Social :



ความเชื่อของคนโบราณ..ห้ามเดินทางเมื่อจิ้กจกร้องทัก

01 ต.ค. 60 09:10
ความเชื่อของคนโบราณ..ห้ามเดินทางเมื่อจิ้กจกร้องทัก

ความเชื่อของคนโบราณ..ห้ามเดินทางเมื่อจิ้กจกร้องทัก

คนโบราณกล่าวไว้ เมื่อเราจะเดินทางไปไหนมาไหนหรือทำอะไรอยู่ ถ้าได้ยินเสียงจิ้งจกร้อง แสดงว่าจิ้งจกมาทักเรา และนั่นหมายถึงลางร้ายกำลังจะมาเยือน

 

 

เราควรจะมีความระวังตัวให้มากขึ้น หรือถ้าเป็นไปได้ควรงดหรือหยุดเสียเลยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีโครงการจะเดินทางไปไหน ก็ให้ชะลอไว้ก่อนอย่าเพิ่งออกไป หาไม่แล้วจะเกิดอุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อเราได้

 

 

จิ้กจกเป็นสัตว์ที่บอกลางร้ายได้แม่นยำนัก

 

 

ความมุ่งหมายที่แท้จริง (ห้ามเดินทางเมื่อจิ้กจกร้องทัก)

 

ปกติแล้ว จิ้งจกจะมีอยู่มากมายทั่วไป อาศัยอยู่ตามบ้านเรือนและสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ก็มักจะได้ยินเสียงร้องของมันเป็นเรื่องปกติ การที่จิกจกร้องก็เป็นเรื่องของมัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราเลย

 

 

แต่นี่คนโบราณท่านสอนมาอย่างนั้น ก็เพื่อให้คนเรารู้จักระมัดระวังตัว มิให้ประมาท คิดไปไหนมาไหนก็ให้คิดให้รอบคอบอีกสักทีหนึ่งก่อนจะดีไหม การเดินทางและสิ่งที่คิดจะไปทำ จะได้เกิดความเรียบร้อยเป็นผลดีไม่ผิอพลาด ล้มเหลว

 

 

เรื่องความไม่ประมาทนั้นเป็นหลักใหญ่ในการดำเนินชีวิต

 

 

พระพุทธโอวาทสุดท้ายที่สั่งสอนพระสาวก ก็คือให้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท

 

 

คนเราควรไม่ประมาทในที่ ๔ สถาน ดังที่พระเทพดิล (ระแบบ ฐิตญาโณ ป.ธ.๙) กล่าวไว้ดังต่อไปนี้

 

 

ควรทำความไม่ประมาทในที่ ๔ สถาน

 

ความไม่ประมาทเป็นบทสรุปประการหนึ่งของคำสอนในทางพระพุทธศาสนา ความไม่ประมาท

MulticollaC
คือการครองชีวิต การทำ การพูด การคิดอย่างมีสติเข้ากำกับ ไม่มีความเผอเรอ หลงลืม พลั้งพลาด และระมัดระวังที่จะไม่ทำ พูด คิดในทางทุจริต ทรงสรุปไว้ในที่นี้ ๔ ประการ คือ

 

๑.ไม่ประมาทในการละกายทุจริต  คือ การประทุษร้ายต่อชีวิต ทรัพย์สินคู่ครองของคนอื่น แต่ประพฤติตนอยู่ในสุจริตทางกาย ด้วยการงดเว้นจากการประทุษร้าย ให้ความเคารพต่อสิทธิในชีวิตทรัพย์สิน คู่ครองของคนอื่น

 

 

๒.ไม่ประมาทในการละวจีทุจริต  คือ การพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล แต่เป็นคนดำรงตนอยู่ในคำสัตย์คำจริง ส่งเสริม สามัคคี กระชับสามัคคี มีถ้อยคำไพเราะอ่อนหวานจากฐานจิตที่เมตตาต่อคนฟัง และพูดถ้อยคำที่คนฟังได้คำตอบว่า ตอนได้ประโยชน์อะไรจากการฟัง

 

 

๓.ไม่ประมาทในการละมโนทุจริต  คือ ละความโลภอยากได้ของของคนอื่น ความพยาบาทปองร้ายคนอื่น ความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม แต่มีจิตที่ประกอบด้วยความไม่โลภอยากได้ของของใครๆ ไม่พยาบาทปองร้ายใคร มีความเห็นชอบตามทำนองคลองธรรม

 

 

๔.ไม่ประมาทในการละความเห็นผิด  คือ เห็นการกระทำไม่เป็นการกระทำ ผลทั้งหลายไม่ได้มาจากเหตุ หรือเห็นว่า กรรมสังสารวัฏ และพระพุทธเจ้าไม่มี เป็นต้น แต่กลับมีความเห็นเป็นสัมมาทิฏฐิ คือ เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่า การกระทำทุกอย่างมีผล ผลทั้งหลายล้วนมาจากเหตุและเห็นว่า กรรมมีสังสารวัฏมี และท่านที่รู้แจ้งโลกนี้แล้วสอนให้บุคคลรู้แจ้งตามมีอยู่ เป็นต้น

 

 

สรุปว่า ทรงสอนให้ครองชีวิตอย่างมีสติ สัมปชัญญะ หรือปัญญาเป็นหลัก เพราะความไม่ประมาทก็คือ การครองชีวิตอย่างมีสติ ปัญญา นั่นเอง


ขอบคุณข้อมูลจาก:faith.haijai.

โพสต์โดย : monnyboy