Social :



การปลูกมะละกอ แบบพอเพียง

09 พ.ย. 60 13:11
การปลูกมะละกอ แบบพอเพียง

การปลูกมะละกอ แบบพอเพียง

การปลูกมะละกอ แบบพอเพียง


ลักษณะโดยทั่วไปของ มะละกอ นั้นสามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพภูมิอากาศ ขึ้นในบริเวณที่เป็นดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี น้ำไม่ท่วมขังมาก ดินมีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 6.0-6.8 ซึ่งประโยชน์ของมะละกอนั้น สามารถใช้ผลบริโภคได้ ทั้งผลดิบและผลสุก ยางมะละกอสามารถนำไปต้มเพื่อเพิ่มการเปื่อยยุ่ยของอาหารได้ ยางมีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างอ่อน ยอดอ่อนนำมาต้มสุกรับประทานได้ดีแก้ร้อนใน มะละกอเป็นผลไม้ยืนต้น ที่คนไทยนิยมรับประทานกันอย่างแพร่หลาย มีรสอร่อย หวาน ทั้งมะละกอดิบเมนูที่นิยมกันมากก็คือ ส้มตำ ส่วนมะละกอสุก ก็สามารถนำไปรับประทานสดเพื่อสุขภาพ หรือแปรรูปในลักษณะต่างๆ ที่เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ในส่วนของ การปลูกมะละกอ นั้นสามารถทำได้แต่ต้องใช้ความอดทนและการเรียนรู้ตลอด มีเกษตรกรผู้ปลูกมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์และพันธุ์แขกดำ ในประเทศไทยได้ผลเป็นที่น่าพอใจหลายท่าน ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวเป็นอย่างดี


วิธีการปลูกมะละกอ

การเตรียมดินสำหรับเพาะกล้า โดยทั่วไป การใช้ดินสำหรับเพาะกล้านั้น มีส่วนผสม คือ ดินร่วน 3 บุ้งกี๋ ผสมกับ ปุ๋ยคอก , ขี้เถ้าแกลบ , ทรายหยาบ อัตราส่วน 1:1:1 ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาใส่ลงในถุงพลาสติกขนาด 4×6 หรือ 4×4 นิ้ว ให้เต็ม รดน้ำดินในถุงให้ชุ่ม นำเมล็ดพันธุ์มาหยอดลงในถุง ถุงละ 1-2 เมล็ด คอยหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้เปียกจนเกินไป คอยดูแลรักษารดน้ำทุกวัน หลังจากเมล็ดเริ่มงอกแล้ว ดูแลรักษาต้นกล้าประมาณ 30 วัน ก็สามารถย้ายต้นกล้าลงปลูกในหลุมปลูกได้


การเตรียมแปลงปลูกมะละกอ

มะละกอนั้น จัดได้ว่าเป็นพืชที่มีระบบรากลึกและกว้าง ควรทำหลุมปลูกระยะห่างระหว่างแถว 2-2.5 เมตร ระหว่างต้น 2 เมตร ตีหลุมลึก 0.5 เมตร แล้วรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมี 15-15-15 อัตราประมาณ 1 ช้อนแกงต่อหลุม ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักที่สลายตัวดีแล้ว ทับบนปุ๋ยเคมีอีกที แล้วนำต้นกล้ามะละกอ ลงปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ กลบโคนเล็กน้อยด้วยดินและปุ๋ยหมัก ปิดด้วยฟางหรือแกลบ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม หลังปลูกเสร็จให้ทำหลักเพื่อยึดลำต้นมะละกอ ไม่ให้โยกขณะลมพัด


การดูแลรักษาต้นมะละกอ

  • การให้ปุ๋ย ควรให้ปุ๋ย 15-15-15 หลุมละ 1 ช้อนแกง ทุก 30 วัน และควรให้ปุ๋ย 14-14-21 หลังติดดอกออกผลแล้ว ในอัตรา 1 ช้อนแกงต่อต้น ต่อหลุม หรือจะใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์น้อยลงก็ได้
  • การให้น้ำ เนื่องจากมะละกอเป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย แต่ไม่ควรให้ขาดน้ำ เพราะจะทำให้ต้นแคระแกรน ไม่ติดดอกออกผล การให้น้ำอย่าให้มากเกินไป ถ้าน้ำท่วมขังนาน 1-2 วัน ต้นมะละกอเกิดบวมน้ำ มีอาการใบเหลืองและต้นจะเน่าและตายในที่สุด
  • การพรวนดินกำจัดวัชพืช ควรมีการพรวนดินกำจัดวัชพืชในช่วงแรก อย่าให้วัชพืชรบกวน
  • การทำไม้หลัก เพื่อค้ำยันพยุงลำต้นไม่ให้ล้ม โดยเฉพาะช่วงติดผล

การเก็บเกี่ยวมะละกอ

ถ้าเก็บผลดิบสามารถเก็บได้หลังปลูกประมาณ 5-6 เดือน แต่ถ้าเก็บผลสุกหลังจากปลูกประมาณ 8-10 เดือน ถึงสามาถเก็บเกี่ยวได้ ให้เลือกเก็บเกี่ยวผลที่กำลังเริ่มสุกมีสีแต้มสีส้มปนเขียวนิดๆ ผลยังไม่นิ่ม


การปลูกและการดูแลรักษามะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์

การปลูกมะละกอฮอลแลนด์ : นิยมปลูกโดยวิธีการเพาะเมล็ดแล้วย้ายกล้าลงแปลงปลูก เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ประมาณ 1 เดือน


วิธีการเพาะเมล็ด

  • นำเมล็ดมะละกอแช่น้ำ 3 คืน โดยเปลี่ยนน้ำที่แช่บ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง
  • นำเมล็ดมะละกอมาเพาะในถุงดินที่เตรียมไว้โดยให้ใส่ 3-4 เมล็ด / ถุง
  • รดน้ำให้ชุ่ม ประมาณ 9-10 วัน เมล็ดก็จะงอก
  • ทำการรดน้ำพอชุ่มวันละ 1 ครั้ง

ขั้นตอนการเตรียมดินและปลูกมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์

  • ทำการเตรียมพื้นที่ โดยการไถ ทำการตากดินไว้ประมาณ 5 วัน
  • ขุดหลุมลึกประมาณ 30 ซม . ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2.5X 2.5 เมตร 1 ไร่ จะปลูกได้ ราว 250 ต้น และรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์
    Lif
  • นำต้นมะละกอปลูกในหลุม กลบดินให้แน่น

การดูแลรักษา

  • รดน้ำพอชุ่ม
  • ใส่ปุ๋ยสูตรผสม 12-15-20 โดยระยะการให้ปุ๋ยคือ 1 เดือน / ครั้ง
  • หลังจากที่ลงปลูกมะละกอไปได้ประมาณ 3 เดือน มะละกอทั้ง 3 ต้นที่อยู่ในหลุมเดียวกันจะเริ่มออกดอก ให้ทำการตัดต้นที่เป็นตัวผู้และตัวเมียทิ้ง เหลือไว้แต่ ต้นกะเทย เนื่องจากต้นกะเทยจะให้ผลที่ดก และลูกมะละกอที่ออกมาจะยาวสวย เนื้อหนากว่าต้นที่เป็นตัวเมียและตัวผู้ โดยการสังเกตต้นกะเทยนั้นก็ให้ทำการแหวกกลีบดอกดู ถ้าต้นไหนที่มีทั้งเกสรตัวเมียและตัวผู้อยู่ในดอกเดียวกัน
  • หลังจากต้นมะละกออายุได้ 8 เดือนไปแล้ว ก็จะสามารถเก็บผลขายได้ทุกสัปดาห์ ไปจน 3 ปี ต้นมะละกอจึงจะหมดอายุ ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ ต้องตัดทิ้ง ปลูกใหม่

เกร็ดเพิ่มเติม

  • การปลูกมะละกอฮอลแลนด์ จะให้ผลผลิต เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 100 กก . ต่อ ต้น ตลอดอายุการเพาะปลูก
  • ราคาผลผลิตที่ขายได้จะอยู่ที่ 8-16 บาท ต่อ กิโลกรัม
  • ราคาเมล็ดพันธุ์ กิโลกรัมละประมาณ 1,000 บาท เมล็ดพันธุ์ 1 กิโลกรัม สามารถนำมาขยายพันธุ์ปลูกได้ประมาณ 50 ไร่
  • หลังย้ายปลูก 9 เดือนก็สามารถเก็บผลสุกมะละกอจำหน่ายได้ โดยสังเกตดูที่ผลหากมีแต้มปรากฏอยู่บนผล 2-3 แต้มก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
  • สภาพอากาศร้อนจะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนดอกกระเทยให้กลายเป็นดอกตัวเมีย และถ้ามีอากาศร้อนมาก จะทำให้มะละกอไม่ติดดอกได้ จึงควรให้มีความชื้นอย่างเพียงพอในช่วงที่มีอากาศร้อนจัด
  • มะละกอจะมีราคาแพงขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคม - กันยายน


ลักษณะประจำพันธุ์ของมะละกอฮอลแลนด์

มะละกอฮอลแลนด์ ลำต้นใหญ่สีเขียว ใบมี 11 แฉกใหญ่ กลางใบมีกระโดงใบ 1 ใบ ก้านใบมีสีเขียวตั้งขึ้น ดอกออก เป็นช่อ ติดผลดก รูปทรงกระบอกคล้ายลูกฟักอ่อน อายุ เก็บเกี่ยว 8 เดือน น้ำหนักผลประมาณ 800-2,000 กรัม ต่อผล เนื้อสีแดงอมส้ม ไม่เละ เนื้อหนา 2.5-3.0 เซนติเมตร ความหวานวัดได้ 11-13 องศาบริกซ์ ผลผลิตต่อต้น 60-80 กิโลกรัม จุดเด่นที่มองออกง่ายมากว่าผลมะละกอฮอลแลนด์เป็นอย่างไรนั้น ที่ปลายผลจะป้านคล้ายผลฟักอ่อน


ลักษณะเด่นของมะละกอฮอลลแลนด์ คือ ไม่มีกลิ่นยาง เนื้อหนา รสหวาน เปลือกหนา ทนทานต่อโรค ทนทานต่อการขนส่งให้ผลดก เนื้อแน่นแข็ง น้ำหนักดี รสชาติหวาน ทนทานต่อโรค มีตลาดรองรับ มะละกอพันธุ์นี้มีอายุเก็บเกี่ยว 8 เดือน น้ำหนักผลอยู่ที่ประมาณ 0.8-1.2 กก . ต่อผล เนื้อมีสีแดงอมส้ม ไม่เละ เนื้อหนา 2.5-3.0 เซนติเมตร ผลผลิตต่อต้น 60-80 กิโลกรัม การปลูกมะละกอ พันธุ์ฮอลแลนด์นี้สามารถปลูกได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ ยกเว้นพื้นที่น้ำขัง ดินที่เหมาะสมควรเป็นดินเหนียวปนทราย


สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกมะละกอฮอลแลนด์ :

วิธีปลูกมะละกอ สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ ยกเว้นพื้นที่น้ำขัง ดินที่ เหมาะสมมีความเป็นกรดเป็นด่าง 5.5-5.0 ระยะปลูก 2.5×3 เมตร ไร่หนึ่งปลูกได้ 224 ต้น หากปลูกแล้ว ให้น้ำสม่ำเสมอ มะละกอจะให้ผลผลิตที่ดีมาก ปุ๋ยที่ใส่ให้ เริ่มต้นที่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก สำหรับปุ๋ยวิทยาศาสตร์ใช้ สูตร 15-15-15 ระยะที่ติดผลอ่อน ก่อนการเก็บเกี่ยวใส่ สูตร 13-13-21 ใส่รอบๆ ต้น จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อต้น เมื่อปลูกได้ 7-8 เดือน มะละกอฮอลแลนด์จะสุกแก่ เริ่มเก็บได้ ปริมาณผลผลิต หากดูแลปานกลาง จะได้ผลผลิตราว 5-8 ตัน ต่อไร่สำหรับ การปลูกมะละกอ แบบนี้


วิธีการเก็บเกี่ยว  

เลือกเก็บเฉพาะผลที่สุก 5-10 เปอร์เซ็นต์ คือ ผิวมีแต้มสีเหลืองเล็กน้อย




ที่มา// kasetorganic.com

โพสต์โดย : AEK LIGOR