Social :



ลาดชะโด...ตลาดริมน้ำเก่าแก่ เสน่ห์ชวนหลงใหลไม่รู้ลืม

24 พ.ค. 59 15:56
ลาดชะโด...ตลาดริมน้ำเก่าแก่ เสน่ห์ชวนหลงใหลไม่รู้ลืม

ลาดชะโด...ตลาดริมน้ำเก่าแก่ เสน่ห์ชวนหลงใหลไม่รู้ลืม

 





ลาดชะโด... ตลาดริมน้ำเก่าแก่  เสน่ห์ชวนหลงใหลไม่รู้ลืม

 

วันนี้ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวสไตล์ย้อนยุคนิดๆ วินเทจหน่อยๆ แต่ยังไม่เจอที่ถูกใจ อยากชวนสะพายเป้หนึ่งใบโล่งๆ เพื่อเก็บเอาประสบการณ์ดีๆ ใส่กลับบ้าน และพกกล้องถ่ายรูปคู่ใจเพื่อบันทึกชีวิตหนึ่งวันแสนคุ้ม ตามเราไปที่บ้านลาดชะโด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ไปสัมผัสวิถีชีวิตริมคลองที่รับประกันความประทับใจไม่รู้ลืม

 

จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่กรุงเก่า อยุธยา ใช้เวลาเพียงชั่วโมงกว่าๆ เข้าสู่ อ.ผักไห่ เดินทางต่อไปอีกนิดจะเจออาคารบ้านเรือน ร้านค้าพาณิชย์แบบย้อนยุค ซึ่งสร้างด้วยไม้ที่มีความเก่าแก่ร่วมร้อยปี ที่นี่คือ ตลาดลาดชะโด

 

เล่ากันว่า ตลาดเก่าแก่อายุร่วมร้อยปีแห่งนี้ เดิมเริ่มจากแพค้าขายของชุมชนชาวจีนที่ตั้งอยู่สองฝั่งคลอง ต่อมาได้สร้างเป็นตลาดไม้ใต้ถุนสูงริมน้ำ เพื่อทำการค้าแล้วค่อยๆ ขยายตัวพัฒนาขึ้นไปบนบกเรื่อยๆ คูหาแล้วคูหาเล่า ผุดขึ้นจากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย...

 

 


ในอดีต ตลาดลาดชะโดแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ภายในเป็นศูนย์รวมร้านรวงมากมาย มีทั้งร้านขายทอง ร้ายขายยาจีน ร้านถ่ายรูป โรงหนัง-โรงละคร เป็นต้น จนกระทั่งปี พ.ศ. 2517 การคมนาคมทางบกเริ่มสะดวกมากขึ้น ผู้คนต่างเดินทางเข้าตัวเมือง เพื่อจับจ่ายซื้อสินค้าแทนเดินตลาดริมน้ำเหมือนก่อนเก่า ประกอบกับลูกหลานส่วนมากไม่ได้สืบทอดการค้าจากบรรพบุรุษ หันหลังให้กับตลาดเก่าคูหาไม้โบร่ำโบราณ มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เมืองแห่งความศิวิไลซ์ เพื่อศึกษาต่อและทำงานบนตึกสูงระฟ้าแทน ความเงียบเหงาจึงเข้ามาแทนที่โดยปริยาย ร้านค้าคูหาแล้วคูหาเล่าเริ่มปิดตัวลง ปรับเปลี่ยนเป็นเรือนพักอาศัย เหลือร้านค้าดั้งเดิมอยู่เพียงบางส่วนเท่านั้นที่ยังปักหลักยึดพื้นที่ขายของอย่างเหนียวแน่น

 

ทว่าวันคืนเก่าๆ กลับหวนคืนมาอีกครั้งเมื่อกาลผ่านผัน คล้ายวันคืนที่ยังมีร้านรวงเต็มสองฝั่งคลอง เกิดการปรับปรุงย้อนหาวันผ่านเมื่อนานปีที่แล้วมา แม้จะถูกปรุงแต่งด้วยรูป รส กลิ่น และเสียง แต่ก็ทำให้หวนคิดถึงวิถีชีวิตในอดีตได้เป็นอย่างดี

 

 

 

วันนี้เมื่อมองตรงเข้าไปตั้งแต่หน้าซอยตลาดลาดชะโดจะเห็นเรือนแถวขนาดใหญ่หันหน้าเข้าหากัน ทางเดินกว้างขวาง ด้านในชุมชนมีวัดลาดชะโด ศาสนสถานสำคัญของคนในชุมชนในอดีตและยังคงเป็นเช่นนั้นจนถึงปัจจุบัน โรงเรียนที่สร้างด้วยไม้ทั้งหลังและได้รับการยกย่องว่าเป็นอาคารไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้า โรงสี และโรงภาพยนตร์ที่คงสภาพเดิม จึงอดใจไม่ไหวยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาชักภาพเก็บไว้ว่า

MulticollaC
ครั้งหนึ่งได้เคยมาเยือนชุมชนเก่าแก่ที่ยังคงเก็บรักษาเรื่องราวอดีตไว้อย่างครบถ้วนนี้เป็นอย่างดี ให้คนรุ่นหลังได้หวนคิดถึงวิถีชีวิตของคนรุ่นก่อนๆ

 

เมื่อถึงเวลาช่วงเย็นตะวันคล้อยต่ำ ก็นั่งเรือตามคลองลาดชะโด สัมผัสวิถีความเป็นอยู่อันเรียบง่ายของชุมชนสองฝั่งคลอง ด้วยที่นี่ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่หลายๆ ด้าน โดยเฉพาะชีวิตริมคลองที่พบว่า บ้านเรือนทั้งสองฝั่งคลองยังคงความสวยงามและเรียบง่าย บางบ้านก็ยังมีกระชังเลี้ยงปลาบริเวณหน้าบ้าน

 

 


สอดคล้องกับที่ว่าพื้นที่อุดมสมบูรณ์แห่งนี้เดิมมีปลาชุกชุม โดยเฉพาะปลาชะโด ซึ่งในอดีตจะรู้กันดีว่าผู้คนที่พายเรือผ่านมาที่ลาดชะโดแห่งนี้ต้องคอยระแวดระวังไม่พายแรง เพราะเกรงปลาแตกตื่น

 

มองไปสองฝั่งเห็นเด็กๆ เรือนริมน้ำกระโดดเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวลั่นสองฝั่งคลอง สัมผัสภาพคลองสวย น้ำใสสะอาด ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ สังเกตได้จากฝูงปลาตัวเล็กใหญ่แหวกว่ายในลำคลอง ยอหาปลาที่ประจำจุดท่าน้ำของบ้านทุกหลังถูกตั้งวางเรียงรายสองฝั่ง อันเป็นอาชีพดั้งเดิมที่ยังคงมีให้เห็นตลอดลำคลอง กลายเป็นจุดสนใจและไม่ลืมเก็บภาพประทับใจเหล่านั้นไว้

 

 

 

เสียดายที่ผ่านล่วงเลยเทศกาลแห่เทียนพรรษามาแล้ว ใครที่ยังไม่เคยมาคงต้องรอถึงปีหน้า แต่เราไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาฝาก ประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำของลาดชะโด ที่จัดขึ้นในช่วงวันอาสาฬหบูชาของทุกปีนั้น คนที่ได้มาเห็นทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประทับใจจนลืมไม่ลง

 

เรือโบราณของชาวบ้านจะมารวมตัวกันอย่างคึกคักเต็มลำคลอง เรือทุกลำจะประดับประดาตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสันอย่างสวยงามและล่องไปตามลำคลองลาดชะโด เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ให้ผู้คนสองฝั่งคลองได้ชมความงดงามกันถ้วนทั่ว บอกเล่าเรื่องราวแห่งวิถีชีวิตเรียบง่ายที่ปัจจุบันหาชมได้ยาก กลายเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของชุมชนที่ร่วมสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดให้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยด้วย

 

 

 

อาจจะต้องรออีกหนึ่งปีให้หมุนเวียน เพื่อจะได้มายืนรอดูการแห่เทียนพรรษาทางน้ำของที่นี่อีกครั้ง ทว่าใครที่รอไม่ไหวจะมาเยือนสถานที่แห่งนี้เพื่อเก็บความประทับใจใส่กระเป๋ากลับบ้านไปนอนกอดตุนไว้ก่อนรอให้ถึงแห่เทียนพรรษาปีหน้าก็ไม่ว่ากัน

 

ตลาดเก่าที่มีชีวิตแห่งนี้ยังคงดำรงอยู่เพื่อรอให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์ ตลาดโบราณ... ซึ่งหากมาเยือนแล้วยากจะลืมเลือน


 

เรียบเรียงโดย topicza.com

 

โพสต์โดย : ครองแครง