"มะม่วงมะพร้าว" กับที่มาพันธุ์หวานดกใหญ่

มะม่วงชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิม อยู่ที่ประเทศปากีสถาน แล้วได้มีเกษตรกรชาวไต้หวันนำเอาพันธุ์ไปปลูกและขยายพันธุ์ในประเทศตัวเองนานกว่า 20 ปีแล้ว และได้เก็บเอาผลทั้งดิบและผลสุกออกวางขายในประเทศไต้หวัน ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อไปรับประทานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากรับประทานอร่อยทั้งผลดิบและผลสุกคือ ผลแก่จัดยังไม่ถึงสุกจะมีรสชาติมันกรอบ เช่นเดียวกับมะม่วงมันทั่วไป ส่วนผลสุกเนื้อหวานไม่มีเสี้ยน กินกับข้าวเหนียวมูน หรือกินเป็นผลไม้เปล่าๆ อร่อยดีมาก ในประเทศไทย มีผู้นำเอาพันธุ์เข้ามาปลูกนานแล้ว โดยตั้งชื่อว่า “มะม่วงมะพร้าว” เพราะขนาดของผลจะใหญ่เท่ากับผลของมะพร้าวน้ำหอมทั่วไปอย่างชัดเจน และนิยมเรียกชื่อดังกล่าวเรื่อยมาจนกระทั่งปัจจุบัน ส่วนชื่อจริงๆไม่มีใครรู้

มะม่วงมะพร้าว มีชื่อวิทยาศาสตร์และมีลักษณะทางพฤกษศาสตร์เหมือนกับต้นมะม่วงทั่วไปเกือบทุกอย่างคือ เป็นไม้ยืนต้น

แต่ต้นของ “มะม่วงมะพร้าว” จะสูง 5-7 เมตรเท่านั้น ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่บริเวณปลายยอด ปลายแหลม โคนมน ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกเป็นสีเหลืองนวล มีกลิ่นหอมเย็น “ผล” รูปกลมรี ปลายผลแหลม ผลมีขนาดใหญ่ตามที่กล่าวข้างต้น ผลโตเต็มที่จะใหญ่ประมาณผลของมะพร้าวน้ำหอมทั่วไป ติดผลเป็นพวง 10–15 ผลต่อพวง ผู้ปลูกจึงจะต้องเด็ดผลอ่อนทิ้งบ้าง เนื่องจากหากปล่อยให้ผลดกมากเกินไปกิ่งต้นจะรับน้ำหนักไม่ได้ ผลดิบยังไม่ถึงแก่จัด ใช้มีดปอกเปลือกรับประทานเป็นมะม่วงมันได้เลย ผลสุกเนื้อแน่นเหนียวไม่เละแม้สุกงอม ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวานหอมรับประทานอร่อยมาก เมล็ดเล็กและลีบบาง จึงทำให้มีเนื้อเยอะเป็นธรรมชาติ ความหวานของเนื้อสุกวัดความหวานได้ประมาณ 14–15 องศาบริกซ์ มีดอกและติดผลดกตามฤดูกาลปีละครั้ง ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ตอนกิ่ง ทาบกิ่ง ติดตา และเสียบยอด

//thairath