Social :



นบข.เห็นชอบ 1.8 หมื่นล้าน ‘ชะลอขายข้าว’ ปีการผลิต 59/60 เตรียมเสนอเข้า ครม.

07 พ.ย. 59 13:54
นบข.เห็นชอบ 1.8 หมื่นล้าน ‘ชะลอขายข้าว’ ปีการผลิต 59/60 เตรียมเสนอเข้า ครม.

นบข.เห็นชอบ 1.8 หมื่นล้าน ‘ชะลอขายข้าว’ ปีการผลิต 59/60 เตรียมเสนอเข้า ครม.

นบข.เห็นชอบ  1.8 หมื่นล้าน   ชะลอขายข้าว ปีการผลิต 59/60 

เตรียมเสนอเข้า ครม.

 

วันนี้ ( 7 พ.ย. 2559) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่า ที่ประชุม นบข.เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 59/60

 

โดย ข้าวเปลือกเจ้า ซึ่งเกษตรกรจะได้รับเงินทั้งหมด 10,500 บาท แบ่งเป็น

-           วงเงินสินเชื่อ 7,000 บาทต่อตัน

-           ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน  

-           และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน

 

ขณะที่ ข้าวปทุมธานี เกษตรกรจะได้รับเงินทั้งสิ้น 11,300 บาทต่อตัน แบ่งเป็น

-           วงเงินสินเชื่อ 7,800

MulticollaC
บาทต่อตัน

-           ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 2,000 บาทต่อตัน

-           และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉาง 1,500 บาทต่อตัน

 

โดยกำหนดรายละไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งจะใช้วงเงินในการดำเนินการทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท แบ่งเป็น วงเงินสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 9,000 ล้านบาท และในส่วนของวงเงินค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว 9,000 ล้านบาท

 

สำหรับการดำเนินโครงการดังกล่าว คาดว่าจะมีเกษตรกรในพื้นที่ภาคกลางได้รับประโยชน์มากกว่า 700,000 ครัวเรือน จึงขอให้เกษตรกรได้ไปขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรกร ซึ่งคาดการณ์ปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกเจ้าที่สีเป็นข้าวสารจะมีประมาณ 9 ล้านตัน และปริมาณข้าวปทุมธานีที่สีเป็นข้าวสารอีกประมาณ 4 ล้านตัน รวมกว่า 13 ล้านตัน  

 

ทั้งนี้ ในส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาว จะมีการขยายตลาดเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยในต่างประเทศจะมีการเชิญผู้ซื้อข้าวจากทั่วโลกกว่า 100 ราย มาเจรจาซื้อขายข้าวจากไทยในวันที่ 13-16 พ.ย.นี้ ขณะเดียวกัน ยังส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตด้วยการรวมตัวทำโครงการนาแปลงใหญ่ ขณะนี้มีแล้วกว่า 1 ล้านไร่

 

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ย้ำว่ามาตรการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลต้องเป็นไปด้วยความเหมาะสม ซึ่งในระยะยาว การแก้ปัญหาภาคการเกษตรต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง เวลานี้ยังไม่มีแผนที่จะลงพื้นที่พบกับเกษตรกรที่ประสบปัญหา เพราะได้สั่งการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงไปติดตามโดยตลอดอยู่แล้ว จึงไม่อยากให้นำการทำงานของรัฐบาลไปเปรียบเทียบกับกลุ่มการเมือง จนกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งขึ้นมา


topicza.com

โพสต์โดย : ครองแครง