“น้ำตกเอราวัณ” เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไป สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาแต่ชอบเที่ยวชมธรรมชาติอย่างผม ที่นี่ถือว่าเหมาะเลยครับเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กระทูนี้เป็นการรีวิวคร่าวๆเผื่อใครสนใจจะไปเที่ยวบ้างซึ่งข้อมูลบางอย่างอาจไม่ละเอียดต้องขออภัยไว้ด้วยนะครับ
ทริปนี้เราไปเที่ยวที่ “น้ำตกเอราวัณ” อยู่ในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี จากที่หาข้อมูลมาสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็เดินทางสะดวกครับ ก่อนถึงวันเดินทางเราได้จองบ้านพักภายในอุทยานไว้ล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ ซึ่งการจองบ้านพักรวมถึงข้อมูลต่างๆของอุทยานดูได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/asp/style1/default.asp?npid=107&lg=1
พอถึงวันเราเดินทางด้วยรถโดยสารจากสถานีขนส่งหมอชิต ด้วยรถปรับอากาศสาย กรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ (ซื้อตั๋วที่ชั้นที่ 1 ช่องขายตั๋ว 21)
บอกกับ พนง.ขายตั๋วว่าลงที่ บขส.กาญจนบุรี ค่าโดยสารคนละ 130 บาท รถสายนี้มีให้บริการ 2 รอบต่อวัน คือรอบ 6.00 น. และ 9.30 น. เราไปรอบแรกจะได้ไปถึงเร็วๆมีเวลาเที่ยวเยอะๆครับ
รถออกจากสถานีขนส่งหมอชิต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมงก็ถึง บขส.กาญจนบุรี เราก็มาต่อรถโดยสาร สาย กาญจนบุรี-เอราวัณ เราได้ไปรอบ 9.15 น.
หน้าตารถโดยสาร กาญจนบุรี-เอราวัณ เป็นแบบนี้ครับ
เราขึ้นไปนั่งรอบนรถเลยแล้วคนเก็บค่าโดยสารจะขึ้นมาเก็บเอง (ตอนแรกขึ้นไปโล่งๆนึกว่าไม่ค่อยมีคนไป พอถึงเวลารถใกล้ออกใช้คำว่าแน่นได้เลยครับ ส่วใหญ่เป็นชาวต่างชาติ)
9.15 น. รถออกเราก็นั่งรถกินลมชมวิวมาเรื่อย มีวิวสวยๆระหว่างทางให้ชมด้วยครับ
รถโดยสารใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง ก็ถึงทางเข้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตรงนี้เราต้องเสียค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ใช้บัตรนักศึกษาได้ลดครึ่งราคา โดยที่เจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าขึ้นมาให้บริการบนรถโดยสารเลยครับ
ค่าเข้าอุทยานสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท ,เด็ก 20 บาท / ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท ,เด็ก 50 บาท แต่จะมีการปรับอัตราค่าเข้าอุทยานตั้งแต่ 1ก.พ. 58 ตามภาพเลยครับ
เข้ามาในอุทยานเวลาประมาณ 11.00 น. เราไปติดต่อเรื่องที่พักที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ทางด้านหน้าทางเข้าน้ำตก
เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบอกว่าบ้านพักที่จองไว้จะเช็คอินได้ประมาณ บ่าย 2 โมง เราเลยไปหาอะไรรองท้องกันก่อน ที่นี่มีร้านอาหารและร้านขายของเยอะเเยะเลยครับไม่ต้องกังวลเรื่องของกินครับ
ไหนๆเราก็ยังเข้าที่พักไม่ได้ เราเลยขอฝากกระเป๋าเสื้อผ้าของใช้ไว้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เอาไปแค่กล้องถ่ายรูป แล้วไปเดินเล่นถ่ายรูปกันก่อนครับ
ช่วงที่เราไป (กลางเดิน ม.ค. 58) อากาศค่อนข้างจะเย็น นักท่องเที่ยวที่เราเห็นเลยเป็นชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ครับ
ทางเดินเข้าน้ำตกในช่วงต้นทางเป็นถนนลาดยางเดินสะดวกครับ แต่หากใครขี้เกียจเดินที่นี่มีบริการรถกอล์ฟส่งถึงทางขึ้นน้ำตกชั้นที่ 1 ครับ 
ระหว่างทางเดินเข้าไปน้ำตกผมสังเกตเห็นงานศิลปะบางอย่างที่ไม่ควรจะมี ดูแล้วเป็นภาษาไทยล้วนๆ อยากฝากไว้สำหรับคนที่รักการท่องเที่ยว ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่ควรทำสัญลักษณ์หรือทิ้งอะไรไว้นะครับอะไรไว้นะครับ
เดินตามทางมาได้สักระยะก่อนที่จะถึงน้ำตกชั้นที่ 1 เราก็จะเห็นธารน้ำสวยๆใสๆ ขนาดปลายทางน้ำตกน้ำยังใสได้ขนาดนี้เลยครับ
ก่อนถึงน้ำตก ตรงนี้เป็นอีกที่ที่สวยงามและผมชอบมากครับ
เดินต่อมาอีกสักพักเราก็เดินมาถึงบริเวณน้ำตก
ข้อมูลคร่าวๆ “น้ำตกเอราวัณ “ มีหลักๆทั้งหมด 7 ชั้น ดังนี้ครับ
ชั้นที่ 1. ไหลคืนนรัง
ชั้นที่ 2. วังมัจฉา
ชั้นที่ 3. ผาน้ำตก
ชั้นที่ 4. อกนางผีเสื้อ
ชั้นที่ 5. เบื่อไม่ลง
ชั้นที่ 6. ดงพฤกษา
ชั้นที่ 7. ภูผาเอราวัณ
ส่วนระยะทางแต่ละชั้นผมจำไม่ได้นะครับ แต่ตอนที่ไปผมว่าระยะทางที่บอกตามป้ายก็ไม่น่าจะตรงตามระยะทางจริงเหมือนกันนะ คหสต.
ถึงแล้วครับ น้ำตกเอราวัณชั้นที่ 1 “ ไหลคืนรัง”
ถ่ายรูปชมความสวยงามของน้ำตกเอราวัณชั้นที่หนึ่งกันแล้ว เดินต่อมานิดเดียวเราก็ได้เห็นความสวยงามของน้ำตกชั้นที่ 2 แล้วครับ น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 2 “วังมัจฉา” ส่วนตัวแล้วผมชอบชั้นนี้ที่สุดเลยครับ
น้ำใสๆ สีฟ้าธรรมชาติ มีปลาเยอะมากและมีคนเล่นน้ำค่อนข้างเยอะ เราสามารถว่ายน้ำแล้วปีนไปอยู่หลังม่านน้ำตก ได้ตามภาพครับ
เราชมความสวยงามละเก็บภาพน้ำตก ชั้น1 และ 2 แล้วก็ได้เวลา บ่าย 2 โมง เราเลยกลับมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอีกที่เพื่อเช็คอินบ้านพักครับ พอเช็คอินได้กุญแจห้องแล้วเราก็เดินตามทางไปบ้านพัก ผ่านสถานที่กางเต้นและค่ายเยาวชนด้วยครับ
บ้านที่เราจองไว้ อยู่ที่โซน 2 จองไว้ห้องพัก 2 คน ห้องละ 800 บาทครับ โซนนี้เจ้าหน้าที่บอกว่าอยู่ใกล้น้ำตกที่สุดแล้วครับ
บริเวณบ้านพักภายในอุทยาน บรรยากาศร่มรื่นมากครับ อากาศดี มีธารน้ำไหลผ่าน ภายในแบ่งโซนห้องนอน ห้องน้ำ เป็นระเบียบ มีระเบียงหน้าบ้านไว้นั่งเล่นด้วยครับ
เข้ามาในห้องเก็บของเรียบร้อยแล้ว วางหัวปุ๊บ หลับเลยครับ ตื่นมาอีกที่บ่าย 3 โมงเย็น เราเลยเดินออกไปเล่นน้ำที่ชั้น 2 ซะหน่อยเพื่อไม่ให้เสียเที่ยว แต่ มัน หนาว มาก!!!!!! เล่นน้ำเสร็จกลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็อออกไปหาอะไรทาน พอดีคนไม่เยอะเลยได้ถ่ายรูปกับป้ายอุทยานไว้ ก่อนจบวันแรกนอนหลับพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติครับ
เช้าวันต่อมาเราตื่นกันแต่เช้าเพื่อลุยให้ถึง ชั้น 7 เช้าๆที่นี่อากาศดีมากครับ
เราออกกันตั้งแต่ 8 โมงเช้า ตั้งใจจะไปเริ่มถ่ายรูปกันที่ ชั้น 3 ระหว่างทางเจอธารน้ำสวยๆเลยขอถ่ายรูปเก็บเอาไว้ก่อนครับ
เดินต่อมาอีกนิดเดียวก็ถึง น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 3 “ผาน้ำตก”
ชั้นนี้น้ำตกไหลตกจากผาสูง น้ำใสมาก ชั้นนี้ดูจะมีปลาเยอะเป็นพิเศษครับ
ถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆที่ชั้น 3 เสร็จแล้ว เดินย้อนขึ้นมาจะมีทางแยกให้ไปชั้นที่ 4 เราเดินมาตามทางจะจะมีป้ายบอกทางไปเส้นทางศึกษาธรรมชาติด้วย แต่เราไม่ได้ไปนะครับ เดินต่อมาอีกหน่อยจะเห็นขั้นบันไดทางขึ้นไปน้ำตกชั้นที่ 4 แบบว่าแค่เห็นก็เหนื่อยแล้ว
เดินขึ้นบันไดมาเราก็เจอจุดชมวิว พักถ่ายภาพพร้อมพักเหนื่อยไปในตัวครับ
เดินต่ออีกหน่อยก็ได้พบความสวยงามของน้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 4 “อกนางผีเสื้อ” ชั้นนี้น้ำใสมากๆเลย ถ้าหากน้ำเยอะๆกว่านี้คงสวยน่าดูเลยครับ
ชั้นนี้หลักๆจะเห็นเป็นหินก้อนใหญ่ 2 ก้อน ลักษณะคล้ายๆอกหญิงสาว ที่มีน้ำไหลผ่านลงมาเป็นแอ่งครับ
เดินต่อมาอีกจะเจอกับ น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 5 “เบื่อไม่ลง” ระยะทางจากชั้นที่ 4 ไปขึ้นมาชั้นที่ 5 ค่อนข้างจะไกลหน่อยครับ
ชั้นนี้เป็นชั้นที่ธารน้ำไหลผ่านชั้นหินหลายชั้นลดหลั่นการลงมาเรื่อยๆ เสียดายช่วงที่เราไปนี่น้ำค่อนข้างน้อยครับ
จากชั้นที่ 5 เดินต่อมาอีกสักพักกับเส้นทางที่เดินลำบากขึ้นพอดู เราก็มาถึงทางที่จะแยกไประหว่างชั้นที่ 6 และชั้นที่ 7 เลยเดินมาชั้นที่ 6 ก่อนครับ
น้ำตกเอราวัณ ชั้น ที่ 6 “ดงพฤกษา” ชั้นนี้เป็นหน้าผาสูง สำหรับผมถ่ายรูปค่อนข้างยากมากเลยครับ อาจเป็นเพราะไม่มีที่ยืน,น้ำน้อย รึเพราะฝีมือไม่ดีเลยได้ภาพมาไม่ค่อยสวยครับ
เราเดินย้อยมาไปตามทางที่จะไปชั้นที่ 7 เดินต่อมาอีกนิดก็ถึงครับ น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 7 “ภูผาเอราวัณ”
ชั้นนี้เป็นธารน้ำไหลมาจากหน้าผาสูงเป็นอีกชั้นที่ผมประทับใจมากครับ เป็นชั้นที่น้ำใส สีฟ้าสวยมากจนอยากลงเล่นน้ำเลยครับ
ตอนขาลงระหว่างทางลงเราก็แวะถ่ายภาพกันมาเรื่อยๆจนมาถึงปลายทางที่ชั้นที่ 1 ประมาณ 10 โมงนิดๆ เราแวะดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟสด
เสร็จแล้วกลับเข้าห้องพักเก็บข้าวของเตรียมไปเช็คเอ้าท์ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เสร็จธุระเรียบร้อยเราก็กลับโดยสารสายเดิม ซึ่งขากลับจากเอราวัณ จะมีรอบ เที่ยง ,บ่าย 2 โมง และ 4 โมงเย็น เราทันรอบเที่ยงพอดีคับ
จบทริปพร้อมกับความเต็มอิ่มกับธรรมชาติ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งในทริปนี้ อยากให้ทุกคนลองไปเที่ยวกันแล้วคุณจะประทับใจเหมือนผมและอีกหลายๆคนที่ไปมาแล้ว หากใครมีคำแนะนำในการเขียนกระทู้ อยากจะติชมรึอยากพูดคุยกันก็แอดมาได้ที่แฟนเพจ
http://www.facebook.com/journeygallery ได้เลยครับ
ออกไปเที่ยวไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆกัน ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกนะครับ
