“ กุ้ยหลินเมืองไทย ”   แห่งนี้เมื่ออดีตมีชื่อเรียกว่า  “ เขื่อนเชี่ยวหลาน ”  และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามให้ใหม่ว่า “ เขื่อนรัชชประภา ”   มีความหมายว่า  “ แสงสว่างแห่งราชอาณาจักร ”  เขื่อนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นปิดกั้นลำน้ำคลองแสง ที่บ้านเชี่ยวหลาน ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี โดยพื้นทีส่วนใหญ่ติดอุทยานแห่งชาติเขาสกเกือบทั้งหมด เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว มีความสูง  94  เมตร    มีความยาวสันเขื่อน  761  เมตร    มีความจุ  5,638.8  ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำ  185  ตารางกิโลเมตร

“ เขื่อนรัชชประภา ”   ถือเป็นเขื่อนสารพัดประโยชน์ของคนในพื้นที่ภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า เป็นแหล่งกักเก็บน้ำการชลประทานเพื่อการเพาะปลูก ช่วยลดความรุนแรงของสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ตอนล่าง และก็ช่วยแก้ไขน้ำเสียและผลักดันน้ำเค็ม อีกทั้งอ่างเก็บน้ำของเขื่อนฯ ก็ยังเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ ซึ่งสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านไม่น้อยเลย  และอีกหนึ่งประโยชน์ของเขื่อนแห่งนี้ก็คือ  เกิดการท่องเที่ยวขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการออกเรือพานั่งท่องเที่ยวไปเที่ยวชมความงดงามของเขื่อนรัชชประภา ซึ่งการท่องเที่ยวบริเวณเขื่อนฯ อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวแบบเช้า-เย็นกลับ หรือเที่ยวแบบพักค้างแรมก็ได้ ซึ่งในอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภาจะมีแพที่พักไว้ให้บริการ

สำหรับจุดเด่นของการมาเที่ยวที่   “ เขื่อนรัชชประภา ”   ก็คือการนั่งเรือชมวิวภายในเขื่อน ชมภูเขาหินปูนจำนวนมากมาย ที่ตั้งเรียงรายอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำ ซึ่งมีทัศนียภาพของธรรมชาติขุนเขาน้อยใหญ่จำนวนมากที่สวยงาม จนทำให้ที่นี่ได้รับสมญานามว่าเป็น  “ กุ้ยหลินเมืองไทย ”   ที่มีความงดงามไม่แพ้กุ้ยหลินที่ประเทศจีนเลยทีเดียว