Social :



10 สถานที่เที่ยวแปลกๆ ในเทืองไทย ที่ได้ไปแล้วจะไม่มีวันลืม !!

26 มี.ค. 60 21:03
10 สถานที่เที่ยวแปลกๆ ในเทืองไทย ที่ได้ไปแล้วจะไม่มีวันลืม !!

10 สถานที่เที่ยวแปลกๆ ในเทืองไทย ที่ได้ไปแล้วจะไม่มีวันลืม !!

  เชื่อหรือเปล่าว่าเมืองไทยยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่รอคอยให้คุณเดินทางไปพบ บางครั้งความมหัศจรรย์ที่ว่าอาจเป็นแค่ก้อนกรวด ก้อนหิน หรือทางน้ำสายเล็ก ๆ ที่เรามองข้ามไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก ทั่วทุกภาคต่างมีสถานที่ท่องเที่ยวระดับเพชรน้ำหนึ่ง ซึ่งเปล่งประกายเจิดจรัสอยู่เสมอ วันนี้เราได้อาสาเป็นไกด์พาทัวร์สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ในเมืองไทย เอ้า !!! ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย


 1. มอหินขาว, ชัยภูมิ

     "มอหินขาว" หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดชัยภูมิ พลาดไม่ได้กับการชมกลุ่มหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ที่ถูกธรรมชาติรังสรรค์มาเป็นเวลานับล้านปี ด้วยลักษณะเด่นของทำเลที่ตั้งบนทุ่งหญ้าเนินเขา สลับแซมกลุ่มหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ ที่ยืนตั้งเด่นเป็นสง่ามองเห็นได้แต่ไกล จนหลายคนขนานนามให้มอหินขาวเป็นสโตนเฮนจ์ (Stonehenge) เมืองไทย นอกจากทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาแล้ว อากาศที่นี่ยังเย็นสบายชิล ๆ สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี หรือใครอยากนอนนับดาวและอยากใกล้ชิดธรรมชาติ ที่นี่ก็มีบริเวณให้นอนกางเต็นท์ รับรองว่าช่วงกลางคืนคุณจะได้เห็นมอหินขาวในมุมมองใหม่ ที่สวยงามไม่แพ้ตอนกลางวันเลยทีเดียว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044 810 902-3



2. สามพันโบก, อุบลราชธานี

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีลักษณะเป็นแก่งหิน ที่เกิดจากการกัดเซาะด้วยมวลพลังน้ำมหาศาลเป็นเวลาหลายพันปี จนทำให้แก่งหินเหล่านี้เกิดเป็น "รู" หรือ "โบก" น้อยใหญ่กระจายตัวมากกว่า 3,000 แอ่ง และเมื่อถึงฤดูแล้งหลุมเหล่านี้จะโผล่เหนือพ้นน้ำให้เห็นคล้ายเป็นภูเขากลางลำน้ำโขง โชว์ความสวยงามที่ชวนประหลาดตา ซึ่งหินเหล่านี้จะมีลักษณะและรูปทรงที่แตกต่างกัน บางคนอาจเห็นเป็นรูปดาว เต่า หนู สุนัข สุดแล้วแต่ใครจะจินตนาการ และด้วยความกว้างของชั้นหินที่กินพื้นที่บริเวณกว้าง คล้ายกับแกรนด์แคนยอน ประเทศสหรัฐอเมริกา จนมีผู้ขนานนามสถานที่แห่งนี้ว่า "แกรนด์แคนยอนเมืองสยาม"



3. เกาะไข่, สตูล

         เกาะเล็ก ๆ ในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล เสน่ห์ของเกาะไข่อยู่ที่ประติมากรรมทางธรรมชาติที่มีรูปร่างคล้ายซุ้มประตู สูงพอที่คนสามารถเดินลอดได้ มีความเชื่อกันว่าหนุ่มสาวคู่ใดที่ได้ลอดซุ้มประตูหินนี้จะได้แต่งงานกัน ทำให้ซุ้มประตูแห่งนี้ยิ่งเป็นที่เลื่องลือ และกลายเป็นสถานที่จดทะเบียนสมรสคู่บ่าวสาว ณ บริเวณซุ้มเกาะไข่ นอกจากความสวยงามของเกาะไข่แล้ว ทุกปีจะมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีหาดทรายสวย ขาวสะอาด น้ำทะเลใสมองเห็นผืนทรายใต้น้ำ รวมถึงยังมีแนวปะการังอยู่โดยรอบบริเวณ ที่นี่จึงเป็นเกาะสวรรค์ของคนที่รักทะเลอย่างแท้จริง



4. ทะเลแหวก, กระบี่

   "ทะเลแหวก" ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดจากปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงของทะเล ทำให้สันทรายของเกาะทั้งสาม ได้แก่ เกาะทับ เกาะหม้อ และเกาะไก่ปรากฏขึ้นมา ช่วงเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป ชมวิว และสัมผัสธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด และยังเป็นแหล่งดำน้ำตื้นอีกด้วย นอกจากความสวยงามแล้ว มนุษย์เราเองยังได้เรียนรู้ถึงวิธีการปรับสมดุลของธรรมชาติจากปรากฏการณ์นี้ เพราะทุกครั้งที่น้ำท่วมสันทราย ขยะหรือเศษไม้ต่าง ๆ ที่คลื่นซัดมาติดชายหาดจะถูกชำระล้างจนหมด ดังนั้นทุกครั้งที่ทะเลแหวกเราจึงเห็นสันทรายที่กลับมาขาวสะอาดทุกครั้งเสมอ ซึ่งช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี่คือเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคมของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานกระบี่ โทร. 075 622 163



5. ค้างคาวร้อยล้าน, ราชบุรี

       ยามเมื่อพระอาทิตย์ใกล้จะลาลับขอบฟ้า เราจะเห็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างหนึ่งบนน่านฟ้าของอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี นั่นคือฝูงค้างคาวจำนวนมหาศาลที่ต่างบินกรูออกจากถ้ำ ถ้ามองจากข้างล่างจะเห็นเหมือนเป็นสายควันดำที่โบกสะบัดเปลี่ยนทิศทางไปมาเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เรียกเสียงฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวที่มารอชมได้ไม่น้อย และกว่าที่ฝูงค้างคาวจะลดความหนาแน่นลง ก็เล่นทำเอาคนดูเมื่อยคอไปตาม ๆ กัน โดยฝูงค้างคาวเหล่านี้จะทยอยบินออกจากถ้ำทุกเย็นเป็นประจำ นับเป็นภาพอันน่าประทับใจของปรากฏการณ์มหัศจรรย์ทางธรรมชาติ


MulticollaC

6. กุ้งเดินขบวน, อุบลราชธานี

  ปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวนที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่แสนมหัศจรรย์ โดยเราจะเห็นเหล่าบรรดากุ้งฝอยที่ต่างเดินเรียงแถวยกพลขึ้นบกตามโขดหิน โดยบางช่วงเราอาจเห็นขบวนกุ้งเหล่านี้ต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเป็นระเบียบ โดยเจ้ากุ้งพวกนี้เดินทางไปยังแหล่งต้นน้ำบ้านเกิดบนเทือกเขาพนมดงรัก ในระหว่างการเดินทางจะต้องเดินผ่านทางน้ำที่ไหลเชี่ยว และเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บตัวเจ้ากุ้งพวกนี้จำเป็นต้องหลบความแรงของกระแสน้ำโดยการขึ้นมาเดินบนโขดหิน โดยจะขึ้นมาเดินอวดโฉมเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ ตัวในช่วงเวลากลางคืนของกลางเดือนสิงหาคมจนถึงเดือนกันยายนในทุก ๆ ปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทรศัพท์ 045 243 770, 045 250 714



7. โบสถ์ในต้นไม้, สมุทรสงคราม

    "โบสถ์ในต้นไม้" หรือ "โบสถ์ปรกโพธิ์" ตั้งอยู่ในวัดบางกุ้ง จังหวัดสมุทรสงคราม ความมหัศจรรย์อยู่ที่โบสถ์แห่งนี้ปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ทั้งโพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง เมื่อมองเผิน ๆ จากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ ซึ่งไม่มีใครคาดคิดด้วยซ้ำว่าจะมีโบสถ์พระซ่อนอยู่ โดยรากของต้นไม้เหล่านี้ช่วยยึดโยงใยไม่ให้ตัวโบสถ์เสียรูปทรง ภายในมีพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่ ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "หลวงพ่อโบสถ์น้อย" ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปแห่งนี้เป็นที่เลื่องลือ จนทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลมากราบไหว้เป็นจำนวนมาก และยิ่งทำให้ "โบสถ์ในต้นไม้" แห่งนี้เป็นที่รู้จักของผู้คนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น



8. แพะเมืองผี, แพร่

  "แพะเมืองผี" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดแพร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับปรากฏการณ์มหัศจรรย์ทางธรรมชาติของดินและสิ่งแวดล้อม เกิดเป็นเมืองเร้นลับที่เป็นตำนานเล่าขานของชาวบ้านมาจนถึงปัจจุบัน โดยสิ่งแวดล้อมของแพะเมืองผีมีลักษณะภูมิประเทศเป็นดินและหินทราย ที่ถูกกัดเซาะตามธรรมชาติเป็นรูปร่างลักษณะต่าง ๆ ทำให้พื้นที่มีความสูงต่ำต่างกันไปในแต่ละตำแหน่ง หน้าผาและเสาดินที่ตั้งสูงเด่นมีรูปทรงที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดความสวยงามอย่างน่าประหลาดเวลามอง ความสลับซับซ้อนของภูมิประเทศในแพะเมืองผีแห่งนี้ ยิ่งเพิ่มกลิ่นอายความเร้นลับให้กับตำนานแห่งแพะเมืองผีดูมีมนตร์ขลังเพิ่มอีกเท่าตัว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริหารจัดการในพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 (แพร่) โทร. 053 511 162, 02 561 4292-3 ต่อ 719



9. แมงกะพรุนหลากสี, ตราด

     "แมงกะพรุนหลากสี" เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับชมปรากฏการณ์นี้ได้ที่บริเวณหาด "ราชการุณย์" และ "หาดเล็ก" ซึ่งเราจะเห็นแมงกะพรุนหลากหลายสีสันและประเภทลอยโผล่ผิวน้ำ เช่น แมงกะพรุนถ้วย แมงกะพรุนโตนด แมงกะพรุนลอดช่อง แมงกะพรุนไฟ และแมงกะพรุนกล่อง เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือของชาวบ้านนั่งชมความมหัศจรรย์นี้ได้ แต่หลายคนไปแล้วอาจผิดหวัง ที่ไม่ได้เห็นแมงกะพรุนเยอะอย่างที่คิด นั่นเพราะต้องขึ้นอยู่กับกระแสคลื่นและลมเป็นหลัก ขอเตือนว่า นักท่องเที่ยวควรใช้ความระมัดระวังในการชม เพราะเราไม่รู้ว่าแมงกะพรุนตัวไหนมีพิษ เกิดเผลอไปโดนเข้าอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้



10. ถ้ำมรกต, ตรัง

   "ถ้ำมรกต" หนึ่งในไฮไลท์เด็ดของการมาเที่ยวทะเลตรัง ที่แห่งนี้ชื่อว่าเป็นถ้ำมหัศจรรย์กลางทะเล ตั้งแต่ปากทางเข้าถ้ำเป็นโพรงเล็ก ๆ สูงพ้นระดับพอเรือลอดได้ แต่ถ้าวันไหนน้ำมากก็อาจจำเป็นต้องลอยคอเกาะเชือกเรียงตัวกันเข้าไป เมื่อเข้าไปไม่ถึงอึดใจคุณจะต้องทึ่งไปกับภาพความสวยงาม ที่ลำแสงภายนอกจะสะท้อนกับน้ำภายในถ้ำ ทำให้เห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต มองไปมองดูราวกับภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ธรรมชาติได้บรรจงสร้างสรรค์เอาไว้ให้มนุษย์ และอีกด้านหนึ่งของปากถ้ำจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดตา น้ำใสแจ๋ว ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน ซึ่งเดือนที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวมากที่สุดคือระหว่างเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนพฤษภาคม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานตรัง โทรศัพท์ 075 215 867 และ 075 211 058


ที่มา thai.tourismthailand.org

โพสต์โดย : fork3026