Social :



พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ

13 ต.ค. 59 23:10
พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ หรือที่เรียกขานกันว่า “พระเก้าหน้า” เป็นพระ 1 ใน 3 พระปฏิมากรสำคัญซึ่งสถาปนาใ นอาณาจักรล้านนาฝ่ายอรัญวาส ี (พระป่า) โดยสร้างขึ้นเป็นรูปนิมิต สัญลักษณ์แห่งโชคลาภ เป็นรูปจำลองพระปฏิมากรปางส มาธิหรือปางพนมมือ มีเก้าหน้า ประทับนั่งสมาธิ มีตำนานเล่าขานในราชอาณาจัก รล้านช้างโบราณ ว่า ในยุคหนึ่งได้เกิดทุพภิกขภั ยข้าวยากหมากแพง ฝนไม่ตกเจ็ดปี เกิดทุกข์เข็ญ ความเดือดร้อน ตลอดทั้งเกิดโรคอหิวาตกโรค ทำให้ประชาชนได้รับความเดือ ดร้อนเป็นอันมาก

ในเวลาต่อมา ได้มีพระอรัญวาสี (พระผู้อยู่ในป่า) ผู้ทรงคุณในทางวิปัสสนากรรม ฐาน ได้มาบอกให้เจ้าพญาผู้ครองร าชอาณาจักรว่า “ให้พากันสร้างพระมหาเศรษฐี นวโกฏิ หรือพระเก้าเศรษฐีขึ้นมาทำก ารสักการบูชาเสีย แล้วเหตุเภทภัยทั้งหลายจะระ งับดับไป” พระอรัญวาสียังได้บอกเคล็ดแ ละวิธีการต่าง ๆ ตลอดถึงฤกษ์ยามอันเป็นมงคล สำหรับใช้ในการจัดสร้างพระม หาเศรษฐีนวโกฏิ เจ้าพญาผู้ครองราชอาณาจักรไ ด้ทำตามวิธีการนั้น ไม่นานปรากฏผล เรื่องเลวร้ายต่าง ๆ ได้ระงับดับไปตามที่พระอรัญ วาสีองค์นั้นบอกไว้ทุกประกา ร ตลอดทั้งเกิดความอุดมสมบูรณ ์ด้วยข้าวปลาอาหาร ร่มเย็นเป็นสุข ด้วยเหตุนี้ ประชาชนแห่งราชอาณาจักรล้าน ช้างโบราณ จึงนิยมจัดสร้างและบูชาสักก าระองค์ พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ นับตั้งแต่บัดนั้นในตำนานกล ่าวว่าสมัยพุทธกาล มีมหาเศรษฐีใจบุญ 9 คน เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงถวายตัวเป็นพุทธอุปัฏฐาก  คอยช่วยเหลือพระสัมมาสัมพุท ธเจ้า ต่อมามหาเศรษฐีทั้งเก้าก็ได ้บรรลุธรรมที่พระสัมมาสัมพุ ทธเจ้าทรงเทศนา จึงได้เป็นโสดาบัน ซึ่งถือว่าตำนานนี้แฝงไว้ด้ วยปรัชญาธรรม ที่ว่า “คนมีเงินควรสละทรัพย์เพื่อ การทำความดี จึงจะได้ไปจุติยังชาติภพที่ เหมาะสม” และเป็นตัวอย่างในการแบ่งปั นน้ำใจของคนในสังคมกำเนิดพร ะมหาเศรษฐีนวโกฏิในแผ่นดินส ยาม พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ ผู้เป็นสหธรรมิกของหลวงปู่ม ั่น ภูริทัตโต ในสมัยที่ท่านเป็นผู้ปกครอง

MulticollaC
คณะสงฆ์ในตำแหน่งพระสังฆปาโ มกข์ ที่นครจำปาศักดิ์ และเป็นเจ้าอาวาสวัดอำมาตยา ราม ได้รับการสืบทอดตำรามาจาก “ญาท่านสำเร็จลุน” วัดบ้านเวินไซ หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาค้น คว้าจนเข้าใจถึงอรรถาธิบาย วิธีการสร้าง พิธีการจัดการปลุกเสก ตลอดถึงฤกษ์ยามในพิธีการจัด สร้างจนเป็นที่เข้าใจ จึงมอบตำรานี้แก่พระเทพวรคุ ณ (หลวงปู่อ่ำ ภัทราวุโธ)วัดมณีชลขันธ์ จ.ลพบุรี ผู้เป็นน้องชาย

ต่อมาตำราการสร้างพระมหาเศร ษฐีนวโกฏิได้ตกทอดไปอยู่กับ  พระปราจีนมุณี วัดมะกอก จ.ปราจีนบุรี ลูกศิษย์ชั้นผู้ใหญ่ของหลวง ปู่มั่น ภูริทัตโต และเมื่อ พ.ศ.2489 พระปราจีนมุนีได้มอบตำราการ สร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ให้กับ หลวงปู่มา ญาณวโร วัดสันติวิเวก จ.ร้อยเอ็ด โดยตำราระบุกรรมวิธีในการสร ้างพระเศรษฐีนวโกฏิว่า ต้องทำจากไม้ยอป่าและไม้ราช พฤกษ์ โดยที่ไม้ยอป่านั้นจะต้องขึ ้นอยู่บนจอมปลวก หรือมีจอมปลวกขึ้นที่โคนต้น  และมีรังมดแดงอยู่บนต้นจึงจ ะถูกต้องตามตำรา ซึ่งภายหลังมีการสร้างด้วยเ นื้อโลหะด้วย

ปัจจุบันมีพระเกจิอาจารย์นิ ยมการจัดสร้างวัตถุมงคลพระเ ศรษฐีนวโกฏิมากขึ้น สืบเนื่องจากเหตุผลตามคติคว ามเชื่อว่า พระเศรษฐีนวโกฏิเป็นที่สุดแ ห่งพุทธคุณด้านมหาเศรษฐี ร่ำรวยมั่งมีทรัพย์ ถ้าผู้ใดได้กราบบูชาพระเศรษ ฐีนวโกฏิแล้ว จักเป็นผู้มีอำนาจบารมี ยังผลให้เป็นผู้ที่เจริญในโ ภคทรัพย์ เงินทอง การงานต่าง ๆ สิ่งที่พึงปรารถนาพึงสำเร็จ ก้าวหน้ามั่นคง และมั่งมีตลอดกาล โดยคำว่า “เก้าหน้า หรือ ก้าวหน้า” มีคำอธิบายในความหมายเป็นคำ พ้องเสียง ที่มีความหมายเป็นมงคลทั้งส องคำ ไม่ว่าจะเป็นเก้าหน้า มีผู้ดูแลคุ้มครองถึง ๙ ทิศ และเลข ๙ เป็นความเชื่อของคนไทยมานาน แล้วว่าเป็นเลขมงคล ส่วนก้าวหน้ามีความหมายว่าเ จริญไปข้างหน้า รุ่ง เรือง ร่ำรวย



ที่มา www.thefuntong.com

โพสต์โดย : nampuengeiei9760

ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

ดูทั้งหมด