1.ทั้งสองทีมพบกันรวมทั้งหมด 20 นัดจากทุกรายเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีสถิติเหนือกว่าโดยไม่เคยแพ้ แบ่งเป็น ชนะ 11 นัด และ เสมอ 9 นัด
2.ผลการแข่งขันนัดล่าสุดที่พบกันเกิดขึ้นในศึกชิงถ้วย พระราชทาน ก ครั้งที่ 100 ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2016 โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยูไนเต็ด ชนะ เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-1
3.อย่างไรก็ตาม 4 ฤดูกาลหลัง (2012-2015) สำหรับการพบกันในโตโยต้า ไทยลีก เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่เคยบุกมาแพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เลย
4.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก มาแล้ว 4 สมัย (2011,2013,2014,2015) ส่วน เมืองทอง ยูไนเต็ด 3 สมัย (2009,2010,2012)
5.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นเพียง 2 ทีมที่เคยคว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก แบบไร้พ่าย โดยปราสาทสายฟ้าทำได้ 2 สมัย (2013/2015) ส่วนกิเลนผยอง 1 สมัย (2012)
6.ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลเมืองทองฯที่ 118 ประตู (รวมทุกรายการ) ไม่เคยยิง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ตลอดการพบกันที่ผ่านมา
7.มาริโอ ยูรอฟสกี้ เป็นนักเตะของ
8.ส่วน อันเดรส ตูเญซ และ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต้ เป็นนักเตะของ บุรีรัมย์ ที่ยิงประตูใส่ เมืองทองฯ ได้มากที่สุด 3 ประตู แต่รายหลังไม่สามารถลงเล่นได้เนื่องจากไม่มีชื่อในเลกแรกเพราะมีอาการบาดเจ็บ
9.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีผู้เล่นชาวไทยเพียง 2 รายเท่านั้นที่ทำประตูใส่เมืองทองได้สำเร็จซึ่งก็คือ สุริยา ดอมไธสง และ จักรพันธ์ แก้วพรม ส่วน เมืองทอง มีรายเดียวคือ จักรพันธ์ พรใส ที่ปัจจุบันค้าแข้งกับ สุพรรณบุรี เอฟซี
10.จักรพันธ์ แก้วพรม และ อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นสองผู้เล่นปัจจุบัน ที่เคยค้าแข้งให้ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด
11.ส่วนผู้เล่นที่เคยค้าแข้งให้ทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด มีอีก 3 รายได้แก่ สุริยา ดอมไธสง , นฤพล อารมณ์สวะ และ ชิตชนก ไชยแสนสุนิรธร
12.อรรถพล ปุษปาคม และ สก๊อต คูเปอร์ เป็น 2 กุนซือที่เคยผ่านการคุมทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด
