Social :



ทะเลใส หาดสวย ดำน้ำดูประการัง ทักทายนีโม ที่แสมสาร สัตหีบ

20 พ.ค. 59 00:19
ทะเลใส หาดสวย ดำน้ำดูประการัง ทักทายนีโม ที่แสมสาร สัตหีบ

ทะเลใส หาดสวย ดำน้ำดูประการัง ทักทายนีโม ที่แสมสาร สัตหีบ

หน้าร้อนอย่างนี้เชื่อว่าหลายคนคงอยากไปทะเล นอนตากลมริมทะเลหรือจะลอยคอให้ฉ่ำปอด แต่หากวันหยุดมีน้อย การหาที่เที่ยวใกล้และหาดสวย มีกิจกรรมให้ทำ ด้วยงบไม่แพงเกินไป ทางเลือกหนึ่งคือ แสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ก็เป็นตัวเลือกที่ลงตัว 

    ก่อนที่จะเดินทาง ควรเตรียมตัวให้พร้อม สำรวจเส้นทางให้ดี เพราะหากไปเร็วที่สุดนั่นคือโอกาสที่คุณจะไม่พลาดเที่ยวเรือที่มีกำหนดจำนวนรอบ จำนวนคน อาจต้องจองคิวตั้งแต่ 6.00 น. เพื่อจะมารับตั๋วตอน 8.00 น. ไปยังเกาะแสมสาร เราเลือกเดินทางไปวันธรรมดาโดยขึ้นที่คิวรถตู้ไปสัตหีบโดยรถพัทยา ที่อู่รถด้านในซอยข้างเซเว่นอีเลฟเว่น ฝั่งบีทีเอส อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซื้อตั๋วในราคา 140 บาท ให้บอกรถตู้ไว้ว่าจะลงสัตหีบ กิโล1 ซึ่งเป็นซอยสัตหีบสุขุมวิท 73 ปากซอยเข้าวัดป่ายุบ มีมอเตอร์ไซค์ให้บริการอยู่ ถ้าเรียกจากตรงนี้ก็ไกลเหมือนกัน เรารอขึ้นรถสองแถวสีฟ้า ที่ไปช่องแสมสาร รถสองแถวจะไปจอดแถววัดแสมสาร บอกลุงคนขับให้ไปส่งที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย เพราะต้องไปจองคิวข้ามเรือซื้อตั๋วที่นี่ ค่ารถ 30 บาท 



    รอบเรือมีตั้งแต่ 9.00 10.00 11.00 12.00 เที่ยวละ150 คน รอบกลับ 14.00 15.00 16.30 น. ค่าโดยสารไปกลับ ผู้ใหญ่ 300 เด็ก 220 ต่างชาติ 600 บาท ถ้าหากต้องการดำน้ำชมประการัง ทักทายปลานีโม 50 บาท ปั่นจักรยาน 10 บาท นั่งเรือท้องกระจก 20 บาท เดินป่าฟรี ส่วนนี้จ่ายเมื่อถึงเกาะแล้ว 

   ด้านหน้าที่ทำการ มีอ่างน้ำโชว์หญ้าทะเลและประการัง ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการเพาะขยายพันธุ์ แล้วยังมีเมนูอุดมคุณค่าจากสาหร่ายช่อพริกไทยที่สามารถทำยำ สลัด ส้มตำ หรือจะจิ้มน้ำพริกก็ย่อมได้ ชาวญี่ปุ่นใช้บริโภคแทนไข่ปลาคาเวียร์ 







    ริมทางเดินมีป้ายแสดงแหล่งท่องเที่ยวในสัตหีบ ซึ่งมีน่าสนใจมากมาย ทั้งวัดญาณสังวราราม เขาชีจรรย์ ศาลเสด็จเตี่ย เขาแหลมปู่เจ้า สวนนงนุข เกาะขาม สนามกอล์ฟ 



    ภายในจุดต้อนรับมีจัดโซนให้ความรู้เกี่ยวกับแสมสาร ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาของต้นแสมสารอันเป็นที่มาของชื่อเกาะ สัตว์ทะเลอย่างเต่ากระ เม่นทะเล หอย เพรียง ประวัติความเป็นมาก่อนที่มาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติวิทยาว่า เมื่อปี 2475 มีชาวจีนสามคนล่องสำเภาผ่านมาเห็นเกาะนี้มีทำเลที่ดี อุดมสมบูรณ์และสวยงาม จึงมาตั้งรกรากทำมาหากินเลี้ยงสัตว์ ล่องเรือ ประมง จนต่อมามีคนในพื้นที่ได้ย้ายเข้ามาอยู่มากขึ้น มีรีสอร์ต โรงเรียน วัด เกิดขึ้น ต่อมาในสมัยสงครามเวียดนาม ได้ใช้ที่นี่เป็นที่หน่วยฝึก UID จึงต้องอพยพผู้คนไปอยู่บนแผ่นดินใหญ่จนหมดเมื่อปี 2533 ทางทหารเรือจึงได้เป็นผู้ดูแลชายฝั่งตลอดมา จนกระทั่งสมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงมีพระราชดำริให้ที่นี่เป็นแหล่งอนุรักษ์พืชพันธุ์ต้นไม้ ประการัง ความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลขึ้นมา และกลายมาเป็นที่ท่องเที่ยวในที่สุด 







    ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ทางทะเลและชมรมดำน้ำอยู่บนเนินเขาใกล้ๆ ซึ่งบนนั้นจะมีศาลพระเจ้าตากสินมหาราชอยู๋ สามารถมองเห็นทิวทัศน์สะพานที่ทอดยาวไปในทะเล เรือหาปลาจอดอยู่แน่นขนัดเป็นทิวสวยงาม 









    ก่อนข้ามเกาะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าบนเกาะจะไม่มีอาหารมากนัก ควรซื้อไปหรือรับประทานจากฝั่งนี้ไปเลย ก่อนเวลาสัก15นาทีจึงเดินไปสะพานเพื่อรอเรือ

MulticollaC
ตรงนี้มีร้านกาแฟ ห้องน้ำให้บริการด้วย 









    นั่งเรือประมาณ 15 นาทีก็ถึงเกาะ หลักเขต 0 กม. เด่นตระหง่านบนผืนทรายขาว มีชิงช้าและบังกาโลให้นั่งชมวิวทะเลสีสวยใส จะเช่าเก้าอี้นอนหรือเสื่อได้ตามสะดวก

















    เมื่อขึ้นเรือแล้วก็ไปฟังเจ้าหน้าที่บรรยายประวัติที่มาและกิจกรรมที่จะทำบนเกาะ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูประกัง เสียค่าอุปกรณ์ 50 บาท จะดำที่หาดเทียนหรือหาดลูกลมที่มีรถเล็กให้บริการก็ได้ เนื่องจากน้ำทะเลลดลงมาก การท่องเรือท้องกระจกต้องรอตอนบ่ายๆ ที่หาดลูกลม เนื่องจากที่หาดเทียนนั้นเรือชำรุด จะปั่นจักรยานชมทั่วเกาะก็มีเส้นทางจัดไว้ให้ หรือจะเดินป่าก็ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่นี่มีล็อกเกอร์ให้บริการแต่ไม่มากนัก ใกล้ๆ มีหมูป่าอ้อนกลมพี่ทหารเลี้ยงไว้มาเดินอวดโฉมส่ายหางดุ๊กดิ๊ก





    รอไม่นานรถบริการฟรีไปหาดลูกลมก็มาจอดรอ ส่วนที่มาของชื่อหาดก็มาจากมีต้นหญ้าชนิดหนึ่งลักษณะกลมๆ มีขนยาวอยู่เยอะ จะกลิ้งลอยไปตามลม ที่หาดลูกลมจะบริการดำน้ำและนั่งเรือท้องกระจก เล่นกิจกรรมบนบก นั่งเล่นริมทะเล 



















    การล่องเรือท้องกระจกต้องรอเวลาถึงบ่ายสามโมงให้น้ำขึ้นสักหน่อยเพื่อไม่ติดแนวประการัง ลำละ 20 คน คนละ 50 บาท เนื่องจากวันนี้น้ำขุ่นจึงเห็นประการังและน้องปลาได้ไม่ชัดนัก แต่ก็ตื่นใจในความใหญ่โตของประการังจริงๆ 





    ข้ามเรือเที่ยวสุดท้ายของวันเวลา 16.30 น. แม้จะมาวันธรรมดาก็คนเยอะพอควรเลยทีเดียว นั่งชมวิวยามเย็นกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะตก สะท้อนท้องทะเลงามตา กับเรือหาปลาที่ทอดสมอลอยนิ่งอยู่ ขึ้นบกแล้วมีรถสองแถวสีฟ้ามาจอดรอเพื่อไปส่งถึงท่ารถตู้เข้ากรุงเทพฯ บริเวณกิโล1 ค่าโดยสาร 30 บาท





 

    แสมสารเป็นหนึ่งทางเลือกเที่ยวทะเลใกล้กรุงที่สะดวกสบายใช้เวลาน้อย เพียงแต่ต้องมาให้เช้าเพื่อจองคิวเรือให้ทันเท่านั้น การได้สัมผัสไอทะเลในวันอากาศร้อนๆแบบนี้ ก็เป็นวันเดย์ทริปที่คุ้มค่าได้ดีทริปหนึ่ง.

ขอขอบคุณข้อมูล travel.thaiza.com
โพสต์โดย : nampuengeiei9760