มหาดไทย แจ้งผู้ว่าฯ ท้องที่ทั่ว ปท. ให้ทราบ 3 เรื่องสำคัญ
วันที่ 3 พ.ย. 2559 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยัง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อมอบแนวทางการช่วยเหลือชาวนาจากปัญหาราคาข้าวตกต่ำ และชี้แจงแนวทางปฏิบัติให้เกิดความเหมาะสมในช่วงพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเข้าร่วมการประชุมฯ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวชี้แจงการประชุมในวันนี้มีวาระสำคัญที่จะต้องแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัด 3 เรื่องสำคัญ คือ
1. การแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกที่มีราคาตกต่ำ ทำให้เกษตรกรชาวนาได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง แนวทางการช่วยเหลือชาวนาแจ้งไปยังทุกจังหวัดทราบแล้ว จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ได้ใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการบูรณาการทุกหน่วยงานในพื้นที่ในรูปแบบประชารัฐ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือชาวนาทุกมาตรการตามกฎหมาย เริ่มตั้งแต่การเชิญประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการบริหารจัดการข้าวระดับจังหวัด หรือ คณะกรรมการประสานและขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐประจำจังหวัด เพื่อติดตามและรับทราบสถานการณ์ทั้งข้าวเปลือก ข้าวสาร ราคาข้าว คุณภาพข้าว ต้องลงไปดูรายละเอียดและแนวโน้มผลผลิตที่จะออกในฤดูการผลิตนี้ ต้องรู้อุปสงค์( demand) และอุปทาน ( supply) พร้อมหาแนวทางการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ และให้จัดทีมซึ่งประกอบด้วย ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และเกษตรจังหวัด และมอบหมายชุดปฏิบัติการอำเภอ ชุดปฏิบัติการตำบล (ชปต.) ลงไปตรวจสอบการรับซื้อข้าวของผู้ประกอบการว่ามีการกดราคารับซื้อข้าวหรือไม่ ต้องดูแลกลไกราคาข้าวให้เกิดความเป็นธรรม พร้อมเปิดศูนย์ดำรงธรรมอำเภอให้เป็นช่องทางให้ชาวนาสามารถมาร้องเรียนและรับฟังความเดือดร้อนโดยตรง หรือขอคำแนะนำต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ขอย้ำว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด จะต้องรับทราบมาตรการต่างๆ ในการแก้ปัญหาของรัฐบาล และมอบหมายให้ทุกฝ่ายเร่งลงไปชี้แจงให้ชาวนาได้รับทราบถึงสิทธิ และมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่มีออกมาในขณะนี้อย่างถูกต้อง และทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มไม่ให้มีการนำปัญหาความเดือดร้อนของชาวนาไปใช้สร้างความขัดแย้งของประชาชน ขอให้ช่วยเหลือดูแลชาวนาอย่างเต็มที่ หรือจังหวัดอาจใช้งบประมาณแก้ปัญหาของจังหวัด จังหวัดละ 10 ล้านบาท เพื่อนำมาแก้ปัญหาได้ เช่น จ.ยโสธร 
รวมทั้งต้องใช้โอกาสนี้เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส ต้องเปลี่ยนแปลงการผลิตข้าวให้ได้และเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความยั่งยืน ขอให้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นวิถีการดำเนินชีวิตของชาวนา ให้หันมาดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำริ เช่น การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ทำเกษตรแผนใหม่แบบผสมผสาน เป็นต้น
จากนั้นผู้แทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ชี้แจงมาตรการช่วยเหลือต่างๆ ที่ได้มีมติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2559 ให้ที่ประชุมและจังหวัดได้รับทราบ ซึ่งมีมาตรการสำคัญที่ออกมาช่วยเหลือชาวนาในขณะนี้ เช่น โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวข้าว โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีการผลิต 2559/60 เป็นต้น
2. เรื่องการดูแลการจัดงานในพื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม ในช่วงพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ และการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนจากต่างจังหวัดที่เดินทางมาเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ซึ่งที่ผ่านมาต้องขอขอบคุณทุกจังหวัดที่ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ และขอแจ้งให้ทราบถึงวิธีการขอเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพฯ โดยสามารถ Download ตัวอย่างการขอเป็นเจ้าภาพได้ที่ www.brh.thaigov.net หรือขอตัวอย่างหนังสือได้ที่ฝ่ายทะเบียน สำนักพระราชวัง (สนามเสือป่า)
และเน้นย้ำในเรื่องของการกระจายกลุ่มเป้าหมายที่จะเดินทางมาจากจังหวัด จังหวัดละ 750 คน ให้ครอบคลุมทุกอำเภอ ทุกตำบล ต้องมาให้ครบและกำชับเรื่องการเดินทาง ยานพาหนะต้องมีสภาพดี มีความปลอดภัยต่อประชาชน และให้คำแนะนำแก่ประชาชนที่เดินทางมาเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพในการปฏิบัติตน และการแต่งกายให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
รวมไปถึงเรื่องการจัดงานแสดง การละเล่นต่างๆ ภายหลังวันที่ 14 พ.ย.นี้ สามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม แต่เน้นย้ำว่าในส่วนของสถานบริการ สถานบันเทิง จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายจัดระเบียบสังคมอย่างเคร่งครัด ทั้งเรื่องเวลา เปิด-ปิด อายุของผู้เข้าไปใช้บริการ การแสดงต้องเป็นไปอย่างเหมาะสม และเงื่อนไขการจำหน่ายสุรา เป็นต้น
3. เรื่องการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ขอให้จังหวัดเตรียมพร้อมรับมือกับสาธารณภัยในช่วงเวลาจากนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่ยังคงมีฝนตก ให้ระมัดระวังและเตรียมพร้อมรับมือกับภัยดินโคลนถล่ม ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เริ่มมีอากาศเย็น ประชาชนเริ่มประสบภัยหนาว หรือปัญหาไฟป่า-หมอกควัน ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถป้องกันปัญหาได้ดี สำหรับในปีนี้ขอให้เตรียมการไว้ให้พร้อม เน้นมาตรการเชิงป้องกัน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ที่มา ข่าวกระทรวงมหาดไทย
