10 อันดับสิ่งที่วิญญาณชอบสิงสถิต
“วิญญาณ” ในศาสนาพุทธ ใช้หมายถึงพิชาน คือความรู้แจ้งอารมณ์ พระไตรปิฎกระบุว่าพระพุทธเจ้าทรงจำแนกวิญญาณออกเป็น 6 ประเภท จักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ มโนวิญญาณ และ คำว่า “วิญญาณ” ยังถือเป็นคำไวพจน์ของคำว่าจิต มีความหมายเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ และ วิญญาณ ในที่นี้หมายถึง จิต ที่ได้หลุดออกร่างกายในขณะที่ไม่มีสติ อาจจะทั้งในขณะที่นอนหลับ หรือ ตาย “วิญญาณ” เมื่อหลุดลอยไปแล้วหากได้มีการทำพิธีกรรมทางศาสนาอย่างถูกต้อง วิญญาณก็จะได้ถูกปลดปล่อยไปยังภพภูมิ แต่ลองคิดกลับกัน หากวิญญาณนั้นเกิดจากร่างกายที่ตายโหง ไร้ผู้เหลียวแล โดยเฉพาะในอดีตที่เกิดสงคราม และฆ่ากันตายอย่างทารุณ แล้วใครจะเป็นคนส่งดวงวิญญาณเหล่านั้น แล้วถ้าหากไม่ได้ทำพิธี วิญญาณเหล่านั้นไปอยู่ที่ไหน ลองมองไปรอบๆ ตัวคุณดูสิอาจจะมีวิญญาณที่เรามองไม่เห็นก็ได้ วันนี้จึงนำ 10 อันดับสิ่งที่วิญญาณชอบสิงสถิต มาให้ทุกคนลองพิจารณารอบๆ ตัวกับสถานที่เหล่านี้กัน
10. ตู้เสื้อผ้า
หลายคนอาจจะชอบตู้เสื้อผ้าที่ดูเก่าออกแนววินเทจ เพราะมันดูมีความลึกลับและน่าค้นหาแต่ใครจะรู้ว่าตู้เสื้อนั้นทำมาจากอะไร ตู้เสื้อผ้าส่วนใหญ่มักทำมาจากไม้และที่มาของไม้นั้นอาจจะมาจากไม้ที่เคยใช้ทำโลงศพมาแล้วก็เป็นได้ หรือบางทีมีลูกมีหลานไปเล่นซ่อนแอบในตอนกลางคืนในตู้เสื้อผ้าแต่กลับโดนผีบังตาออกมาไม่ได้แล้วเกิดขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในนั้น สาเหตุทั้งหมดที่ถูกกล่าวมาอาจเป็นเหตุผลของวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ในตู้เสื้อผ้า
9. ห้องน้ำ
เคยสังเกตไหมหนังผีส่วนใหญ่มักจะมีฉากในห้องน้ำ การได้ยินเสียงหยดน้ำ เสียงน้ำที่ไหล เสียงเหล่านี้จะยิ่งเพิ่มความวังเวงของฉากๆ นั้นเข้าไปอีก เคยลองสังเกตไหมว่าในขณะที่คุณอาบน้ำคุณแน่ใจหรือว่าคุณอยู่คนเดียว คุณคงไม่รู้หรอกว่าอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจ้องมองคุณอยู่ แม้จะเคยมีคนบอกว่า “ผี” จะไม่อยู่ในห้องน้ำหรือในที่สกปรก แต่หากไม่มีเรื่องราวอยู่จริง คนทำหนังจะสร้างหนังออกมาได้อย่างไรไม่เชื่อ ลองกลับไปดูที่ห้องน้ำบ้านคุณนะค่ะ
8. ใต้เตียง
ใต้เตียง ก็เป็นอีกที่ที่หนึ่งไม่ว่าใครก็กลัว ไม่กล้าจะชะโงกหน้าลงไปดู และจินตนาการจากฉากหนึ่งในหนังที่จะมี “ผีค่อยๆ คลานออกมาจากใต้เตียง ละค่อยๆ กระตุกขา” มันมักจะผุดเข้ามาในหัวเสมอ หากห้องนอนคุณเป็นเตียงทึบก็อย่าได้ชะล่าใจไป เพราะมันน่ากลัวกว่าเตียงโปร่งซะอีก คุณไม่มีทางรู้เลยว่าด้านล่างของเบาะนุ่มๆ ที่นอนอยู่มันแอบซ่อนอะไรอยู่ในนั้น
7. รูปปั้น ตุ๊กตา
พูดถึงรูปปั้น หรือ ตุ๊กตา ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนคน คนบางคนอาจจะมองว่ามันน่ารัก แต่ความน่ารักก็อาจจะแฝงไปด้วยความน่าสะพรึงกลัวก็ได้ ยิ่งรูปร่างหน้าตาตุ๊กตาเหมือนลักษณะของคนเท่าไหร่ วิญญาณก็อาจจะเข้าไปสิงสถิตอยู่ในนั้น มันคงเหมือนกับการได้กลับเข้าร่างของตัวเอง คืนนี้อย่าลืมสังเกตรูปปั้น หรือตุ๊กตา ที่บ้านคุณดูนะ เผื่อบางทีมันอาจจะมีชีวิตในเวลากลางคืนก็ได้
6. คน
วิญญาณ หรือที่เราเรียกเขาว่า “ผี” ส่วนใหญ่ในอดีตล้วนแล้วเคยเป็นคนกันทั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่ วิญญาณเหล่านั้นจะอยากกลับมามีรูปร่างที่แตะต้องได้ มีรูปร่างเป็นคนอีกครั้ง เพราะฉะนั้น “คน” คือที่สิงสถิตที่วิญญาณอยากจะเข้าไปอยู่ที่สุด แต่คงไม่ง่ายนักที่เข้าไปสถิตได้ถาวร ในเมื่อร่างนั้นก็มีวิญญาณเป็นของตัวเองเช่นกัน การสิงสถิตที่เราเคยได้ยิน หรือได้เห็นมาในหนัง หรือเรื่องเล่าต่างๆ
ส่วนใหญ่จะเกิดกับคนที่กำลังมีสภาวะตกต่ำ จิตตก เศร้าหมอง ไม่ว่าการสิงสถิตในร่างคนจะเป็นการมาขอความช่วยเหลือ หรือจะตามมาแก้แค้นก็ตาม คงไม่มี ใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเองและคนที่รัก ฉะนั้นคุณอย่าลืมที่จะรักษาร่างให้มีสติและรักษาสภาพจิตใจของตัวเองไว้ให้ดีๆ ก่อนจะมีวิญญาณมายืมร่างของคุณไป
5. พาหนะ
หากพูดถึงวิญญาณกับรถยนต์ เราคงคิดถึงเรื่องราวของรถมือสองในทันที ไม่แปลกเลยที่ทุกคนคิดแบบนั้น เพราะในขณะที่เราไปซื้อรถที่เต้นท์รถมือสอง เราไม่มีทางรู้เลยว่าก่อนรถคันนั้นที่จะมาเป็นของเรา เจ้าของเก่าเป็นใคร และรถคันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง อาจจะชนคนตาย หรือมีคนตายในรถ แน่นอนว่าวิญญาณอาจจะยังไม่ไปไหน อาจจะยังอยู่ในรถคันนั้นก็ได้นะคะ
4. ต้นไม้
อีกสิ่งนึงที่คิดได้เมื่อพูดถึงเรื่องผีๆ คงไม่พ้น “ต้นไม้” เมื่อพบเจอต้นไม้ใหญ่ เก่าแก่โบราณ คนไทยมักจะนำผ้า 3 สีไปผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ความเคารพบูชา และเรามักได้ยินเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับ เทพารักษ์และนางไม้ เทพารักษ์ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเทพที่รักษาต้นไม้ ป่าเขา แต่นางไม้ เรายังคงบอกไม่ได้ว่าเธอเป็นเทพ หรือ ผี กันแน่ แต่เราก็คงได้ยินเรื่องราวของผีสาวจากต้นไม้ ที่มีความเฮี้ยนมาให้สั่นประสาทอยู่เสมอ ระวังให้ดีหลังบ้านคุณมีต้นไม้ที่มีผีสาวสิงสถิตอยู่หรือไม่ จะลองพิสูจน์ดูก็ได้นะค่ะ
3. เสากลางบ้าน
หากให้นึกถึงบ้านของคนไทย ในสมัยก่อนก็คงไม่พ้น ภาพบ้านเรือนไทยโบราณ มีใต้ถุนบ้าน แบบนั้นใช่ไหมคะ แน่นอนว่าบ้านเรือนไทยจะต้องทำมาจากไม้ แต่เรื่องราวของบ้านเรือนไทยโบราณนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะเรื่องราวของเสากลางบ้าน เสาตกน้ำมันนั่นเอง หากบ้านไหนมีการตกน้ำมันของเสาเรามักจะมีความเชื่อว่าเสาต้นนั้นเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณ ที่อาจจะเพิ่งเข้าไปอยู่ หรืออาจจะมากับต้นไม้ต้นนั้นนั่นเองค่ะ
2. บ้านร้าง
บ้านใหม่ก็มากมี บ้านเก่าก็มีมาก ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา คนเก่าล้มตาย คนใหม่เกิดมา เรื่องนี้คงไม่มีใครหนีพ้นแน่นอน เพราะฉะนั้นการที่คนเก่าแก่ได้ลาลับไป ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะจากไปจากบ้านหลังนั้น บ้านหลังเก่าที่ยังคงอยู่ที่เดิม ไม่มีใครอยู่ จนกลายเป็นบ้านร้าง บ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่มานานนับสิบๆ ปี แน่นอนว่าที่แห่งนี้เป็นที่ๆ เหล่าวิญญาณต้องการมาสิงสถิต โดยเฉพาะวิญญาณที่เคยเป็นผู้อยู่ ณ ที่แห่งนี้ เขาจะหวงแหนในสิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา ไม่ว่าจะภพใด ชาติใด บ้านของเขาก็จะไม่ตกเป็นของใครแน่นอน
1. ทางสามแพร่ง
ทางสามแพร่ง ตามความเชื่อของคนโบราณ ซึ่งในสมัยก็ยังคงเชื่อกันอยู่ เชื่อว่ามันเป็นทางผ่านของภูตผี สัมภเวสีต่างๆ ใช้เดินผ่านกัน อีกทั้งยังเป็นสถานที่ที่คนสะเดาะเคราะห์นิยมเอาสิ่งของที่เชื่อว่าเป็นเคราะห์ของตัวเองไปวางไว้ตรงทางสามแพ่ง จึงเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ไม่เป็นมงคล คนไทยโดยส่วนใหญ่จึงเลี่ยงที่จะปลูกบ้านตรงทางสามแพ่ง กลับทำเป็นศาลเล็กที่มีเครื่องเซ่นตั้งอยู่มากมาย และมักจะเคยได้ยินเรื่องราวของคนที่สร้างบ้านตรงทางสามแพร่งเสมอว่า การใช้ชีวิตอยู่จะพบเจอกับอาถรรพ์แปลกๆ จนบางครั้งอาจจะตายกันหมดบ้านเลยก็ได้ น่ากลัวขนาดนี้ทีมงานยกให้ทางสามแพร่งเป็นอันดับหนึ่งของสิ่งที่วิญญาณชอบสิงสถิตค่ะ
ที่มา toptenthailand.com
โพสต์โดย : nampuengeiei9760
