ยโสธรสร้างพญานาคกับพญาคันคาก สืบสานตำนานบุญบั้งไฟ วิมานพญาแถน เพื่อปรับภูมิทัศน์บริเวณริมลำน้ำทวนฝั่งขวา มีอาคารพิพิธภัณฑ์พญาคันคากและพญานาคตามตำนานประเพณีบุญบั้งไฟเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมและเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ท่างวัฒนธรรมคนอีสานในอดีตการจนปัจจุบัน โดยต้องใช้งบกลุ่มพัฒนาจังหวัดฯ กว่า 100 ล้านบาท
วันที่ 22 พ.ค. นายประวัติ ถีถะแก้ว ผวจ.ยโสธร กล่าวว่า จ.ยโสธร เป็นจังหวัดขนาดเล็ก มีพื้นที่ประมาณ 4,161 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 5 แสนคนเศษ เป็นอีกจังหวัดหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นดินแดนที่แห้งแล้ง ทุรกันดารของประเทศ แต่ในทางตรงกันข้าม “ยโสธร” เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีความโดดเด่นท้าทายความแห้งแล้งในผืนดินแถบนี้ ตนจึงมีแนวความคิดสร้างวิมานพญาแถน แต่สมัยเป็นรองผู้ว่าฯ ยโสธร กำหนดจุดที่บริเวณริมลำน้ำทวน ด้านหลังเรือนจำ จ.ยโสธร เขตเทศบาลเมืองยโสธร ซึ่งเป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการวิมานพญาแถน มีการวางผังใช้พื้นที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ลำน้ำทวนฝั่งขวาโครงการก่อสร้างอาคารพญาคันคาก หรือ คางคก และอาคารพญานาค ตามโครงการ “วิมานพญาแถน” ตามตำนานประเพณีบุญบั้งไฟของ จ.ยโสธร โดยใช้งบประมาณกลุ่มพัฒนาจังหวัดฯ ดำเนินการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กว่า 100 ล้านบาท
นายประวัติ กล่าวว่า ทาง จ.ยโสธร จะได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการโดยการสร้างยังไม่แล้วเสร็จ เหลือเฉพาะตกแต่งภายในพญาคันคาก ที่โยธาและผังเมืองออกแบบอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 5 ชั้น ซึ่งหากเสร็จ รอบทางขึ้นจะใช้เป็นสถานที่เก็บเรื่องราวทางประวัติศาตร์คนอีสาน โดยเฉพาะชาวยโสธร ในตำนานเอาบุญเดือนหกด้วยการทำบั้งไฟจุดขอฝน ในตำนานก็จะมี “พญาคันคาก พญานาค พญาแถน” เข้ามาเกี่ยวข้องในตำนานเป็นความเชื่อของชาวอีสาน และอีกตำนานหนึ่งก็จะมีตำนาน “ผาแดงนางไอ่” ชาวอีสานจะทำบั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน ถึงปลายเดือนห้าย่างเดือนหก ชาวบ้านก็จะแสดงออกถึงความสามัคคี ร่วมกันทำบั้งไฟจุดขึ้นไปแจ้งพญาแถนเพื่อให้บันดาลให้ฝนตกถูกต้องตามฤดูกาล เพื่อชาวโลกมนุษย์จะใช้น้ำฝนทำนา
เป็นไปตามตำนานเล่าสืบทอดกันมา พญาคางคก พญานาค รวมไพร่พลยกทัพขึ้นไปรบชนะพญาแถน และได้ทำสัญญา(MOU) สงบศึกหากถึงฤดูกาลทำนา โลกมนุษย์จะส่งสัญญานแจ้งพญาแถนด้วยการจุดบั้งไฟขึ้นท้องฟ้า และเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโลกมนุษย์ก็จะใช้เสียงสนูจากว่าวแจ้งให้พญาแถนทราบ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวบ้าน
นายสุรศักดิ์ เจริญพันธ์ โยธาธิการและผังเมือง จ.ยโสธร กล่าวว่า สำหรับโครงการวิมานพญาแถนที่ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ริมลำน้ำทวนฝั่งขวา ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงขณะนี้พบว่าบริเวณที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ลำน้ำทวนฝั่งขวา ระยะที่ 1 ได้ดำเนินการไปเสร็จสิ้นแล้วเมื่อปี 2553 ด้วยงบประมาณ จำนวน 3,990,000 บาท โดยส่วนใหญ่จะเป็นการปรับภูมิทัศน์ปลูกต้นไม้ จัดสวนหย่อม ศาลาพักผ่อน ตลอดจนห้องน้ำห้องสุขาในส่วนของการก่อสร้างอาคารพญาคันคาก และอาคารพญานาค รูปปั้นคณะนางรำเซิ้ง คณะกลองยาว สัตว์เลี้ยง วัว ควาย บั้งไฟล้านแบบโบราณ อยู่ริมถนนคนเดินด้านหลังพญาคันคาก ที่หันหน้าลงลำน้ำทวน ซึ่งจุดนี้มีประชาชนชาวยโสธร จะพาลูกหลานไปชมและบันทึกภาพไว้ป็นที่ระลึก
นายเกียรติภูมิ โคตรสมบัติ อายุ 45 ปี เผยไปรับลูกสาวจาก รร.อนุบาล 2 คน แวะมาดูวิมานพญาแถน 
นายอุดม เวชกามา อายุ 19 ปี นักเรียน ปวส.แผนกก่อสร้างวิทยาลัยเทคนิคยโสธร กล่าวว่า วันนี้เลิกเรียนตนได้ชวนเพื่อนร่วมชั้นมาดูวิมานพญาแถน และพญานาคอันดับแรกต้องการมาดูงานด้านสถาปัตยกรรม เพราะการก่อสร้างพญาคันคากเป็นงานฝีมือทำยากกว่าสร้างบ้าน ทั้งการว่าโครงสร้างภายนอกและตกแต่งภายใน รองลงมาตนและเพื่อนมาศึกษาตำนานความเป็นมาบุญบั้งไฟ หรือบุญเดือนหกของชาวยโสธร เพื่อใช้เวลาว่างเรียนให้ได้ประโยชน์ตนจะชวนเพื่อนมาดูงานก่อสร้างทุกวันจนกว่าจะแล้วเสร็จ ถือโอกาสฝึกงานไปในตัว จากการที่ตนดูขณะนี้ก็กำลังดำเนินการก่อสร้างซึ่งคาดว่าอีกไม่นานก็คงจะแล้วเสร็จ
นายสุรศักดิ์ เจริญพันธ์ กล่าวว่า งานก่อสร้างอาคารพญาคันคาก ใช้งบประมาณก่อสร้าง จำนวน 18,900,000 บาท ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ตัวอาคารกว้าง 19 เมตร สูง 21 เมตร(5 ชั้น) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศทุกชั้น พร้อมให้บริการลิฟต์ขึ้นลงสะดวกสบายส่วนอาคาร พญานาค ใช้งบประมาณ จำนวน 44,800,000 บาท ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ มีความยาวพญานาค 150 เมตร สูง 30 เมตร โดยภายในจะมีการตกแต่งเป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการวิมานพญาแถน สืบสานตำนานบุญบั้งไฟ ประวัติความเป็นมาของวิถีอีสานตามตำนานบุญบั้งไฟภายในตัวพญานาคและพญาคันคาก ใช้งบประมาณ จำนวน 29,830,000 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดเตรียมเอกสารและนัดประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้างเพื่อพิจารณาขอบข่ายและแนวทางการทำงานตามข้อกำหนดของสัญญาจ้าง และโครงการก่อสร้างประติมากรรมขบวนแห่บั้งไฟ ซึ่งได้ดำเนินการก่อสร้างจนเสร็จสิ้นแล้วด้วยงบประมาณ จำนวน 4,950,000บาท
นายสุระสิทธิ์ สิงห์หลง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร กล่าวว่า ได้งบก่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เชื่อมโยงกับงานประเพณีบุญบั้งไฟชาวยโสธร จากกลุ่มพัฒนาจังหวัดฯ ประกอบด้วย จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ มุกดาหาร จ.อุบลราชธานี แต่ละจังหวัดดังกล่าวจะนำงบประมาณจาก การท่องเที่ยวและกีฬา ไปพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแต่ละจังหวัดเป็นจุดขาย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
นายสถิรพร นาคสุข นายก อบจ.ยโสธร เท่าที่ตนสังเกตเวลานั่งรถผ่านช่วงลำน้ำทวนมองมาฝั่งเมือง ซึ่งจะมองเห็นสิ่งแปลกใหม่คือตัวอาคารพญาคันคาก และอาคารพญานาค ตั้งตระหง่านอยู่ริมฝั่งลำน้ำทวนถ้ามองจากถนนแจ้งสนิทด้านหน้าสวนสาธารณะพญาแถนจะมองเห็นอย่างชัดเจนสวยงามอยู่ริมฝั่งน้ำ ซึ่งงานประเพณีบุญบั้งไฟ จ.ยโสธร ประจำปี 2559 งานก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์จะมีนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจเดินทางมาเที่ยวชมจำนวนมาก ปัจจุบันแม้จะยังไม้แล้วเสร็จ พบว่ามีชาวยโสธร โดยเฉพาะช่วงบ่ายๆ หลังเลิกงาน และเลิกเรียนก็จะมีผู้คนเหล่านี้แวะเวียนมาดู หลายคนบอกเคยเห็นในนิทานตำนานบุญบั้งไฟ คาดว่าหลังก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะมีนักท่องเที่ยว มาชมความงามพญาคันคาก และพญานาคจำนวนมาก ในส่วนของ อบจ.ยโสธร ก็ได้พัฒนาห้วยกุดกระเหลิบ กว่า 10,000 ไร่ กินพื้นที่ ต.หนองหิน ต.หนองเป็ด อ.เมือง จ.ยโสธร เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ติดกับวัดป่าหนองไคร้ วัดพระครูสุมน สารคุณ(หลวงปู่ประสาร สุมโน)ท่านให้บรรยากาศธรรมชาติอบรมรักษาลูกหลาน หมู่บ้านต่างๆ ที่ติดยาเสพติด
