Social :



5 กฎตำนานสยอง!!! มหาวิทยาลัยต่างประเทศ

26 พ.ค. 59 19:07
5 กฎตำนานสยอง!!! มหาวิทยาลัยต่างประเทศ

5 กฎตำนานสยอง!!! มหาวิทยาลัยต่างประเทศ

หลายคนเคยได้ยินตำนานเรื่องเล่าสุดสยองในมหาวิทยาลัยมาบ้าง เรียกได้ว่ามีเกือบทุกมหาวิทยาลัยจากทั่วทุกมุมโลกจะต้องมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวิญญาณ และความตาย มาเล่าสู่กันฟังอย่างต่อเนื่อง หรือแม้แต่เรื่องเล่าชวนขนลุกในมหาวิทยาลัยไทย ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน แม้บางคนอาจมองว่าเรื่องผีเป็นเรื่องงมงาย ไร้สาระ และเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างสีสันให้กับชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยได้เป็นอย่างดี รุ่นพี่เล่าสู่รุ่นน้อง และรุ่นน้องต่อๆ ไป กลายมาเป็นเรื่องเล่าประจำมหาวิทยาลัย ไปรู้จักกับ "5 กฎตำนานสยองในมหาวิทยาลัย" ไปดูกันว่าผีในมหาวิทยาลัยต่างประเทศมีรูปแบบและความเป็นมาอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกับเรื่องเล่าและตำนานชวนสยองในมหาวิทยาลัยไทยแค่ไหนไปชม... 
       
        1. การสังหารหมู่ฮาโลวีน
       
        การสังหารหมู่วันฮาโลวีนหนึ่งในตำนานที่มีชื่อเสียงที่สุดของมหาวิทยาลัยในต่างประเทศเกือบทั่วโลก โดยที่ไม่รู้ว่ามันเริ่มมาจากที่ไหนและเมื่อไร แต่สำหรับทศวรรษที่ผ่านเรื่องเล่าสยองวันฮาโลวีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั่วทุกมุมโลก โดยจะมีเค้าโครงเรื่องที่คล้ายกันก็คือ ในคืนฮาโลวีนจะมีชายสวมหน้ากาก ด้วยชุดสีดำคลุมทั้งตัว แอบเข้ามาในมหาวิทยาลัยเลือกเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร “M” หรือ “W” และอยู่ใกล้กับบ่อน้ำ, ทะเลสาบ, ทางรถไฟ หรือสุสาน เป็นต้น จากนั้นเขาก็จะฆ่าทุกคนที่นั่น 
         
       เรื่องเล่านี้มีมานานหลายปี แต่ก็ยังไม่มีการสังหารหมู่เกิดขึ้นแต่อย่างใด แต่สำหรับนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศยังคงหวาดกลัวกับเรื่องเล่าและตำนานความสยองของวันฮาโลวีนนี้ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยที่ขึ้นต้นด้วยตัว M และตัว W อย่าง มหาวิทยาลัยมิชิแกน (University of Michigan), มหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกน (Michigan State University), มหาวิทยาลัยมินนิโซตา (University of Minnesota) และมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน (University of Wisconsin) ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเป็น มหาวิทยาลัยในประเทศไทยที่ขึ้นต้นด้วยตัว M และตัว W จะมีมหาวิทยาลัยไหนบ้างที่ต้องระวังตัว!!!
       
       2. เพื่อนร่วมห้อง...ที่ตายแล้ว
       
        อีกหนึ่งตำนานมหาวิทยาลัยสุดสยองที่ถูกเล่าซ้ำๆ ในมหาวิทยาลัยนั่นก็คือ “ความตายของรูมเมท” ที่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีหอพักกันแทบทั้งนั้น เช่นเดียวกับกฎข้อแรกว่าไม่มีใครรู้ว่าเรื่องเล่าเหล่านี้เริ่มต้นเมื่อไหร่? และเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่? แต่มักจะมีข่าวลือว่ามีเพื่อนร่วมห้องหรือรูทเมทของใครก็แล้วแต่...เสียชีวิตลงในทุกปีการศึกษา ไม่ว่าจะตายโดยอุบัติเหตุ, เจ็บป่วย หรือการฆ่าตัวตาย โดยเรื่องเล่าและข่าวลือเหล่านี้จะมีขึ้นตลอดทั้งปี สร้างความหวาดผวาให้กับนักศึกษาที่จะต้องอาศัยอยู่ในหอพักเป็นจำนวนมาก อย่างตำนานของมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีเรื่องเล่าชวนสยองเกี่ยวกับวิญญาณของรูมเมที่ถูกฆ่าตาย อันลือเลื่องไปทั่วโลก 
         
       เริ่มต้นมาจากนักศึกษาสาวนามว่า “แมรี่ ฮอว์กินส์” (Mary Hawkins) ที่พักอาศัยอยู่ในหอหญิงเพ็มเบอร์ตัน ฮอลล์ (Pemberton Hall) ได้ถูกฆาตกรรมโหดโดยภารโรงใจชั่วที่ทั้งทุบตีและข่มขืนเธออย่างทารุณ ก่อนที่แมรี่จะสิ้นใจก็ได้พยายามตะเกียกตะกายร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งใช้เล็บตะกุยตะกายและส่งเสียงกรีดร้องเพื่อให้คนข้างในห้องได้ยิน และก่อนที่ผู้ดูแลจะเปิดประตูออกมา แม่รี่ผู้เคราะห์ร้ายก็ได้สิ้นใจไปต่อหน้าต่อตาเสียแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงรอยเลือดยาวเป็นทางที่เธอคลานลงมาไว้ให้ดูอย่างน่าเวทนาที่สุด นักศึกษาหลายคนยืนยันว่าแมรี่ยังอยู่และยังคงปรากฎตัวให้เห็นอยู่เสมอๆ บางคนเห็นหญิงสาวลอยผ่านเข้าไปในกำแพง ได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินไปมารอบๆ อาคาร และที่น่าขนหัวลุกนั่นก็คือ บางคนเล่าว่า เธอได้ยินเสียงดังออกมาจากผนังข้างห้อง แต่พอเอาหูไปแนบเพื่อที่จะฟังว่านั่นคือเสียงอะไร ก็จะได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังอยู่อีกด้านหนึ่ง หรือบางคนจะเห็นคราบรอยเลือดตามทางเดิน และมีรอยเท้ารอบๆ รอยเลือดนั้น สักพักรอยเลือดนี้ก็จะหายไป สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้กับนักศึกษาสาวที่หอพักแห่งนี้เป็นอย่างมาก
       
       คล้ายๆ กับเรื่องเล่าของมหาวิทยาลัยไทยเกี่ยวกับวิญญาณของรูมเมทที่ตายไปแล้ว เรื่องราวอันน่าสยดสยองชวนขนหัวลุกเป็นที่สุดที่หลายคนจำได้ไม่เคยลืมคือ "ป๊อก…ป๊อก ครืด" จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือ SI วันมหิดล เตียง C (มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา), หอ 50 ปี (มหาวิทยาลัยบูรพา) เรียกได้ว่าแทบจะทุกมหาวิทยาลัยในประเทศไทยต้องมี โดยสามารถติดตามเรื่องเล่าสุดสยองจากหอพักอื่นๆ ได้จาก “13 หอพักสยอง...เรื่องหลอนๆ ที่น้องปี 1 ต้องรู้!!!” ที่ Life on campus ได้รวบรวมเรื่องเล่าของเพื่อนรวมห้องชวนสยองไว้มากมาย
       
       3. รูปปั้นมีชีวิต...

       มหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วโลก มักจะมีรูปปั้นหรืออนุสาวรีย์ต่างๆ ทั้งคนและสัตว์ ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารหรือในบริเวณมหาวิทยาลัย และนั่นเองก็คือที่มาของเรื่องเล่าชวนขนหัวลุก เมื่อรูปปั้นเหล่านั้นมีชีวิตยามค่ำคืน และเคลื่นย้ายไปมารอบๆ มหาวิทยาลัย คอยหลอกหลอนผู้คน และนักศึกษาที่อยู่ในบริเวณนั้นเป็นประจำ โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีตำนานเรื่องเล่าที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่สถาบัน แต่รูปแบบจะเหมือนกัน บางวิทยาลัยอาจจะมีอนุสาวรีย์รูปสัตว์ อย่างเช่นที่ มหาวิทยาลัยซินซินแนติ (University of Cincinnati) จะมีรูปปั้นสิงโตหิน 2 ตัว ที่มีชื่อว่า “Mick & Mack” ตั้งอยู่ด้านหน้า McMicken Hall นักศึกษาบางคนเล่าว่า “พวกเขาจะได้ยินเสียงคำรามของสิงโตในเวลากลางคืน” บ้างก็บอกว่า “รูปปั้นจะเคลื่อนย้านตามเมื่อมี หญิงสาวบริสุทธิ์ หรือพวกหัวขโมยเดินผ่าน” 
         
       รวมไปถึงสิ่งอื่นๆ ที่ถูกกล่าวถึงว่ามีชีวิต เช่น ภาพวาดของ “Mary Mayo” ที่มหาวิทยาลัยรัฐมิชิแกน (Michigan State University) ที่นักศึกษามักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เวลาที่พวกเขาเดินผ่านห้องนี้ ตาของ Mary Mayo ก็มักจะมองตามพวกเขาไป” ฟังแล้วชวนขนลุกอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว หรืออย่างในประเทศไทยเอง รูปปั้นหรืออนุสาวรีย์ แน่นอนว่าจะต้องมีทุกมหาวิทยาลัย แต่จะเป็นการสร้างขึ้นด้วยความเคารพและศรัทธา จนนำมาซึ่งความเชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์มากกว่า ยกตัวอย่างเช่น “ศาลเจ้าแม่สิงโตทอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์)” ที่นักศึกษาจำนวนมากนิยมขอพรจากศาลเจ้าแม่สิงโตทองทั้งเรื่องการเรียนและเรื่องความรัก หรือ “รูปวาดของเจ้าแม่เฮงหลุย” บริเวณสวนแก้ว มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ) ที่มีเรื่องเล่าว่า เคยมีคนขโมยรูปวาดเจ้าแม่เฮงหลุยไป แต่เมื่อจะออกจากบริเวณศาล หาทางออกอย่างไรก็หาไม่เจอ จนต้องนำกลับไปวางไว้ที่เดิม...
       
       4. อุโมงค์ลับใต้มหาวิทยาลัย

         
       มหาวิทยาลัยหลายแห่งในโลกมักมีความเชื่อว่าใต้มหาวิทยาลัยของพวกเขามีอุโมงลับซ่อนอยู่ หลายปีที่ผ่านมาเหล่าบรรดานักศึกษาพยายามที่จะสร้างเรื่องราวต่างๆ ที่จะนำไปสู่เรื่องลึกลับต่างๆ ที่ใครก็หาไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็นห้องใต้ดินสำหรับขังนักโทษ หรือห้องลับสำหรับพิธีบูชายันต์ เป็นต้น ซึ่งตำนานความเชื่อเหล่านี้เป็นที่นิยมมากในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน มีความเชื่อว่า มีห้องใต้ดินสำหรับขังนักโทษ สุดสยองอยู่ใต้มหาวิทยาลัยของพวกเขา แต่นั่นมีความจริงเพียงบางส่วน เพราะมีอุโมงค์ภายใต้มหาวิทยาลัยจริง..แต่เป็นเพียงอุโมงค์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสาธารณนูปโภคของมหาวิทยาลัยเท่านั้น ไม่ใช่อุโมงค์สำหรับกักขังนักโทษแต่อย่างใด ยังมีตำนานและเรื่องเล่าลักษณะเดียวกันที่ มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ ที่มีความเชื่อว่าใต้อาคารเรียนภาษาต่างประเทศในมหาวิทยาลัยมีห้องแห่งความลับ ที่มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซ่อนอยู่คล้ายๆ กับเป็นฐานทัพลับของรัฐบาลอะไรแบบนั้น 
       
       5. มหาวิทยาลัยผีสิง
       
       ตำนานหลอนที่เป็นที่สุดในมหาวิทยาลัย เรื่องเล่าที่มีมานานกว่า 100 ปี ที่เชื่อว่าทุกสถาบันต้องมีวิญญาณที่ผูกพันคอยวนเวียนอยู่แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังมีผู้พบเห็นและบอกเล่าเรื่องราวต่อๆ กันมา โดยส่วนใหญ่จะมีเนื้อเรื่องคล้ายๆ กันคือ 
MulticollaC


         
       ผีหัวขาด
       
       ตำนานเกี่ยวกับผีหัวขาด เป็นหนึ่งในเรื่องเล่าสุดสยองที่นิยมมากที่สุดในมหาวิทยาลัยต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอังกฤษ ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีหัวขาดนี้ยังปรากฎอยู่ที่เมืองอ๊อกซฟอร์ด และเคมบริดจ์ โดยทั้งสองแห่งต่างก็มีตำนานเรื่องผีหัวขาดที่คล้ายกัน คือ
       
        นักศึกษาในเคมบริดจ์เล่าว่าพวกเขาจะเห็นหัวของ “โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ (Oliver Cromwell)" ผู้นำทางทหารและการเมืองของประเทศอังกฤษในตำนาน ที่สามารถยึดครองอำนาจจากกษัตริย์ได้สำเร็จ ภายหลังจากที่ครอมเวลล์ถึงแก่อสัญกรรม ในปี 1658 สถาบันกษัตริย์กลับมามีอำนาจอีกครั้ง เพื่อเป็นการแก้แค้นกษัตริย์ชาร์ลที่ 2 จึงสั่งให้ขุดศพของครอมเวลล์ขึ้นมาตัดหัว ตอน และสับเป็นสี่ส่วน ในตำนานเล่าว่าหัวของครอมเวลล์ ถูกฝังไว้ที่ Cambridge’s Sidney Sussex College ที่ครอมเวลล์เคยเป็นศิษย์เก่า นี่จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่าชวนขนหัวลุกว่าในยามค่ำคืนนักศึกษามันจะพบหัวของเขาลอยไปลอยมาคอยหลอกหลอนผู้คน บริเวณรอบๆ มหาวิทยาลัย เพื่อตามหาร่างและชิ้นส่วนต่างๆ ที่ถูกแยกไปคนละทิศคนละทางนั่นเอง 

         
       ในอีกด้านหนึ่งของเมืองอ๊อกซฟอร์ด ก็ได้มีตำนานเกี่ยวกับผีหัวขาดที่มีความเกี่ยวข้องกันอยู่นั่นก็คือ "ผีของกษัตริย์ชาร์ลที่ 1" แห่งประเทศอังกฤษที่ได้ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ด้วยการตัดศีรษะ โดยการลงนามของ โอลิเวร์ ครอมเวลล์ ผีหัวขาดจากเคมบริดจ์ โดยนักศึกษาเล่าว่าพวกเขามักจะเห็นวิญญาณผีหัวขาดของกษัตริย์ชาร์ลที่ 1 อยู่รอบๆ บริเวณ “วิทยาลัยไครส์ตเชิช (Christ Church College)" ในมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด นั่นเอง
       
        ผีอดีตอาจารย์
       
        อีกหนึ่งตำนานความสยองในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เป็นเรื่องเกี่ยวกับผีของอดีตอาจารย์ที่เคยสอนและมีความผูกพันอยู่กับมหาวิทยาลัย และตำนานที่โด่งดังไปทั่วโลกเกิดขึ้นที่ “มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก (Heidelberg University)" ประเทศเยอรมนี ในยุคของนาซี ที่มีอาจารย์หัวคอมมิวนิสต์ หรืออาจารย์ชาวยิว จะถูกจับตัวไปที่สถานกักกัน และถูกสังหารอย่างเลือดเย็นตามประวัติศาสตร์ที่เราเคยได้ยินมา แต่วิญญาณของพวกเขายังคงกลับมาและวนเวียนอยู่ในที่ทำงานเก่า คอยหลอกหลอนผู้คนมาเป็นระยะเวลานาน โดยนักศึกษาหลายคนเล่าว่า พวกเขาจะไม่ได้เห็นวิญญาณของอาจารย์เหล่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาได้พบเจอก็คือ ขณะที่กำลังนั่งอยู่ในห้องบรรยาย บทเรียนต่างๆ ที่ถูกเขียนด้วยชอล์คอยู่บนกระดานดำได้ถูกลบไปเอง ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้น หรือบางครั้งก็จะมีคำประหลาด ลึกลับ ชวนขนหัวลุก ถูกเขียนขึ้นมาเอง.. 
         
       มีเรื่องเล่าคล้ายๆ กันอยู่ที่มหาวิทยาลัยซินซินแนติ (American University of Cincinnati) ประเทศสหรัฐอเมริกา ตำนานผีศาสตร์จารย์ในยุคแรกๆ ที่ได้เสียชีวิตในปี 1960s ที่ยังคงสิงสถิตย์อยู่ในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในห้องสมุดหนังสือหายาก “Blegen rare book room" ที่นักศึกษาส่วนใหญ่เล่าว่า พวกเขาจะรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนจ้องมองอยู่ตลอดเวลา อยู่ๆ ก็ขนลุกอย่างไม่มีสาเหตุ หรือในช่วงเวลากลางคืน ถ้านักศึกษาคนไหนที่ยังคงนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ อยู่ก็มักจะได้ยินเสียงแปลกๆ แต่ก็หาต้นตอของเสียงไม่ได้..พากันวิ่งป่าราบมาแล้วก็มี
       
        ผีนักศึกษาที่ฆ่าตัวตาย
       
        ถือเป็นเรื่องเล่าและตำนานที่แพร่หลายมากที่สุดในบรรดาเรื่องผีทั้งหมดในมหาวิทยาลัย เพราะเรื่องเล่านี้มักมาจากเรื่องจริง แต่ก็อาจไม่อยู่บนพื้นฐานของความจริงทั้งหมด แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่น่าขนลุกเกี่ยวกับเรื่องราวของนักศึกษาที่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน
       
        ในช่วงศตวรรษที่ 20 มีหญิงสาวคนหนึ่งได้จบชีวิตของเธอด้วยการจมน้ำตาย ในสระว่ายน้ำ ของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สาเหตุการฆ่าตัวตายของเธอนั้นเกิดจากเธอกำลังตั้งท้องทั้งที่อยู่ในช่วงวัยเรียน แฟนของเธอไม่ยอมรับ ปล่อยให้เธอต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง เธอจึงได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายพร้อมกับลูกน้อยในท้องของเธอ นักศึกษาหลายคนเชื่อว่าวิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในสถานที่แห่งนี้ โดยเฉพาะในตึกอาคารเรียนภาษาอังกฤษ จะมีคนพบเห็นเธอบ่อยที่สุด หรือที่ วิทยาลัยเอ็มมานู ในเคมบริดจ์ มีนักศึกษาผู้คอตายภายในวิทยาลัยแม้เวลาจะผ่านมานานหลายปี แต่ก็ยังมีคนเห็นวิญญาณของเขายังคงวนเวียนอยู่ตามทางเดินของอาคารเรียน และคอยหลอกหลอนนักศึกษาใหม่อยู่เสมอๆ 
         
       ในประเทศไทยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับนักศึกษาที่ฆ่าตัวตายด้วยเช่นเดียวกัน โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยบูรพา หอ 50 ปี เทา-ทอง มีนักศึกษาแลกเปลี่ยนจากประเทศจีนฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดตึกลงมาเสียชีวิต สาเหตุมาจากเพื่อนคนจีนด้วยกันก็ไม่คบ แถมยังล้อเรื่องพ่อแม่ที่ป่วย เธอเครียดมากจึงตัดสินใจกระโดดตึกฆ่าตัวตายในที่สุด หลังจากเสียชีวิตไปไม่นาน ความเฮี้ยนของเธอก็เป็นที่ปรากฎ เพื่อนรูมเมทชาวจีนเล่าว่า ได้ยินเสียงคนร้องไห้...เวลาที่อยู่คนเดียวก็มักจะได้ยินเสียงคนเดินไปมา วนอยู่ในห้อง ทำให้ไม่มีใครอยากอยู่ห้องนั้นอีกเลย ต้องนิมนต์พระจีนมาเชิญวิญญาณออกถึงสองครั้งด้วยกัน แต่ตามที่เขาว่ากันไว้ฆ่าตัวตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงวิญญาณของเธออาจวนเวียนอยู่ในที่นี้ต่อไปก็ได้...
       
        ผีคนงานสร้างมหาวิทยาลัย
       
        รูปแบบสุดท้าย...ของเรื่องเล่าสุดสยองในมหาวิทยาลัย คือ ผีของผู้ก่อสร้างวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ วิญญาณของพวกเขายังคงสิงสถิตย์และวนเวียนอยู่ภายในมหาวิทยาลัย นำมาซึ่งตำนานและเรื่องเล่าที่ทั้งเฮี้ยน และหลอนไม่แพ้กัน
       
        นักศึกษาที่มหาวิทยลัยมอสโก ในประเทศรัสเซีย เล่าว่า พวกเขามักจะได้ยินเสียงก่อสร้างดังแว่วมาอยู่เรื่อยๆ และมีคราบหยดเลือดเล็กๆ อยู่ชั้นบนสุดของมหาวิทยาลัย หรือที่มหาวิทยาลัยโตรอนโต ประเทศแคนาดา ก็มีเรื่องเล่าในทำนองเดียวกันนี้ว่า เมื่อปี 1889 มีช่างก่อสร้างตึกที่ถูกฆาตกรรมอยู่ภายในไซต์ก่อสร้าง ซึ่งระหว่างที่เขากำลังจะสิ้นใจ ก็ได้พยายามกระเสือกกระสนเพื่อที่จะช่วยตัวเองให้รอดชีวิตจากการตามฆ่า ทั้งเคาะทั้งทุบประตูเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน คนงานก่อสร้างจึงสิ้นใจอยู่ภายหลังประตู ในเวลาต่อมาประตูนั่นก็ยังคงถูกนำมาใช้ภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ วิญญาณของเขาก็ไม่ไปไหนปรกกฎตัวให้คนได้เห็นอยู่เรื่อยมา
         
       สำหรับมหาวิทยาลัยไทยที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับดวงวิญญาณของคนงานก่อสร้างวนเวียนให้เห็นอยู่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หอชาย (เก่า) ในช่วงที่ใกล้จะสร้างหอเสร็จ มีการติดตั้งลิฟต์ และคืนนั้นมีคนงานกินเหล้ากันตามปกติ จนกระทั่งตี 1 มีคนงานคนหนึ่งตกลงไปที่ชั้นล่างใต้ลิฟต์แล้วปีนขึ้น มาไม่ได้ เพราะความเมา จึงถูกลิฟต์ทับเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากที่หอเปิดได้ไม่นานก็มีนักศึกษาเข้าอยู่เต็ม และหอนี้ไม่เคยปิดเป็นเวลา จึงมีนักศึกษาเข้า-ออกเป็นประจำ จนตี 2 ของคืนหนึ่ง มีนักศึกษากลับมาจากข้างนอกแล้วเดินขึ้นลิฟต์ตามปกติ หลังจากกดชั้นที่พัก ลิฟต์ก็เคลื่อนที่ไปได้สักพักแล้วก็หยุด พร้อมๆ กับไฟดับและมีเสียงร้องดังออกมาข้างนอก จากนั้นลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมฝุ่นตลบ มีเสียงใครคนหนึ่งตะโกนว่าอย่ายืนทับที่ หลังจากนั้นก็มีการทำบุญหอกันมาทุกๆ ปี... 
       
       เรื่องต่างๆ ที่ถูกเล่าขานขึ้นแม้หลายเรื่องจะพิสูจน์ไม่ได้ว่าเกิดขึ้นจริง หรือเป็นเรื่องจริงแต่ก็ได้มีการแต่งเติมให้เรื่องราวดูน่ากลัวและน่าสยดสยองมากยิ่งขึ้น แต่ตำนานความสยองเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยของนักศึกษาทั่วโลก ที่ได้ถูกถ่ายทอดมาจากรุ่นพี่มาสู่รุ่นน้อง ที่จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในทุกมหาวิทยาลัยจากทั่วทุกมุมโลกจะต้องมีเรื่องเล่าชวนสยองเป็นของตัวเอง ซึ่งรูปแบบทั้งหมดก็มักจะเกิดขึ้นจากกฎทั้ง 5 ข้อที่เรานำมาให้ชมในวันนี้นั่นเอง...

โพสต์โดย : nampuengeiei9760