10 ความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมุนษย์ชาติ
ในโลกอันกว้างใหญ่ที่มีผู้คน ละสัตว์ต่างๆมากมาย หลากหลายสายพันธุ์ ต่างก็มีทั้งเหตุการณ์ที่ดี และ "แย่" และในวันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านทุกคน ย้อนไปพบกับ "ความผิดพลาด" ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้นเลย และที่มันเกิดก็สร้างความเสียหายอย่างประเมินค่ามิได้ และเราก็รวบรวมเหตุการณ์เหล่านั้น มาให้ได้อ่านกันในหัวข้อ "10 ความผิดพลาดที่ไม่น่าเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของมุนษย์ชาติ "
ถือเป็นอีกโศกนาฏกรรมที่ทั้งโลกต้องจดจำเกี่ยวกับ "Titanic" เรื่อที่ได้รับการกล่าวขานอย่างยิ่งใหญ่ว่า "ไม่มีวันจม" ด้วยฉายานี้เองทำให้ลูกเรือทุกคนไม่ได้รับการฝึกซ้อมหากเกิด "เหตุ" และเรือบด หรือเรือช่วยชีวิตมีทั้งหมด 32 ลำ แต่โดนเอาออกไป 12 ลำ จึงเหลือเรือบดเพียงแค่ 20 ลำ ทำให้จำนวนผู้ที่จะรอดชีวิตก็ลดลงไปด้วย และการเดินทางครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของเรือที่ไม่มีวันจม เกิดขึ้นใน วันที่ 15 เมษายน 1912 ในช่วงเวลา 23:39 นาฬิกา มีการแจ้งเตือนว่าพบภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา และแจ้งให้หักหลบ แต่ด้วยขนาดของหางเสือเมื่อเทียบกับเรือสำราญขนาดยักษ์ไม่เพียงพอ บวกกับความไม่คุ้นชินผู้บังคับเรือ ทำให้ทุกอย่างผิดพลาด และชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งลูกนั้น และจมลงในเวลาต่อมา มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,514 คน และรอดชีวิต 710 คน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้โลกสูญเสียผู้มีชื่อเสียงไปมากมาย ถือเป็นการปิดตำนานของเรือที่ไม่มีวัน "จม" ลงในครั้งแรกที่มันออกเดินทาง
9.NASA ลบเทปต้นฉบับในปฏิบัติภารกิจเหยียบดวงจันทร์
ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าเป็นความผิดพลาดที่ "ราคาแพง" NASA หนึ่งในองค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกด้าน "อวกาศ" มีเงินทุนมากมายไหลเวียนอยู่ในองค์กร แต่ดันพลาด เพียงเพราะต้องการนำ "เทป" กลับมาใช้ใหม่ ก็เลยดันลบเทปตัวจริงในที่บันทึกการไป "ดวงจันทร์" ของยานอพอลโล่ 11 โดยทั้ง 45 ม้วน โดน "อัดทับ" ไปเรียบร้อยโรงเรียน
8.การขาย Alaska ของรัสเซีย
ถือเป็นสิ่งที่ชาวรัสเซีย และนักประวัติศาสตร์ไม่น้อยที่ไม่ชอบการตัดสินใจในการขาย Alaska ของพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 โดยสมัยนั้นทางรัสเซียไม่อยากจะเสียงบประมาณในการดูแล Alaska ที่ต้องใช้งบประมาณสูง และไม่เห็นว่า Alaska จะมีทรัพยากรอะไรเลย (เทคโนโลยไม่ได้ทันสมัยเหมือนปัจจุบัน) จึงตัดสินใจขายไปในราคา 7 ล้าน 2 แสนดอลล่าร์ โดย Alaska มีพื้นที่มากถึง 1 ล้าน 5 แสนตารางกิโลเมตร แน่นอนว่าประเทศที่ซื้ออย่างอเมริกา ในยุคนั้นก็โดนด่าไม่น้อย เพราะไม่แน่ว่า Alaska อาจจะไม่มีอะไรเลยนอกจาก "น้ำแข็ง" และ "ความหนาว" แต่ต่อมาก็มีการค้นพบทั้งทองคำ และน้ำมัน รวมไปถึงก๊าซธรรมชาติอีกมากมายมหาศาลอีกด้วย ถือเป็นความผิดพลาดของรัฐเซียอย่างที่สุด
แน่นอนจะไม่มีเรื่อง "Trojan horse" หรือม้าเมืองทรอยได้อย่างไร โดยเจ้าม้าขนาดใหญ่ที่สร้างจากไม้ เป็นกลอุบายของ "โอดิสเซียส" ที่จะทำให้สามารถบุกเข้าเมืองทรอยที่มีปราการอังแข็งแกร่ง ไม่สามารถทำลายลงได้อย่างง่ายดาย เป็นเหตุให้การรบที่ยืดเยื้อมากกว่า 10 ปี โดยกลอุบายก็คือ สร้างม้าไม้ขนาดยักษ์ และนำทหารกล้าเข้าไปอยู่ในม้า และก็เข็นไปตั้งไว้หน้ากำแพงของเมืองทรอย และทำเป็นล่าถอยหนี ทำใหห้ชาวทรอยคิดว่าตนเองนั้นชนะแน่นอนอยู่แล้ว พอเห็นม้าไม้ยักษ์ ก็คิดไปว่าศัตรูของตนสร้างเพื่อบูชาเทพเจ้า แต่ไม่ได้คิดถึงกลอุบายใดๆ ทั้งสิ้น จึงลากม้ายักษ์เข้าไปในเมือง แลเริ่มฉลองชัยชนะ แน่นอนตกดึกทหารกรีกที่ซ่อนอยู่ในม้า ก็ลงมาเผาเมือง และปล้นเมืองทรอยอย่างง่ายดาย เรียกว่าพาศัตรูเข้าเมืองด้วยตัวเองเลยทีเดียว
6.ความผิดพลาดในการสังหาร Archduke Franz Ferdinand
เป็นการที่เรียกว่า "ผิดพลาดอย่างมหันต์" ของฆาตกนนามว่า "Gavrilo Princip" ซึ่งเขาเป็นชาวบอสเนียเซอร์เบีย ซึ่งพยายามจะบังคับให้ทางออสเตรียยกดินแดนชายแดนภาคใต้ส่วนหนึ่งของออสเตรีย มาเป็นของเซอร์เบีย และประจวบเหมาะกับคนขับรถของ Archduke Franz Ferdinand หลงทาง และดันไปเจอกับฆาตกรพอดิบพอดี และทำให้ Archduke Franz Ferdinand โดน นาย Gavrilo Princip ฆ่าตาย และนี้เองก็เป็นฉนวนและนำไปสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่มีคนตายมากกว่า 16 ล้านคน เรียกได้ว่ากระสุนที่นาย Gavrilo ลั่นออกไป คร่าชีวิตผู้คนไปมากมายเลยทีเดียว
5.การโจมตีอ่าว Pearl Harbor ของ จักรวรรดิญี่ปุ่น
ถือเป็นการตัดสินใจที่ผิดอย่างใหญ่หลวง ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังทำการรุกราน "จีน" ซึ่งในขณะนั้นทางการจีนได้ขอความช่วยเหลือจาก "ลุงแซม" เพราะเห็นอเมริกาเป็นมหาอำนาจที่สามารถถ่วงดุลอำนาจของ จักรวรรดิญี่ปุ่นได้ แต่อเมริกาไม่ยอมเข้าร่วมสงคราม เพียงแต่ประกาศงดการส่งออกไปยังญี่ปุ่นเท่านั้น และเรียกร้องให้ทางจักรวรรดิญี่ปุ่น "ถอน" ทหารออกจากจีน จากการหยุดการ "ส่งออก" ทำให้จักรวรรดิญี่ปุ่นขาดสิ่งบำรุงที่จะทำให้สามารถรุกรานจีนได้ต่อไป ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง จักรวรรดิญี่ปุ่น และ อเมริกาขาใหญ๋ แต่แน่นอนว่าลุงแซมยังไม่เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ แต่แล้วการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็เกิดขึ้น ญี่ปุ่นส่งกองเรือ "บรรทุกเครื่องบิน 6 ลำ" และส่งเครื่องบินขับไล่ และเครื่องบินตอร์ปิโด 353 ลำ โจมตี เป็นเหตุให้เรือรบของกองทัพอเมริกา ทั้ง 8 ลำ เสียหายทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตถึง 2,403 คน บาดเจ็บนับพัน และสถานที่มากมายเสียหายมากมาย โดยฝ่ายจักรวรรดิญี่ปุ่นเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และหลังจากนั้นอเมริกาก็ "กระโจน" เข้าสู่สงครามแบบเต็มตัว เป็นเหตุญี่ปุ่นแพ้สงครามในที่สุด และการโจมตีในครั้งนั้นของจักรวรรดิญี่ปุ่นถูกตัดสินให้เป็น "อาชญากรรมสงคราม" เพราะไม่มีการแจ้งเตือนล้วงหน้านั้นเอง
4.การระเบิดของ Chernobyl Nuclear Power Plant
โดยเราสามารถที่จะเรียกเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า "ภัยพิบัติเชอร์โนบิล" มันเป็นอุบัติเหตุทาง "นิวเคลียร์" ที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งเกิดเหตุในวันที่ 26 เมษายน 1986 โดยเหตุเกิดจากการทดสอบการทำงานของ "ระบบหล่อเย็น" รวมไปถึง "ระบบทำความเย็นฉุกเฉินของแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์" แต่ในการทดสอบในครั้งนั้นเกิดความล่าช้า การทดสอบลากยาวจนมาถึงกลางคืน วิศกรในกะกลางคืนต้องทำหน้าที่แทน และในขณะที่ทดสอบ ก็ได้เกิด "แรงดันไอน้ำ" สูงขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ความผิดพลาดก็คือ ระบบการทำงานอัตโนมัติมันดันไม่ทำงานตามที่ควรจะเป็น และแน่นอนในเวลาต่อมาแกนปฏิกรณ์หมายเลข 4 เกิดการหลอมละลาย และระเบิดในเวลาต่อมา เกิดขี้เถ้าที่ปนเปื้นกัมมันภาพรังสีมากมายที่พวยพุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ปกคลุมไปทั่วทั้งตะวันตกของสหภาพโซเวียต รวมไปถึงยุโรปตะวันออก ตะวันตก และทางเหนือ ต้องอพยพผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขตใกล้เคียงกว่า 336,000 คน ออกในทันที โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุความรุนแรงระดับ "7" ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดของ "มาตราระหว่างประเทศว่าด้วยเหตุการณ์ทางนิวเคลียร์" เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในฟุกุชิมะไดอิชิ ในปี 2011 เช่นเดียวกัน
3.สำนักพิมพ์ทั้ง 12 ที่ปฏิเสธ Harry Potter
ถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรงสำหรับสำนักพิมพ์ทั้ง 12 ที่ปฏิเสธ วรรณกรรมเด็กที่ขายดีที่สุดในโลกในเวลาต่อมาอย่างไม่ใยดี โดยเหตุผลส่วนใหญ่ก็เพราะว่า "JK Rowling" เอง เธอไม่ได้เป็นคนดัง หรือนักเขียนที่มีคนรู้จัก แน่นอนว่าเป็นธรรมดาที่จะโดนปฏิเสธ และบรรณาธิการส่วนใหญ่พวกเขาใช้ความคิดของ "ตนเอง" เป็นหลัก เหตุที่ปฏิเสธ Harrt Potter และคิดว่ามันจะขายไม่ดี ก็เพราะพวกเขาอาจจะไม่ชอบ "วรรณกรรมเด็ก" ต่างจากสำนักพิมพ์ Bloomsbury Publishing ที่ประธานเขานำต้นฉบับไปให้ลูกสาวอ่าน และแน่นอนลูกสาวเขาชอบมาก เขาไม่รอที่จะ "พิมพ์" และแน่นอนว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามเลยทีเดียว และหากเป็นเวลานี้ ไม่ว่า "JK Rowling" จะเขียนอะไร สำนักพิมพ์ทั้ง 12 ก็น่าจะพิมพ์อย่างไม่ลังเล และไม่สนใจเนื้อหาแน่นอน
เหตุการณ์ลอบสังหารจูเลียส ซีซาร์ นั้นถือเป็นต้นเหตุให้เกิดการล้มสลายของ "จักรวรรดิโรมัน" โดยในการสมคบคิดการลอบสังหาร เกิดขึ้นจาก กลุ่มสมาชิกวุฒิสภาโรมัน หลายต่อหลายคนที่เรียกตัวเองว่า "Liberator" หรือ "ผู้ปลดปล่อย" โดยกลุ่ม Liberator เชื่อว่า "ซีซาร์" จะโค้นล้มวุฒิสภา แล้วตั้งตนเป็น "ทรราช" แทน จึงร่วมกันลงมือสงหารโดยใช้ "ดาบ" แทงจนเสียชีวิต ในสถานที่ติดกับโรงละครปอมปีย์ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือเหล่า Liberator ไม่ได้ทำการฟื้นฟูสาธารณรัฐโรมันเลย ทำให้มีเหตุการณ์ที่ตามมาก็คือ "สงครามกลางเมืองผู้ปลดปล่อย" โดยเป็นการรบระหว่างกองกำลังของ "มาร์ค แอนโทนี่" และ "ออกเตเวียน" ซึ่งรบกับกองกำลังของวุฒิสมาชิกที่สังหารซีซาร์นั้นก็คือ "มาร์คัส จูนิอัส บรูตัส" และ "ไกอัส แคสซิอัส ลอนไจนัส" และตามมาด้วยการกำเนิดจักรวรรดิโรมันในบั้นปลาย
1.กองทัพออสเตรีย ยิงกันเอง
มีสงครามที่เรียกกันว่า "ในสงครามคารันเซเบส" (Battle of Kar?nsebes) โดยเป็นสงครามที่รบกันระหว่าง "ออสเตรีย" และ "ตรุกี" โดยในปี 1788 ในระหว่างที่กองทัพออสเตรียเคลื่อนพลไปทำสงคราม ได้ตั้งค่ายพักแรม และส่งกองทหารออกไปเพื่อสำรวจกองกำลังของทหารตรุกี ในระหว่างที่เดินทางไปดูลาดเลา กองทหารก็ได้แวะดื่มเหล้ากัน และในเวลาต่อมากองทัพใหญ่ที่เดินตามมา เพื่อที่จะไปสมทบกับแนวหน้าที่ส่งออกมาก่อนแล้ว ก็เกิดการเข้าใจผิดคิดว่าเป็นศัตรูกัน ก็เลยเข้าปะทะกัน เป็นเหตุให้มีทหารล้มตายกว่า 10,000 คน แน่นอนว่าไม่มีแม้แต่เงาของทหารตรุกีเลย เป็นทหารของ "ออสเตรีย" ล้วนๆ นับเป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยจริงๆ
โพสต์โดย : nampuengeiei9760
