Social :



@วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา

20 พ.ย. 60 23:11
@วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา

@วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

     สถานที่ตั้ง  อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นวัดที่ประดิษฐาน "พระพุทธสกลสีมามงคล" เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า "หลวงพ่อขาว" หรือ "หลวงพ่อใหญ่" เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ ขนาดหน้าตักกวัาง 27 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตรหรือ 56 วา หมายถึง พระพุทธคุณ 56 ประการ ส่วนความสูงขององค์พระ 45 เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ 45 พรรษา หรือเรียกว่าทรงทำพุทธกิจอยู่ 45 พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้วทางขึ้นไปนมัสการองค์พระเป็นบันไดแยกออกสองข้าง เป็นรูปโค้งเว้าเหมือนขอบใบโพธิ์ นับรวมทั้งด้านซ้ายและขวาทั้งหมด 1,250 ขั้นซึ่งหมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกัน โดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา

    เส้นทางการเดินทาง ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า ตำบลกลางดง แยกจากทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-สระบุรี) หลักกิโลเมตรที่ 150 ไปตามถนนลาดยางอีก 3 กิโลเมตร

     ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : ททท. สำนักงานนครราชสีมา โทร. 0 4421 3666, 0 4421 3030
http://www.tourismthailand.org/nakhonratchasima

ทางเข้าวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

     ทางเข้าวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม วัดเทพพิทักษ์ปุณณารามเป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ หลวงพ่อขาวหรือหลวงพ่อใหญ่นี้สามารถมองเห็นได้แต่ไกลแม้จากบนถนนมิตรภาพ ทีมงานทัวร์ออนไทยก็เห็นพระพุทธรูปองค์นี้มาช้านาน แต่ไม่เคยได้เข้าไปเลย วันนี้จึงได้ตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าไปกันซักที

พระพุทธสกลสีมามงคล

     พระพุทธสกลสีมามงคล ด้วยขนาดใหญ่ขององค์พระพุทธรูปแม้ประดิษฐานบนเขาก็ยังโดดเด่นเห็นได้แต่ไกลตัดกับสีของต้นไม้บนเขาที่เป็นฉากหลังได้ชัดเจน

กระรอกขาว

     กระรอกขาว หลังจากที่เราจอดรถแล้วเดินลงมาจากรถ เราจะเห็นว่าในวัดมีสัตว์มากมายหลายอย่าง เดินกันเต็มไปหมดไม่กลัวคนเลย มีทั้งกระต่าย นกยูง

MulticollaC
ไก่ ส่วนกระรอกขาวก็มีให้เห็นหลายตัวอยู่บนต้นไม้ถ้าตาไวก็จะได้เห็นความน่ารักของมัน

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

ลานสำหรับกราบพระ

     ลานสำหรับกราบพระ บริเวณนี้เป็นบริเวณห้ามให้อาหารไก่ ประชาชนสามารถเดินขึ้นไปกราบพระบนชั้นไม้ที่ยกระดับขึ้น ใกล้ๆ ลานกราบพระมีพื้นที่กว้างถ้าได้เดินดูรอบๆ จะเห็นมีพระพุทธรูปอยู่หลายองค์แล้วยังมีแท่นกราบพระ มีต้นสาละอินเดียที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานให้วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม วันที่ 4 กรกฎาคม 2548

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

     บริเวณนี้เป็นจุดสุดท้ายที่มีการสร้างเป็นลานกว้าง เป็นส่วนบนสุดของบันไดที่น่าจะเรียกว่าช่วงที่หนึ่ง หลังจากตรงนี้ไปจะมีบันไดขึ้นไปบนเขาได้อีก 2 ด้าน หรืออาจจะทำไว้เป็นทางขึ้นและทางลง บนลานแห่งนี้มีรูปจำลองพระญาณสิทธาจารย์ (สิงห์ สุนฺทโร) (หลวงปู่เมตตาหลวง) ผู้นำธรรมเมตตาหลวงเผยแผ่ อดีตเจ้าอาวาส และพระสุทธิธรรมรังษีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมฺมธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดอโศการาม ผู้ดำริสร้างหลวงพ่อขาวและอารามแห่งนี้

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

มองย้อนกลับไปจะเห็นว่าเดินมาไกลเหมือนกันนะนี่เล่นเอาหอบเลย

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

     หลังจากไหว้พระหลวงพ่อขาวบนเขาแล้วก็ลงมาเดินดูรอบๆ วัดอีกหน่อยก่อนที่จะเดินทางกันต่อ ในวัดร่มรื่นดี บนเขาวิวก็สวยด้วย

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

อรหันต์แห่งโชคลาภ

อรหันต์แห่งโชคลาภ

นกยูง

    นกยูง อยู่กันอย่างอิสระในวัด เดินไปเดินมาไม่ค่อยกลัวคน แต่ถ้าเราทำท่าเดินเข้าใกล้มันมากไปมันก็จะเดินหนีรักษาความห่างตลอดเวลาเหมือนกัน ได้เห็นนกยูงตามวัดตามเขาเดินเล่นชิลๆ แบบนี้รู้สึกดีต่อใจกว่าไปดูนกยูงในสวนสัตว์อะนะ จบการพาเที่ยววัดพระขาวหรือวัดเทพพิทักษ์ปุณณารามไว้แค่นี้จ้า

ขอบคุณข้อมูลจาก

touronthai.com

โพสต์โดย : ต้นน้ำ