Social :



เที่ยวตรังก็มีดี

26 มิ.ย. 60 10:06
เที่ยวตรังก็มีดี

เที่ยวตรังก็มีดี

     จังหวัดตรัง นอกจากจะมีทะเลสวย เกาะงามหลายเกาะ ให้เราได้สัมผัสความสวยใส ของน้ำทะเลแล้ว  เมืองตรังมีกิจกรรมอีกอย่างที่พลาดไม่ได้  คือ การได้เที่ยวชมวิถีชีวิตและย้อนรอยอดีตเมืองตรัง  ซึ่งเราสามารถเดินเล่น ชมบรรยากาศตึกเก่าโบราณ ในย่านตัวเมือง เข้าถึงวัฒนธรรมการกินอันเลื่องชื่อ นอกจากนี้ไม่ไกลจากตัวเมือง ยังสามารถเที่ยวแบบตื่นเต้นผจญภัยได้ที่  ถ้ำเลเขากอบ ตบท้ายด้วยการย้อนร้อยอดีตชมสถานีรถไฟสุดคลาสสิค ได้ที่ อำเภอกันตัง ซึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งหมดนี้สามารถใช้เวลาท่องเที่ยวใน 1 วัน แบบสบาย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ

สถานีรถไฟตรัง

 

เริ่มจากตื่นแต่เช้าด้วยการกินแบบตรัง อาหารมื้อเช้าอันเลื่องชื่อของเมืองตรัง แน่นอนค่ะ หมูย่าง  ติ่มซำ ฮะเก๋า ซาลาเปา  โรตี  กับชาร้อนๆ ร้านในเมืองตรังก็มีให้เราได้เลือกหลากหลายร้าน ทั้งนั่งทานแบบย้อนยุคคลาสสิค หรือร้านที่ตกแต่งแบบโมเดิรน์ขึ้นมาอีกหน่อย  เราแวะไปทานอาหารเช้ากันที่ร้านนี้ ร้าน เลตรัง อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมากนัก  มีคนแนะนำมาว่าอร่อยเลยลองมาทาน  บรรยากาศภายในร้านก็สะอาดน่านั่ง

 

ร้านเลตรัง

 

ร้านมีเมนูหลากหลาย อยากทานติ่มซำก็เดินออกมาเลือกข้างนอก หลังจากเลือกแล้วพนักงานก็จะเอาเข้าเตานึ่งกันให้ทานแบบร้อน เสริฟ์ถึงโต๊ะรสชาติ ถือว่าอร่อยในระดับกลาง แต่ที่เด็ดของร้านนี้ คือ น้ำจิ้ม ที่ช่วยเพิ่มรสชสติของติ่มซำ ให้อร่อยยิ่งขึ้น  รู้มาว่าชาวตรังค่อนข้างให้ความสำคัญกับการกินมากค่ะ เรียกว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนเมืองตรัง โดยเฉพาะอาหารเลื่องชื่อหมูย่างเมืองตรัง  เคยมาเที่ยวตรังเมื่อนานแล้วได้ลองลิ้มรสดู กรอบอร่อย สมคำร่ำลือ

 

ร้านเลตรัง

ร้านเลตรัง

ร้านเลตรัง

 

อิ่มแบบตรังแล้ว ก็มาเที่ยวชมตึกเก่าภายในเมือง บ้าง  ลักษณะของตึกจะเป็นตึกในรูปแบบชิโนโปรตุกิส คล้ายกับเมืองภูเก็ต  แต่อาจมีไม่เยอะเท่า  การเดินเที่ยวชมตึกเก่าสามารถเริ่มได้จาก สถานีรถไฟเมืองตรัง  ในละแวกนั้นจะมีตลาดสด โรงแรมศรีตรังโรงแรมเก่าแก่ของตรัง  เดินไปเรื่อยๆ  ลัดเลาะไปตามถนน ถ. ราชดำเนิน ถ. กันตัง และ ถ. พระรามหก ก็จะพบเห็นตึกเก่าซ่อนตัวอยู่เป็นระยะ

 

ตึกเก่าเมืองตรัง

ตึกเก่าเมืองตรัง

 

หรือหากใครไม่ชอบเดิน อยากเที่ยวเมืองตรังให้ได้อรรถรสและเข้าบรรยากาศยิ่งขึ้น สามารถเหมารถตุ๊ก ตุ๊ก หัวกบ เที่ยวรอบเมือง  เป็นรถตุ๊ก ตุ๊กที่พบเห็นได้เพียงหนึ่งเดียวในเมืองตรังเท่านั้น เรียกว่ากลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองตรังเลยทีเดียว  รถตุ๊ก ตุ๊ก จะจอดรอผู้โดยสารให้เห็นหลายคันหน่อยก็ตรงบริเวณหน้า สถานีรถไฟเมืองตรัง สนนราคาแล้วแต่ตกลงว่าจะไปตรงจุดไหนบ้าง  โปรแกรมท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะ สถานีรถไฟตรัง ชมตึกเก่าชิโนโปรตุกีส  หอนาฬิกา  ศาลากลางจังหวัดตรัง บ้านนายชวน หลีกภัย  ลานวัฒนธรรม ศุนย์จำหน่ายสินค้าโอทอป  วัดท่าจีน แม่น้ำตรัง ราคาจอยู่ที่ 200 – 600 บาทแล้วแต่ระยะทางและจำนวนสถานที่

 

ตึกเก่าเมืองตรัง

ตึกเก่าเมืองตรัง

 

ถนนที่มีตึกเก่า โบราณ หนาแน่นให้เราได้ชมมากที่สุด คงเป็น ถนนเส้นนี้ค่ะ ถนนกันตัง

 

ตึกเก่าเมืองตรัง

ตึกเก่าเมืองตรัง

 

เดินข้ามถนนกันตัง ข้ามไปยังซอยฝั่งตรงข้ามกันเพื่อไปชม โบสต์คริสต์ เมืองตรัง ถือเป็นโบสถ์คริสต์ที่มีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างจากโบสถ์คริสต์ที่เคยเห็นมา  ดูคลาสิค สีสันสดใส

 

โบสต์คริสต์เมืองตรัง

โบสต์คริสต์ ตรัง

เดินออกมาหน้าโบสค์คริสต์ ก็ยังมีตึกเก่าให้เราได้เห็นอยู่

 

ตึกเก่าเมืองตรัง

 

โบกมอเตอร์ไซต์เพื่อจะให้ไปส่งยังคิวรถตู้ เตรียมเดินทางไปถ้ำเลเขากอบ เพราะรู้มาว่ามีรถตู้โดยสารไปถึง แต่ได้รับคำตอบจากมอเตอร์ไซต์ว่า นู้นไงหนู เดินไปก็ถึง คิวรถตู้อยู่เลย โบสต์คริสต์ตรัง ไปนิดเดียวเองค่ะ  เป็นรถตู้โดยสารตรัง – ห้วยยอด ซึ่ง ถ้ำเลเขากอบ จะตั้งอยู่ในอำเภอห้วยยอดค่ะ  ขึ้นรถจับจองที่นั่งจ่ายเงินค่าโดยสารคนละ 60 บาท เท่านั้น บอกคนขับลงถ้ำเลเขากอบ คนขับใจดีไปส่งถึงปากทางเข้าถ้ำ  ระยะทางจากเมืองตรังไปถ้ำเลเขากอบก็ใกล้นิดเดียวประมาณ 30 กิโล  ใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น  หลังจากไปถึงหน้าบริเวณทางเข้าแล้ว ก็เดินไปยังจุดจอดเรือ เที่ยวถ้ำเลเขากอบ ต้องนั่งเรือพายแบบนี้ค่ะ ค่าเรือลำละ 300 บาท นั่งได้ เต็มที่ 5 คน

 

ถ้ำเลเขากอบ

 

ถ้ำเลเขากอบ ต้องใช้เรือล่องตามลำน้ำเข้าไปข้างใน เพื่อ ไปชมหินงอกหินย้อยอันงดงาม มีโถงถ้ำมากมายหลายถ้ำ  แต่ปัจจุบันนี้ เปิดให้บริการท่องเที่ยวเพียง 5 ถ้ำเท่านั้น ได้แก่ ถ้ำคนธรรพ์  ถ้ำท้องพระโรง ถ้ำรากไทร  ถ้ำเจ้าสาว  ถ้ำลอด หรือ ถ้ำมังกร โดยเรือจะเริ่มล่องไปตามน้ำและจอดหน้าถ้ำแต่ละถ้ำ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปชมแล้วก็ล่องเรือไปยังถ้ำต่อๆไป ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการเที่ยวชมถ้ำ

 

ถ้ำเลเขากอบ

ถ้ำเลเขากอบ

 

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยปกปักษ์รักษาถ้ำ

 

ถ้ำเลเขากอบ

 

หินก้อนนี้เรียกว่าหินรูปช้างค่ะ คนพายเรือซึ่งเป็นไกด์ไปในตัวด้วย บอกเราว่า อยากสะเดาะเคราะห์ ก็เดินลอดท้องช้างได้เลยครับ

 

ถ้ำเลเขากอบ

 

Lif

ลองเรือมาถึงอีกถ้ำ  คือ ถ้ำเจ้าสาว ถ้ำนี้มีความเชื่ออีกแล้วค่ะ สังเกตจากหินงอกหินย้อย ที่เป็นประตูทางเข้าไปชมถ้ำข้างในค่ะ คนพายเรืออธิบายว่าจะมี 3 ช่อง ให้เดินเข้า ช่องกลางสำหรับคนโสดเดินผ่านแล้วอธิษฐานขอคู่ก็จะได้คู่ ช่องซ้ายสุดสำหรับคนมีคู่หรือแต่งานแล้ว อยากให้รักมั่นคงก็เดินเข้าช่องนี้ ส่วนช่องขวาสุดสำหรับคนที่มีคู่แต่อยากมีกิ๊กเพิ่มก็เดินเข้าช่องนี้เลยค่ะ

 

ถ้ำเลเขากอบ

 

หินงอกหินย้อยอันสวยงามภายในถ้ำ ชมครบทุกถ้ำมาถึงถ้ำสุดท้าย คือ ถ้ำมังกร ซึ่งเป็นที่มาของ Unseen Thailand หนึ่งในความอัศจรรย์   ซึ่งไม่สามารถเดินชมและไม่สามารถถ่ายภาพมาให้ชมได้เพราะลำบากมาก เนื่องจากต้องล่องเรือผ่านถ้ำโดยการนอนราบไปกับเรือ ไม่สามารถนั่งได้ค่ะแถมมีน้ำไหลลงมาจากหินตลอดเวลา เป็นระยะทางประมาณ 800 เมตร ต้องเก็บกล้องเข้ากระเป๋าเป็นการด่วน  แม้จะเป็นเพียงระยะทางสั้น แต่เป็นช่วงแห่ง การลุ้นระทึกและแอบหวาดเสียวไม่น้อย เพราะในบางช่วงที่ล่องผ่านผนังถ้ำแทบจะติดกับหน้า ลำตัว  บางช่วงก็เบียดแนบกับเรือทั้งสองข้างเลยทีเดียว อธิบายเป็นข้อความอาจไม่เห็นภาพค่ะ ต้องมาลองด้วยตนเองแล้วจะรู้ว่าลุ้นละทึกจริงๆ  แต่เรื่องความปลอดภัยหายห่วง เพราะว่าคนพายเรือแต่ละคนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญแล้ว เห็นบอกว่าบางคนเข้ามาครั้งแรกเจอถ้ำมังกรเข้าไปถึงกับกลัวไม่กล้ามาพายอีกเลยก็มีเยอะค่ะ เพราะฉะนั้น คนที่ยังพายอยู่ต้องปรบมือให้เลยค่ะ ด้วยใจรักอย่างแท้จริง

 

ถ้ำเลเขากอบ

ถ้ำเลเขากอบ

 

หลังจากลุ้นให้ออกมาจากใต้ท้องมังกรของถ้ำเลเขากอบ ได้เรียบร้อยแล้ว ก็อาศัยรถมอเตอร์ไซต์ของเจ้าหน้าที่ออกมา ตรงบริเวณสี่แยกของถนนห้วยยอดเพื่อ ต่อรถโดยสารของภูเก็ตที่จะจอดรับส่งผู้โดยสารบริเวณนี้เข้าเมืองตรังจากนั้น ต่อรถตู้กันตัง ซึ่งจอดอยู่อยู่หน้าสถานีรถไฟไปยังอำเภอกันตังค่ะ เพื่อไปชมสถานีรถไฟเก่าแก่ของจังหวัดตรัง สถานีรถไฟกันตัง ดูเหมือนจะต่อรถหลายต่อ แต่สะดวกมากค่ะ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายไม่สูงด้วย ดีกว่าเหมารถเป็นไหนๆค่ะ

 

ถ้ำเลเขากอบ

 

สถานีรถไฟกันตัง เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล ตัวอาคารแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านหน้ามีมุขยื่นประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุ ประตูบานเฟี้ยมแบบเก่า คงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว

 

สถานีรถไฟกันตัง

สถานีรถไฟกันตัง

 

สถานีรถไฟกันตัง เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2456 ในอดีตถูกใช้เป็นที่รับส่งสินค้ากับต่างประเทศ ทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยมีรางรถไฟต่อไปเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตรความพิเศษ อีกอย่างหนึ่งของ สถานีรถไฟกันตัง คือ  เป็นสถานีรถไฟสุดทางของทางรถไฟสายใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน

 

สถานีรถไฟกันตัง

 

มีรถไฟเพียงขบวนเดียวที่จะมาจอดสุดทางที่นี่ คือ รถไฟ สายกรุงเทพ – กันตัง

 

สถานีรถไฟกันตัง

 

โต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งยังทำงานควบคุมกันอยู่ค่ะ ดูเรียบง่ายดี

 

สถานีรถไฟกันตัง

 

ภายในสถานีรถไฟกันตัง มีห้องเล็กๆ ที่ จะเรียกว่าเป็น พิฑิธภัณฑ์ ไว้เก็บอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถไฟ

 

สถานีรถไฟกันตัง

สถานีรถไฟกันตัง

สถานีรถไฟกันตัง

 

หมวกของนายสถานี

 

สถานีรถไฟกันตัง

 

ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชินี ซึ่งเคยประทับรถไฟมาลงที่สถานีกันตังด้วย

 

สถานีรถไฟกันตัง

 

ถึงแม้ในปัจจุบันสถานีรถไฟกันตัง จะเงียบเหงาลงไปตามกาลเวลาแต่ยังคงไว้แต่ร่องรอยของอดีตที่คอยบอกเล่าเรื่องราวให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้

 

สถานีรถไฟกันตัง

สถานีรถไฟกันตัง

 

จากสถานีรถไฟกันตัง ก็เดินมาเรื่อยแวะที่ พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์  อดีตเจ้าเมืองตรัง มีลักษณะ เป็นเรือนไม้ 2 ชั้น เปิดให้เข้าชมทุกวัน เว้นวันจันทร์  แต่ในวันที่เราไปน่าเสียดายที่พิพิธภัณฑ์ปิดชั่วคราว เลยได้แต่เก็บภาพบรรยากาศภายนอกไว้เท่านั้นค่ะ ในอำเภอกันตัง นอกจาก สถานีรถไฟ และพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎาแล้ว เรายังสามารถชม ต้นยางพาราต้นแรก และตึกเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกิส ได้อีกด้วยค่ะ

 

พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์

พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์

 

จบทริปท่องเที่ยวย้อยรอยเมืองตรังใน 1 วัน ถือว่า ครบทั้งเรื่องราวแห่งประวัติศาตร์ เรียนรู้วิถีชีวิต ได้ตื่นเต้นหวาดเสียว ทำให้รู้สึก   รักเมืองตรัง และอยากกลับมาเที่ยวชมเมืองตรัง อีกครั้งค่ะ

 

ชมเมืองตรัง

โปรแกรมท่องเที่ยวของทริป 1 วันในตรัง

07.30 น. รับประทานอาหารเช้าร้านเลตรัง

09.00 น. ตั้งต้นที่สถานีรถไฟตรัง เดินชมตึกเก่าโบราณ แวะโบสต์คริสต์

10.00 น.  นั่งรถตู้ตรัง – ห้วยยอด ไปถ้ำเลเขากอบ

12.00 น.  ออกจากถ้ำเลเขากอบกลับเข้าเมือง หาอาหารกลางวันรับประทานในเมือง กลับเข้าที่พักซักครู่ หรือจะไปต่อเลยก็ได้

14.00 น. นั่งรถตู้โดยสารสาย ตรัง – กันตัง ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง คิวรถอยู่ตรงสถานีรถไฟ  บอกคนชับลงสถานีรถไฟกันตัง หลังจากนั้นเดินไปพิพิธภัณฑ์รัษฎาต่อ

16.00 น.  ขอเบอร์รถตู้คันเดิมโทรบอกให้แวะมารับที่หน้าพิพิธภัณฑ์รัษฎากลับที่พักในตัวเมืองตรัง


ขอบคุณข้อมูลจาก

paiduaykan.com

โพสต์โดย : ต้นน้ำ