Social :



กรมป้องกันฯ แจ้งเตือนลพบุรี-สระบุรี-อยุธยา พร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่งจากระดับน้ำเจ้าพระยาและป่าสักที่เพิ่มสูงขึ้น

29 ก.ย. 59 13:09
กรมป้องกันฯ แจ้งเตือนลพบุรี-สระบุรี-อยุธยา พร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่งจากระดับน้ำเจ้าพระยาและป่าสักที่เพิ่มสูงขึ้น

กรมป้องกันฯ แจ้งเตือนลพบุรี-สระบุรี-อยุธยา พร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่งจากระดับน้ำเจ้าพระยาและป่าสักที่เพิ่มสูงขึ้น

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลสถานการณ์น้ำได้รับแจ้งจากกรมชลประทานในการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จาก 20.75 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เป็น 40 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน หรือประมาณ 460 ลูกบาศก์เมตร/วินาที โดยมวลน้ำดังกล่าวจะไหลไปรวมกับปริมาณน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก และมีการควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนพระรามหกในอัตราไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้แม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 1.00-1.50 เมตร


โดย กรมป้องกันฯ ได้ประสาน 3 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงประสานหน่วยชลประทานในพื้นที่
MulticollaC
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ เปิด-ปิดประตูระบายน้ำให้สอดคล้องกับอัตราความเร็วของน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก และปริมาณฝนที่ไหลมาสมทบ

พร้อมกันนี้ได้แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก เกษตรกร ผู้ประกอบการ ร้านค้า เรือโดยสาร นักท่องเที่ยว ประชาชนที่สัญจรทางน้ำ ผู้ประกอบกิจการรับเหมาก่อสร้างโครงสร้างหรือเขื่อนป้องกันตลิ่งบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก ให้ติดตามสถานการณ์และประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรทางน้ำ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีฝนตกหนักถึงหนักมากอย่างต่อเนื่อง

ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเรือท้องแบนประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล (OTOS) ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดวางแนวกระสอบทรายและติดตั้งเครื่องสูบน้ำป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก


โพสต์โดย : อาจารย์ตาใส

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด