Social :



เออ เข้าใจคิดเนอะ ‘สปท.’ ประกาศขึ้นเงินเดือน นายกฯ-รมต.-ส.ส.-ส.ว. คนละ 3 แสน ป้องกันทุจริต

07 พ.ย. 59 11:48
เออ เข้าใจคิดเนอะ ‘สปท.’ ประกาศขึ้นเงินเดือน นายกฯ-รมต.-ส.ส.-ส.ว. คนละ 3 แสน ป้องกันทุจริต

เออ เข้าใจคิดเนอะ ‘สปท.’ ประกาศขึ้นเงินเดือน นายกฯ-รมต.-ส.ส.-ส.ว. คนละ 3 แสน ป้องกันทุจริต

เออ เข้าใจคิดเนอะ สปท. ประกาศขึ้นเงินเดือน 

นายกฯ-รมต.-ส.ส.-ส.ว. คนละ 3 แสน ป้องกันทุจริต

 

วันที่ 6 พ.ย. 2559 นายสมพงษ์ สระกวี กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สปท.

 

นายสมพงษ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาแนวทางปฏิรูปผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่าขณะนี้คณะอนุ กมธ.ได้สรุปแนวทางการปฏิรูปเรื่องดังกล่าวเกือบเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีสาระสำคัญคือ

 

1. การปฏิรูปมาตรการคัดกรองตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้มีประสิทธิภาพ โดยทั้งผู้สมัคร ส.ส. และผู้เป็นรัฐมนตรี ต้องผ่านการคัดกรองอย่างเป็นประชาธิปไตยจากพรรคการเมือง เช่น ถ้าเป็น ส.ส.เขต ก็ผ่านการคัดกรองด้วยวิธีไพรมารีโหวตก่อน และจะต้องแสดงตัวให้ประชาชนทราบล่วงหน้า 6 เดือน ถึง 1 ปี ว่าจะลงสมัคร ส.ส.ในพื้นที่ใด ขณะที่ผู้จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องผ่านมติกรรมการบริหารพรรคอย่างเป็นทางการ มีกระบวนการเปิดเผยประวัติ ชื่อเสียง ให้คนในพรรคและประชาชนได้รับรู้ เพื่อช่วยกันตรวจสอบ ไม่ใช่มาจากวิธีการคัดเลือกของนายทุนพรรค หรือหัวหน้าพรรคเพียงอย่างเดียวเหมือนที่ผ่านมา

 

2. การให้ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรความรู้การเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ดี จาก กกต. หรือสถาบันพระปกเกล้าที่กำหนดขึ้น เพื่อพัฒนาให้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พึงประสงค์ของประชาชน โดยจะมีการอบรมหลักสูตรพัฒนาการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ดี ทั้งก่อนการรับสมัครเลือกตั้งและหลังการเลือกตั้งทุกครั้งแก่ผู้สมัคร ส.ส. ส.ว. รัฐมนตรี รวมทั้งตำแหน่งเลขานุการ และที่ปรึกษารัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกำหนดบทลงโทษว่า หากไม่เข้าร่วมหลักสูตรดังกล่าวจะมีโทษอย่างไร เพราะเป็นเพียงการวางแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสามารถดำรงตำแหน่งได้อย่างมีเกียรติยศ และมีความซื่อสัตย์สุจริตเท่านั้น

MulticollaC

 

3. การพิจารณาเพิ่มค่าตอบแทนแก่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว. โดยเทียบเคียงกับโครงสร้างเงินเดือนของผู้บริหารองค์การมหาชน ที่ได้รับเงินเดือน 2-3 แสนบาท เช่น องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ เพื่อการท่องเที่ยว โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เนื่องจากองค์การเหล่านี้มีโครงสร้างอยู่ในตำแหน่งตามวาระ และดำเนินการโดยไม่หวังผลกำไร เมื่อเราคาดหวังอยากได้นักการเมืองมีประสิทธิภาพ จึงต้องมีค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเพียงพอให้ เพราะตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญที่จะมีผลบังคับใช้หลังจากนี้ จะมีการตรวจสอบควบคุมนักการเมืองอย่างเข้มข้น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด ทั้งจากมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง กฎหมาย 3 ชั่วโคตร การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ไม่สามารถประกอบอาชีพอื่นใดได้ นอกจากนักการเมือง หากนักการเมืองมีรายได้ทางเดียว จึงควรพิจารณาค่าตอบแทนให้เหมาะสม หากมีการตรวจสอบเข้มข้น แต่ไม่เพิ่มค่าตอบแทนให้เหมาะสม นักการเมืองก็ต้องหลบๆ ซ่อนๆ ใช้วิธีอื่นทุจริต ปัจจุบันเงินเดือน ส.ส.อยู่แค่ 100,000 กว่าบาท ใช้มาหลายปีแล้ว มีการเพิ่มค่าตอบแทนขึ้นเพียง 1-2% เท่านั้น

 

ข้อเสนอการเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น อนุ กมธ.ไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าต้องเพิ่มเป็น 2-3 แสนบาทเท่ากับผู้บริหารองค์การมหาชน เพียงแต่นำโครงสร้างขององค์การมหาชนมาเปรียบเทียบให้ดู จะเพิ่มเติมเท่าใดต้องให้สังคมและทุกฝ่ายช่วยกันพิจารณา เราห่วงเช่นกันว่า ข้อเสนอนี้จะถูกต่อต้านจากสังคม ดังนั้น ในการประชุมอนุ กมธ.จึงมีข้อเสนอว่า ควรให้ข้อเสนอเรื่องการเพิ่มค่าตอบแทนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีผลบังคับใช้หลังจากนี้ 5 ปี เพื่อมิให้ถูกกล่าวหาว่า เสนอเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

 

ทั้งนี้ คณะอนุ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะสรุปแนวทางการปฏิรูปเรื่องผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ย. 2559 จากนั้นจะนำเข้าสู่ที่ประชุม สปท.การเมืองในช่วงบ่ายวันเดียวกัน เพื่อขอความเห็นชอบ และส่งให้ที่ประชุม สปท.พิจารณาต่อไป



topicza.com

โพสต์โดย : ครองแครง