Social :



ผีอำ ป้องกันอย่างไร วิธีแก้ผีอำ..

16 ส.ค. 60 14:08
ผีอำ ป้องกันอย่างไร วิธีแก้ผีอำ..

ผีอำ ป้องกันอย่างไร วิธีแก้ผีอำ..

 เคยโดนผีอำบ้างไหม? ถ้าผีอำแล้วจะมีอาการอย่างไร ? คำว่า ผีอำ คงเป็นคำที่คุ้นๆของคนไทยทั่วไปที่มักเรียกอาการขณะนอนหลับแล้วรู้สึกอยากจะขยับตัวเพื่อตื่นขึ้นมา หรือส่งเสียงร้องให้คนช่วย แต่รู้สึกว่าตัวเองขยับตัวไม่ได้ ตื่นลืมตาไม่ได้ และร้องไม่ได้ แม้จะบังคับร่างกายอย่างไรก็ตามเรามักเชื่อว่านั่นเป็นเพราะผีหรือวิญญาณมาสิงหรือมานั่งทับร่างกายเราอยู่ ส่วนใหญ่จะแก้ด้วยการสวดมนต์ และบังคับให้ร่างกายตื่นขึ้นมาให้ได้ พอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกเพลีย เหนื่อย เหงือแตกเลยทีเดียวพร้อมกับความรู้สึกกลัวว่าตนเองถูกผีอำเข้าแล้วเป็นแน่แล้ว 

        หากเราไปถามคุณหมอ ก็มักจะได้รับคำตอบที่ว่า นั่นเป็นเพราะเกิดจากภาวะที่ร่างกายผิดปกติด้วยสาเหตุหลายประการ ได้แก่ 

        การนอนหลับไม่เพียงพอหรือการนอนไม่เป็นเวลา ซึ่งมักเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว โดยเกิดจากสภาพร่างกายที่เหนื่อยล้า และการนอนที่ไม่ตรงเวลากับร่างกายที่คุ้นตามเวลานอนที่ผ่านมา 


        การทำงานหนักหรือออกกำลังกายมากเกินไป โดยเฉพาะการทำงานหนักที่ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ เช่น ไม่เคยทำงานหนักหรือออกกำลังกายหนักๆมาหลายเดือนแล้วอยู่ๆก็มีการทำงานหนักหรือมีการเคลื่อนไหวของร่าง กายที่มากเกินไป ซึ่งเป็นสภาวะที่ร่างกายไม่คุ้นเคยจนไม่สามารถปรับตัวได้ เมื่อถึงเวลาหลับนอนร่างกายจะเกิดการคลายตัวที่ลำบาก ทำให้รู้สึกขยับร่างกายไม่ได้ และเหนื่อยหอบ 

        ร่างกายขาดน้ำก็ถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสภาวะที่ไม่สมดุลขึ้น และมักเกิดอาการดังกล่าวตามมา

        ความเครียดต่างๆมักจะเป็นส่วนร่วมทำให้เกิดอาการผีอำ เพราะหากเกิดความเครียดสมองจะทำงานหนัก และร่างกายมีภาวะการตึงเครียดมากไปด้วย
Lif
มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการฝันร่วมด้วยขณะมีอาการดังกล่าว 

        อาการผีอำนี้มักเกิดร่วมกับความฝัน และจินตนาการว่าตัวเองถูกกดทับหรือมีอะไรมากดทับร่างกายไม่ให้ขยับได้ แต่มักเกิดขึ้นในเวลาไม่นานก็หายไป 

        จากสาเหตุที่กล่าวมาเราสามารถป้องกันอาการนี้ได้ด้วย 

        1. ไม่ควรทำงานหนักหรือออกกำลังกายที่หนักในสภาวะที่ร่างกายไม่เคยคุ้นเคยมาก่อน หากมีการทำงานหนักหรือต้องการออกกำลังกายที่มาก ควรใช้เวลาที่น้อยในวันแรกๆก่อน แล้วค่อยเพิ่มขึ้นในวันถัดมา เพื่อให้ร่างกายเรา ปรับตัวกับสภาวะที่ต้องเคลื่อนไหวหรือต้องใช้พละกำลังมาก 

        2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยเฉพาะวันที่ต้องทำงานหรือออกกำลังกายมากๆ 

        3. การนอนหลับที่เพียงพอ และตรงเวลา จะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนตามที่ร่างกายต้องการ หากผักผ่อนไม่เพียงพอก็มักทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย และเกิดอาการดังกล่าวร่วมด้วย 

        4. พยายามผ่อนคลาย และลดความเครียดต่างๆ เพื่อไม่ให้สมอง และร่างกายทำงานหนักจนเกินไป 
ขอบคุณข้อมูลจาก:horoscope.thaiza

โพสต์โดย : monnyboy