พร้อมเดินหน้าผลักดัน “ประวิตร” สั่งการครม.จัดตั้งศูนย์ต่อต้านค้ามนุษย์

“ประวิตร” สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จัดตั้งศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ร่วมออสเตรเลีย เร่งพัฒนาศูนย์ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด หวังแบ่งเบาภาระโรงพยาบาล พร้อมเดินหน้าผลักดัน การติดตั้งไฟฟ้าโซล่าเซลล์ ลดภาระค่าครองชีพสร้างงานให้กับประชาชน

 

 

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อสั่งการของพลเอกประวิตร? วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าได้มีการหารือกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยในการรับมือกับโรคระบาด กรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และการประชุมเอเปค

 

และประเด็นสำคัญคือการพูดคุยกันเรื่องประเด็นการค้ามนุษย์ ซึ่งไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา โดยประเทศไทยจะมีการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ ซึ่งมีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยพล.อ.ประวิตร ได้ให้กระทรวงการต่างประเทศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งผลักดันให้มีการลงนามและขับเคลื่อนบันทึกความร่วมมือในการต่อต้านการค้ามนุษย์ร่วมกันกับทางด้านออสเตรเลียอย่างใกล้ชิดโดยเร็ว

 

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเรื่องการบำบัดรักษาและการฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ซึ่งผู้ป่วยยาเสพติดที่มีอาการทางจิตและมีความเสี่ยงสูงต่อการก่อเหตุรุนแรง ที่มีจำนวนมากขึ้น ได้มีการจัดตั้งศูนย์คัดกรองผู้ติดยาเสพติดและสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแล้ว

 

ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่มีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา และขณะนี้ได้มีการดำเนินการฝึกผู้อบรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามได้ให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งเสริมสร้างให้สถานพยาบาลยาเสพติดที่จะตั้งไว้จำนวน 1,032 แห่งทั่วประเทศ และสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดอีกจำนวน 142 แห่ง รองรับการบำบัดรักษาผู้ป่วยยาเสพติดให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างขีดความสามารถให้ทุกสถานฟื้นฟูภาครัฐ เพื่อที่จะเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับสถานพยาบาลยาเสพติดที่มีจำนวนอยู่น้อย

 

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ยังมีแนวทางให้ทุกครัวเรือนสามารถที่จะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อที่จะใช้งานเองได้ภายในครัวเรือน และหากพลังงานเหลือใช้ในเวลากลางวันก็สามารถที่จะส่งไฟฟ้ากลับเข้าสู่ในระบบ เพื่อที่จะนำหน่วยไฟฟ้าไปหักลบกับหน่วยไฟฟ้าที่ครัวเรือนใช้ หรือต้องซื้อจากการไฟฟ้าในเวลากลางคืน

 

โดยมอบหมายให้การไฟฟ้านั้นหักลบกลบหน่วยไป ซึ่งเป็นนโยบายสนับสนุนให้ทุกครัวเรือนที่มีการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวง หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าขึ้นมาใช้เอง ในครัวเรือนเพื่อแบ่งเบาภาระค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่าย อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนในงานที่จะเกิดขึ้น เช่นการติดตั้งและการให้บริการ และลดสภาวะการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศที่มีราคาผันผวน ไม่สามารถควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนได้ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

ขอบขอบคุณข้อมูลจาก:innnews