Social :



จับแล้ว-สุสานฆ่านั่งยาง แก๊ง"รตต." ลูกน้องคนสนิทร่วมอุ้มเศรษฐินี ตร.เร่งสอบ-โยง23จุด

17 พ.ค. 59 12:45
จับแล้ว-สุสานฆ่านั่งยาง แก๊ง"รตต." ลูกน้องคนสนิทร่วมอุ้มเศรษฐินี ตร.เร่งสอบ-โยง23จุด

จับแล้ว-สุสานฆ่านั่งยาง แก๊ง"รตต." ลูกน้องคนสนิทร่วมอุ้มเศรษฐินี ตร.เร่งสอบ-โยง23จุด

จับแล้ว-สุสานฆ่านั่งยาง แก๊ง"รตต." ลูกน้องคนสนิทร่วมอุ้มเศรษฐินี ตร.เร่งสอบ-โยง23จุด



ตร.คลี่คดีสุสานนั่งยางที่อุดรธานี พบเป็นฝีมือแก๊งอดีตร.ต.ต. ที่รู้จักกันดีในพื้นที่ ชื่อดาบโมทย์ พร้อมลูกน้อง โดยตร.บุกจับลูกสมุนมือขวา ให้การซัดทอดละเอียดยิบ เผยก่อนเกิดเหตุด.ต.ต้องการยืมเงินมาสู้คดีฆ่าคนตาย แต่ผู้ตายไม่ให้กู้เพราะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำ จึงนัดหมายก่อเหตุอุ้มฆ่าเพื่อเอาทรัพย์สินติดตัว วันเกิดเหตุพอมีจังหวะปลอดคนก็บุกเผชิญหน้าแล้วหักคอด้วยมือเปล่า ก่อนขนศพไปเผานั่งยาง แต่บังเอิญฝนตกจนทิ้งหลักฐาน ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปมีเงินสด 1 แสน ทองรูปพรรณ 10 บาท แต่แบ่งให้ลูกน้อง 1.4 หมื่นบาท ตร.เชื่อศพในสุสานนั่งยางน่าจะเป็นฝีมือดาบโมทย์ทั้งหมด แต่ต้องรอผลพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ขณะที่จนท.เข้า อายัดตัวดาบโมทย์ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ อุดรฯแล้ว


จาก กรณีเจ้าหน้าที่พบสุสานฆ่าเผานั่งยาง 23 จุด ในเขตป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ บ้านคำบอน เวียงชัย อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่มีการร้องเรียนกันว่ามีเหยื่อถูกแก๊งมีสีอุ้มไปเผานั่งยาง ทำให้เกิดหลักฐานเป็นยางรถยนต์ ชิ้นส่วนของมนุษย์ และของใช้ทรัพย์สินติดตัวของผู้ตายตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก เป็นผลให้พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. สั่งเร่งคลี่คลาย รวมทั้งรื้อคดีของนางบังอร ทองอ่อน เศรษฐีเงินกู้ ที่พบชิ้นส่วนของร่างกายอยู่ในบริเวณดังกล่าว


ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 พ.ค. ที่ห้องประชุม บก.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเลิศ ใจประดิษฐ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต. ขจรศักดิ์ ปานสาคร พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รองผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.พรชัย บุญรอด ผกก.สภ. บ้านผือ ร่วมแถลงจับกุมผู้ต้องหาแก๊งอุ้มฆ่านางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี เศรษฐีเงินกู้ ในอ.บ้านผือ


โดยผู้ต้องหา คือนายบุญหนา หรือ หนา ทองงาม อายุ 57 ปี (หนา บ้านผือ หรือ หนา คูดง) อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.2 บ้านคูดง ต.โนนทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.193/2559 ลงวันที่ 16 พ.ค. ในความผิดฐาน "ร่วมกันฆ่า ผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธตั้งแต่สองคนขึ้นไป เป็นเหตุให้ ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันซ่อนเร้น ทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย"


ส่วนผู้ต้องหาอีกคน คือ ร.ต.ต.ปราโมทย์ บุพศรี อายุ 64 ปี หรือนายปราโมทย์ บุพศรี อดีตข้าราชการตำรวจชุดสายสืบ สภ.บ้านผือ ถูกออกหมายจับ และอายัดตัวไว้ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ. 192/2559 ลงวันที่ 16 พ.ค.ในความผิดเดียวกัน และขณะนี้ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี ในคดีฆ่าน.ส.วารุณี ชัยรินทร์ หัวหน้าส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี


พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 มิ.ย.2557 ญาติแจ้งว่านางบังอร หายตัวไปจากบ้านพักเลขที่ 172 ม.8 บ้านดงบัง ต.โนนทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี พร้อมด้วยทรัพย์สิน มีเงินสดประมาณ 1 แสนบาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น แหวนทองคำ 2 วง โดยสงสัยว่าหายไปกับกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ต่อมาวันที่ 7 มิ.ย. 57 มีคนพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง ของนางบังอร ถูกทิ้งไว้ที่บริเวณหนองน้ำชายป่าท้ายหมู่บ้านหนอง หัวคู อ.บ้านผือ แต่ยังไม่มีใครพบตัวนางบังอร ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.57 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านผือ รับแจ้งมีเหตุพบศพคนถูกฆ่าเผานั่งยาง บริเวณชายป่าบ้านหนองแวง ห่างจากถนนประมาณ 400 เมตรติดเชิงเขา โดยจุดที่พบศพของนางบังอร ซึ่งถูกเผาเหลือเพียงสะโพกท่อนขาตอนบนและกระเพาะที่ยังไหม้ไม่หมดแต่มีหลัก ฐานยืนยันว่าเป็นนางบังอร โดยมีเศษโทรศัพท์มือถือและเศษพระเครื่องถูกไฟไหม้ตกในที่เกิดเหตุด้วย ส่วนทรัพย์สินที่มีทั้งเงินสด 1 แสนบาท ทองรูปพรรณรวมน้ำหนักประมาณ 10 บาท ได้หายไป


พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 เปิดเผยว่า ระยะแรกหลังเกิดเหตุชุดสืบสวนพยายามแกะรอยหาหลักฐานการฆาตกรรมนางบังอร แต่ยังหาหลักฐานมาเชื่อมโยงกับแก๊งคนร้ายหรือกลุ่มผู้ต้องสงสัยไม่ได้ ทำให้คดีเงียบหายไปพักใหญ่ จนกระทั่งมีการรื้อฟื้นคดีขึ้นมาอีกรอบจนทีมสืบสวนได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญคือ ผู้ตายเคยถูกดาบโมทย์ หรือ ร.ต.ต.ปราโมทย์ บุพศรี ปัจจุบัน อายุ 64 ปี อดีตตำรวจสายสืบ สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ไปขอกู้ยืมเงิน แต่ผู้ตายไม่ยอมให้ เพราะไม่มีสิ่งของมาค้ำประกัน ทำให้ดาบโมทย์โมโห เพราะต้องการใช้เงินมากในการต่อสู้คดี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าน.ส.วารุณี ชัยรินทร์ อายุ 40 ปี หัวหน้าส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี โดยรับงานมาจากอดีตปลัด อบต.จำปาโมง
MulticollaC
เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2554 โดย ดาบโมทย์ หรือ ป๋าโมทย์ ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.วารุณี ชัยรินทร์ ที่หน้าบ้านเลขที่ 99 ม.9 บ้านทรายทอง ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดร ธานี โดยใช้อาวุธปืนลูกโม่ จ่อยิงที่ลำตัว 1 นัดแล้วตามไปยิงซ้ำอีก 2 นัดจนเสียชีวิตคาที่ แล้วหลบหนีไป กระทั่งถูกจับกุม พร้อมผู้จ้างวาน


พล.ต.ต. ยรรยงกล่าวต่ออีกว่า แนวทางการสืบสวนที่ชุดสืบสวนภาค 4 รับไม้ต่อมาจากทีมสืบสวนตำรวจในพื้นที่ยังทราบมาอีกว่า ดาบโมทย์ ผู้ต้องสงสัยรายสำคัญนั้นได้ไปติดพันหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านคูดง ม.2 ต.โนนทอง โดยมีความสนิทสนมกับนายบุญหนา หรือหนา บ้านผือ ทองงาม วัย 57 ปี ที่เป็นคนในหมู่บ้าน และไปติดพันหญิงสาวคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนกับผู้หญิงของดาบโมทย์ ทำให้ทั้งคู่ยิ่งมีความสัมพันธ์กันแน่นขึ้น ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การหาหลักฐานชิ้นสำคัญในการอุ้มฆ่านางบังอร จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภ.4 นำกำลังลงพื้นที่ปูพรมหาหลักฐานและสอบสวนพยานในหมู่บ้าน


พล.ต.ต. ยรรยงกล่าวต่อไปอีกว่า ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัยรายสำคัญ คือ ดาบโมทย์ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำกลางอุดรธานี ไม่ให้รายละเอียดใดๆ เพราะลำพังคดีที่ติดตัวอยู่ก็หนักหนาอยู่แล้ว จึงพุ่งเป้าไปที่นายบุญหนา หรือหนา บ้านผือ คนสนิท หรือมือขวาของ ดาบโมทย์ ทันที การสอบสวนได้ไล่เรียงความสัมพันธ์ไปจนถึงการติดต่อขอกู้ยืมเงินจากนางบังอร ที่นายบุญหนา ก็มีความสนิทสนมด้วยเพราะเป็นคนในหมู่บ้าน ตำบลเดียวกัน อีกทั้งหลังเกิดเหตุนายบุญหนาก็มีเงินใช้จ่ายผิดปกติ เมื่อเค้นสอบจนยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ที่ทำลงไปเพราะไม่อยากขัดใจดาบโมทย์ ที่เป็นลูกพี่ หากไม่ทำก็อาจจะกลายเป็นศพไปเฝ้าป่าช้าที่ดาบโมทย์ เป็นเจ้าของหรือเรียกกันว่า "ป่าช้าส่วนตัว" ที่ดาบโมทย์จะใช้ป่าช้าแห่งนี้จัดการกับศพที่ตัวเองฆ่าไปเผานั่งยาง โดยที่ไม่มีใครกล้ายุ่งแม้แต่ชาวบ้านในละแวกก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะพูดถึง โดยได้ค่าส่วนแบ่งในการฆ่าเผานั่งยางนางบังอร จำนวน 1.4 หมื่นบาท


พ.ต.อ. ณัฐนนท์ ประชุม ผกก.สส.ภ.4 กล่าวว่า จากการสอบสวนนายบุญหนา ให้การรับสารภาพว่า วันเกิดเหตุดาบโมทย์ ให้เฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหวของนางบังอร ทุกระยะ เพื่อจะฆ่าชิงทรัพย์และนำศพไปเผานั่งยางโดยในวันที่ 4 มิ.ย.57 ดาบโมทย์ขับรถยนต์กระบะสีดำ ไปหายางรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่มา 2 เส้นพร้อมน้ำมัน 1 แกลลอนใส่มาที่ท้ายรถ แล้วขับไปรับนายบุญหนาที่บ้านพัก จากนั้นขับไปจอดที่บริเวณชายป่าใกล้กับสวนพริกของนางบังอร ในหมู่บ้านดงบัง ต.โนนทอง แล้วให้นายบุญหนา ลงจากรถไปดูต้นทางสังเกตความเคลื่อนไหวของนางบังอร เมื่อได้จังหวะไม่มีใครผ่านมาแถวนั้น นาย บุญหนาส่งสัญญาณด้วยการปรบมือ 2 ครั้ง


ดาบโมทย์ก็เดินออกมาจากพุ่มไม้ และตรงไปสอบถามนางบังอร ว่าเป็นคนปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมาย แต่นางบังอรไม่สนใจ จะเดินหนี ดาบโมทย์ได้เดินอ้อมไปหาด้านข้างแล้วจับนางบังอรหักคอทันที จนทรุดลงกองกับพื้น ก่อนจะร่วมกันจับศพนางบังอรขึ้นรถยนต์กระบะมุ่งหน้าไปยังป่าช้าบ้านคำบอน หนองแวง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร แล้วจัดการเผาศพนั่งยางนางบังอรเพื่ออำพราง แต่โชคไม่ดีมีฝนตกหนักทำให้ศพไหม้ไม่หมด จึงย้อนกลับไปเผาซ้ำอีกรอบก็ยังไม่หมดเพราะฝนตกซ้ำอีก แล้วแยกย้ายกันหลบ หนีไป พร้อมทรัพย์สินที่นายบุญหนาให้การว่า ในกระเป๋าของนางบังอร เต็มไปด้วยเงินจำนวนมากไม่ทราบว่ามีเท่าไร ทั้งสร้อยทอง กำไลทองคำ และแหวนทองคำนับสิบวง ดาบโมทย์แบ่งให้ 1.4 หมื่นบาท ที่เหลือดาบโมทย์เอาไปหมด และสาเหตุที่ใช้วิธีหักคอ เพราะไม่ต้องการใช้ปืนยิง เพื่อไม่ให้หลักฐานตกในที่เกิดเหตุ


ด้าน พ.ต.ท.กิตติพงษ์ จิตรคาม รอง ผกก.สส.ฯ กล่าวด้วยว่า จากคำให้การรับสารภาพของนายบุญหนา ที่เป็นคนสนิทของดาบโมทย์ หรือ ร.ต.ต.ปราโมทย์ บุพศรี อดีตตำรวจมือปราบ ที่มักจะพูดคุยข่มขู่เสมอว่า ฆ่าคนนั่งยางมาแล้วหลายสิบศพ และที่ป่าช้า หรือสุสานเผานั่งยางบ้านคำบอน หนองแวง ก็เป็นพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง ชาวบ้านแถวนั้นรู้จักดีแต่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวจะถูกดาบโมทย์จับฆ่าปิดปากและ ดาบโมทย์ก็พูดเสมอว่า ทุกศพในป่าช้าคือฝีมือของตัวเอง ซึ่งมูลเหตุของการรับจ้างฆ่า คือ ดาบโมทย์เป็นตำรวจนักเลง เป็นนักสืบที่พูดจาโผงผาง เป็นที่เกรงขามของคนในอำเภอ และติดพันหญิงสาวหลายคน ต้องใช้เงินมาก โดยก่อนหน้านี้มีคดีอาชญากรรม มีคนตาย มีคนหายตัวไป ก็มีดาบโมทย์ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่เสมอ แต่ก็ไม่มีหลักฐานที่จะสาวไปถึง รวมทั้งยังไม่มีใครพบสุสานเผานั่งยางที่มีการฆ่าเผาจำนวนมาก และวันที่พบศพนางบังอร ถูกฆ่าเผานั่งยางในป่า ก็เป็นป่ารก ไม่เห็นพื้นที่โล่งหลังถูกไฟป่าเผาจนเตียนโล่งเหมือนทุกวันนี้ ทำให้ไม่รู้ว่าจุดที่พบศพนางบังอร เป็นป่าช้า หรือสุสานส่วนตัวของดาบโมทย์ ที่ใช้เป็นที่ฆ่าเผานั่งยางมาแล้วหลายศพ จึงคาดว่าศพบริเวณนี้เป็นฝีมือของดาบโมทย์ทั้งหมด เพราะเป็นป่าช้าส่วนตัว


พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติกล่าวอีกว่า สำหรับอีกหลายคดีที่มีผู้ร้องเรียนว่ามีญาติหายตัวไปนั้น คงต้องรอผลตรวจสอบดีเอ็นเอในแต่ละคดีเพื่อให้เกิดความชัดเจน


ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาในคดีฆ่าเผานั่งยางป่าช้า ทั้ง 23 จุดในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุดจับ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ทีมสืบสวนและพนักงานสอบสวน คุมตัวนายบุญหนา หรือหนา ทองงาม ผู้ต้องหาไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพ เสร็จสิ้นไปก่อหน้านี้แล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันญาติๆ ของผู้ตายและชาวบ้านไปขณะทำแผนเพราะเกรงจะไม่สะดวกและความปลอดภัยของตัวผู้ ต้องหา โดยเริ่มจากจุดที่นายบุญหนา และ ด.ต.ปราโมทย์ บุพศรี พูดคุยนัดแนะกันในหมู่บ้านคูดง ต.โนนทอง อ.บ้านผือ เพื่อวางแผนอุ้มฆ่าชิงทรัพย์นางบังอร ทองอ่อน เศรษฐีเงินกู้ในหมู่บ้านดงบัง ต.โนนทอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้กัน


จุดที่สองเป็นจุดที่ไป พบนางบังอร ในสวนพริก ของนางบังอร โดยมีดาบโมทย์ ลงมือหักคอผู้ตายแล้วจุดที่สาม ช่วยกันอุ้มศพขึ้นรถกระบะของดาบโมทย์ ไปที่ป่าช้า และจุดที่สี่ ใช้ยางรถยนต์ขนาดใหญ่ 2 เส้นวางไว้เอา ศพยัดใส่ตรงกลางยางรถยนต์ ราดน้ำมัน เผาภายในป่าช้า สุดท้ายจุดที่ห้า ที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งลงในหนองน้ำบ้านหนองหัวคู


ที่มา:khaosod

โพสต์โดย : Ao

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด