ๆ ก็ดี แต่หลัง ๆ ไม่ดีเลย บางเรื่องก็ทำเกินไป ทั้งดูถูกนักเรียน ไล่แม่ครัวออก ด่าครูผู้สูงอายุกว่า ครูเอาของเครื่องใช้มาให้นักเรียนก็ว่า เด็กนักเรียนต้มมาม่ากินก็ว่า บอกว่ากลัวไฟจะชอร์ต ทั้ง ๆ ที่ครูท่านอื่นเป็นคนต้มน้ำให้ก็ไม่ได้ ที่ต้องต้มเพราะชั้นมัธยมไม่มีอะไรกินเลย อาหารกลางวันโรงเรียนให้ทานได้เฉพาะอนุบาล-ประถมฯ ปกติเด็กมัธยมจะมีสหกรณ์ได้ซื้อของกินได้ แต่ตอนนี้สหกรณ์ปิดมา 2 เดือนแล้ว นักเรียนต้องหาอะไรมากินเอง สั่งอาหารเดลิเวอรี่มาส่งก็ไม่ได้ ตนและกลุ่มนักเรียนจึงอยากจะให้ ผอ.คนนี้ออกไป เพราะทนไม่ไหวแล้ว

นอกจากนี้ ผอ. ยังดูถูกนักเรียน บางคนใส่เสื้อผ้าเลอะเพราะซักไม่ออก ก็ถูกต่อว่าบ้านจนไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้าใหม่ ที่พวกตนออกมาวันนี้ ส่วนใหญ่ผู้ปกครองรู้เรื่องและสนับสนุน แต่ตัวผู้ปกครองส่วนใหญ่มาไม่ได้ เพราะต้องทำงาน ก่อนหน้านี้เคยคุยกับ ผอ. แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น


ด้าน น.ส.ศุภมาศ ช่างมี ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ โดยชี้แจงว่า เรื่องสั่งปิดสหกรณ์โรงเรียน ตนได้สั่งให้หยุดกิจการจริง เพราะมาดูบัญชีแล้วขาดทุน จึงให้ครูเดิมที่ขายหยุดไป และตั้งครูคนใหม่มาลองขาย ปรากฏว่าได้กำไร แต่ตนมองว่าครูไม่ได้มีหน้าที่มานั่งขายของในสหกรณ์
Lif
หรือต้องมานั่งเสียบลูกชิ้นขาย ควรเอาเวลาไปสอน จึงได้เปิดประมูลให้บุคคลภายนอกเข้ามาขาย แต่เปิดไป 3 รอบ ยังไม่มีใครเข้ามา จึงปิดไปก่อน ตั้งใจว่าเทอมหน้าจะเปิดอีกครั้งโดยทางโรงเรียนจะลงทุนเอง แล้วหาจ้างคนมานั่งขาย

กรณี “จะยุบโรงอาหาร” ไม่เป็นความจริง แต่มีการประกาศเหมาจ้างใหม่ ทำให้แม่ครัวคนเดิมต้องหยุดทำอาหารไป จึงอาจจะเกิดความเข้าใจผิดกัน

กรณี “ไม่มีอาหารกลางวันให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษากิน” เป็นเรื่องจริงเพราะโรงเรียนได้รับงบประมาณอาหารกลางวันเฉลี่ยหัวละ 21 บาท/คน และได้รับมาเฉพาะเด็กเล็กถึงชั้นประถมเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีงบในการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กมัธยม เด็กชั้นมัธยมต้องห่อข้าวมากินเอง ส่วนเรื่องไม่ให้ต้มมาม่ากินเป็นเรื่องจริง เพราะไม่อยากให้เด็กทานแต่มาม่า เนื่องจากไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนเรื่อง “ไม่ให้สั่งอาหารเดลิเวอร์รี่” ย้ำไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยห้ามนักเรียนในเรื่องนี้

กรณี “ส่องเฟซบุ๊กนักเรียน” เพราะนักเรียนบางคน อาจจะต้องการการดูแลและช่วยเหลือให้คำปรึกษาใกล้ชิด จึงต้องดูพฤติกรรมนักเรียนจะได้ช่วยแก้ปัญหาได้ถูกทางเท่านั้น

ขอบคุณที่มา         ข่าวสด

โพสต์โดย : ปลายน้ำ